“เอกชนกระบี่-ภูเก็ต” เรียกร้องเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-เรียกความเชื่อมั่น

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - รมว.ท่องเที่ยว นำทูต-สื่อมวลชน ทั้งไทยและต่างชาติ โปรโมตสนามบินภูเก็ต และกระบี่หลังเข้าสู่ภาวะปกติ หวังเรียกความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับภายหลังพันธมิตรฯปิดสนามบิน ขณะที่เอกชนเรียกร้องรัฐบาลเร่งยกเลิก พ.ร.ก.ฉุนเฉิน และสร้างความเชื่อมั่นให้นักเที่ยวต่างชาติเห็นถึงความปลอดภัยที่สนามบินและไม่มีเหตุการณ์ปิดสนามบินอีก หวั่นนักเที่ยวกลุ่มที่กำลังตัดสินใจเดินทางหนีหากยังไม่มั่นใจ

วันนี้ (10 ก.ย.) นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายบรู๊ก แบริงตั้น เอกอัครราชทูตนิวซีแลนด์ประจำประเทศไทย พร้อมคณะเดินทางประชุมร่วมกับ นายนิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นางธันยรัศน์ อัจฉริยะฉาย ประธานคณะกรรมาธิการการท่องเที่ยว วุฒิสภา ร้อยโทภูมิศักดิ์ หงษ์หยก รองประธานคณะกรรมาธิการท่องเที่ยว วุฒิสภา นายสมบูรณ์ จิรายุส นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายกฤษ ศรีฟ้า นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต สมาคมโรงแรมไทยภาคใต้ ท่าอากาศยานภูเก็ต หอการค้าภูเก็ต รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมสำนักงานการท่าอากาศยานภูเก็ต

เพื่อหารือในการฟื้นฟูและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางมาท่องเที่ยวในอันดามัน ภายหลังเหตุการณ์เปิดสนามบินภูเก็ต กระบี่ และหาดใหญ่ ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ระหว่างวันที่ 29-31 สิงหาคม ที่ผ่านมา จนส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตและอันดามัน รวมไปถึงการพัฒนาการท่องเที่ยวภูเก็ต และการพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ต

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในพื้นที่อันดามันทั้ง 3 จังหวัดได้ยื่นเสนอกับทางรัฐมนตรีว่ากระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ทั้งหมด 4 ข้อ คือ 1.ขอให้รัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ภาวะฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด 2.ให้รัฐบาลเร่งทำการประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว 3.ให้เชิญทูตจาก 23 ประเทศที่ออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยโดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดอันดามัน และ 4.สร้างความเชื่อมั่นที่สนามบินว่ามีความปลอดภัยและไม่มีการปิดสนามบินอีกแล้ว

นายภูริต มาศวงศา อุปนายกฝ่ายการตลาด สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวทั้ง 3 จังหวัดได้หารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและข้อเสนอแนะถึงรัฐบาลในการเรียกความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวกลับมา เพราะหลังจากที่มีการปิดสนามบินภูเก็ตในช่วงที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวยกเลิกการจองห้องพักทันทีพอสมควร ซึ่งการปิดล้อมสนามบินที่ภูเก็ตนั้นมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่กรุงเทพฯ

โดยขณะนี้มีอัตราเข้าพักในภูเก็ตประมาณ 30% และนักท่องเที่ยวกลุ่มแรกที่จะเดินทางเข้ามาระหว่าง ก.ย-ต.ค.นั้น ตัวเลขการท่องเที่ยวยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่กลุ่มที่น่าเป็นห่วง คือ กลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ระหว่างการตัดสินใจเดินทาง หากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไม่มั่นใจก็จะยกเลิกการเดินทางเข้ามา

“สิ่งที่อยากเรียกร้องรัฐบาลดำเนินการอย่างเร่งด่วน คือ การเชิญสื่อมวลชนจากต่างประเทศเข้ามา เพื่อนำเสนอภาพลักษณ์ความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกลับไปเผยแพร่ยังประเทศของเขา แทนการออกไปทำโรดโชว์ เพราะภาพที่นำเสนอนั้นจะสื่อไปถึงผู้บริโภคโดยตรง และรู้ได้ด้วยตัวผู้บริโภคเอง หลังจากนั้นทางภาคเอกชนทั้ง 3 จังหวัดจะร่วมกันจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ด้วยการทำโปรโมชั่นขึ้นมาทั้งเกาะ เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเลือกเดินทางเข้ามาทันที” นายภูริต กล่าว

ด้าน นายอภิชาติ สังฆอารี นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว (ATTA) กล่าวว่า สิ่งที่จะดึงให้นักท่องเที่ยวกลับมาโดยเร็วนั้น ไม่ใช่เรื่องของการทำตลาดด้วยการลดราคา แต่เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวมากกว่า ซึ่งสิ่งสำคัญจะต้องทำให้นักท่องเที่ยวเห็นถึงความปลอดภัยที่สนามบินรวมไปถึงการไม่มีเหตุการณ์ปิดสนามบินอีก และการยกเลิกพรก.ภาวะฉุกเฉิน เพราะไม่ว่าจะมีการทำตลาดสักแค่ไหนก็ตาม หากนักท่องเที่ยวไม่เห็นถึงความปลอดภัยก็จะไม่เดินทางมาโดยเด็ดขาด

ขณะที่ นายกฤษ ศรีฟ้า นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพังงา กล่าวว่า สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะการยกเลิก พ.ร.ก.ภาวะฉูนเฉินนั้นจะต้องเร่งดำเนินการ

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า สิ่งแรกที่จะต้องทำคือจะไม่มานั่งกลุ่มใจกับเรื่องของตัวเลขความเสียหายที่เกิดขึ้น ทุกคนจะมองต้องข้ามสิ่งเหล่านี้ไปให้ได้ และจะหันต้องมาพูดกันถึงเรื่องที่จะต้องเดินหน้าต่อไป รวมถึงการสร้างบรรยากาศทางด้านการท่องเที่ยว ซึ่งสิ่งแรกที่จะต้องทำคือการเข้าไปคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งขณะนี้ค่อยๆ คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น การหามาตรการการป้องกันการปิดสนามบินอีก ซึ่งได้มีการเรียนรู้แล้วว่าการป้องกันที่ดีที่สุดนั้นไม่ได้มาจากกรุงเทพ แต่เป็นการสื่อสารที่ดีระหว่างคนในพื้นที่ เพื่อให้เห็นว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามานั้นไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือการใช้อำนาจของรัฐ เชื่อว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นบทเรียนที่จะไม่มีการมาปิดล้อมสนามบินกันอีก

รวมทั้งจะต้องพยายามที่จะผลักดันให้มีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แม้จะมีการประกาศเฉพาะที่กรุงเทพฯก็ตาม แต่สำหรับโลกภายนอกนั้นไม่ได้มีการแยกแยะว่ากรุงเทพฯกับภูเก็ตมีความแตกต่างกัน แม้ว่าประกาศดังกล่าวจะไม่กระทบกับวิถีชีวิตประชาชนก็ตาม แต่ประกาศดังกล่าวกลับไปกระทบกับความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยว นักลงทุนที่จะเข้ามา เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวควรจะต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินเสีย ซึ่งเรื่องนี้ตนได้นำหารือในการประชุม ครม.แล้ว ทั้งนายกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องกับปัญหานี้ และในการประชุม ครม.ครั้งต่อไปจะมีการทวงถามถึงเรื่องนี้

นายวีระศักดิ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ จะต้องนำสื่อต่างประเทศเข้ามาในพื้นที่ เพื่อให้เห็นสถานที่จริง ซึ่งได้เริ่มดำเนินการแล้ว โดยวันนี้มีทั้งสื่อไทย และสื่อต่างประเทศ ทั้งรอยเตอร์ CNN NHK เข้ามาดูสถานที่จริงทั้งภูเก็ตและจังหวัดกระบี่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากกลับไปสื่อเหล่านี้จะนำเสนอภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในปัจจุบันให้คนในต่างประเทศได้รับทราบได้ว่าสนามบินทั้งที่ภูเก็ตและกระบี่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว และจะไม่มีเหตุการณ์ปิดสนามบินอีก

นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกจากมาสร้างความเชื่อมั่นด้วยการนำสื่อมวลชน ทั้งจากส่วนกลางและต่างประเทศเข้ามาดูว่าสนามบินภูเก็ตและกระบี่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว การเดินทางมาภูเก็ตครั้งนี้ก็เพื่อที่จะมารับทราบแผนพัฒนาท่าอากาศยานภูเก็ตในการรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้น การอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์ที่เข้ามาโดยเครื่องบินเจ๊ตส่วนตัว และการก่อสร้างศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติภูเก็ต