ทรู วิชั่นส์ ทุ่มเม็ดเงินอีก 70 ล้าน พัฒนาช่องรายการสถานีข่าว 24 ชม.“TNN” คาดดึงฐานสมาชิกเพิ่ม หวังปีหน้าพร้อมหารายได้เลี้ยงตัวเองได้ เตรียมลุยเน็ตเวิร์กด้านวิทยุ และเคเบิลในประเทศสหรัฐอเมริกา
นายสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) และผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ข่าว เปิดเผยว่า เดิมทาง ทรู วิชั่นส์ มีช่องรายการข่าว ยูบีซี 7 ที่มีการนำเสนอข่าวอยู่แล้ววันละ 6 ชั่วโมง หลังจากนั้น พัฒนามาเป็นช่อง NEWs24 ที่มีการนำเสนอข่าวเพิ่มเป็น 12 ชั่วโมง ที่เหลือจะเป็นรายการต่างๆ แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่า รายการข่าวเป็นอีกหนึ่งรายการที่สมาชิกและผู้ชมทั่วไปให้ความสนใจมากขึ้น
ดังนั้น เมื่อปลายปีที่แล้ว บริษัทจึงจัดทำช่องรายการข่าวแบบ 24 ชม.ขึ้นมา ภายใต้ชื่อ TNN หรือ สถานีข่าว Thai News Network ออกอากาศทางทรูวิชั่นส์ 07 โดยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการวานนี้ (9 ก.ย.) พร้อมเปิดช่อง TNN2 ทาง ทรู วิชั่นส์ 08 รองรับรายการต่างๆ ที่ให้สาระความรู้ จากที่เคยนำเสนอมากับช่อง NEWs24 ต่อด้วย
การลงทุนทำสถานีข่าวนี้ ถือเป็นการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งใช้ไปในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท ในการเพิ่มเครื่องมือ อุปกรณ์ ตกแต่งออฟฟิศใหม่ ขณะที่จำนวนบุคลากรได้เพิ่มเป็น 200 คน จากเดิม 100 คน ประกอบจากทีมข่าวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทีมทีไอทีวีเดิม, เนชั่น, ฟรีทีวี และทีมของทีเอ็นเอ็นเอง ในลักษณะสัญญาจ้าง ขณะที่ค่าใช้จ่ายต่อปีอยู่ประมาณ 100 ล้านบาท หรือแต่ละเดือนอยู่ที่ 10 ล้านบาท รับผิดชอบในส่วนของเงินเดือนพนักงานและสวัสดิการต่างๆ
ทีเอ็มเอ็น เป็นช่องรายการข่าวที่จะสามารถช่วยเพิ่มฐานสมาชิกของ ทรู วิชั่นส์ ได้ ซึ่งจากผลสำรวจของทาง เอซี นีลเส็น พบว่า ช่องทีเอ็นเอ็น เป็น 1 ใน 5 ช่องรายการของทาง ทรู วิชั่นส์ ที่มีผลต่อการรับชมมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ทีเอ็นเอ็นไม่ได้เน้นแสวงหากำไรมุ่งนำเสนอรายการข่าว และสามารถเลี้ยงตังเองได้ เพราะตามกฎหมายสามารถโฆษณาได้เพียง 5 นาที ดังนั้น ฐานรายได้ที่จะมาจากโฆษณาจะเป็นลักษณะของการมีสปอนเซอร์สนับสนุนรายการ หรือการโฆษณาแบบส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร ซึ่งขณะนี้มีอยู่หลายราย เช่น ปตท, ซัมซุง, ททท.และบัตรกรุงไทยเครดิตคาร์ด โดยรายได้เหล่านี้ถือว่ายังน้อยมากเมื่อเทียบกับรายจ่ายที่ 100 ล้านบาทต่อปี แต่เชื่อว่า ในปีหน้า ทางสถานีจะสามารถหารายได้เลี้ยงตัวเองได้
ส่วนแผนการดำเนินงานหลังจากนี้ ทางสถานีจะขยายการรายงานข่าวไปสู่เน็ตเวิร์กด้านอื่นๆเพื่อให้เข้าถึงผู้ชมได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ ที่จะมีการเจรจากับทาง อสมท หรือโทรศัพท์มือถือที่จะร่วมกับทางทรูมูฟ รวมถึงเคเบิลท้องถิ่น ที่จะมีการเจรจาเพื่อให้สามารถนำรายการไปเผยแพร่แบบถูกกฎหมายในอนาคต และการเข้าไปเจรจากับทางผู้ให้บริการเน็ตเวิร์กโทรทัศน์รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา กับฐานสมาชิกกว่า 20 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ ที่มีแผนจะจัดทำแพกเกจไทย ต้องการ 3 ช่องไปเผยแพร่แก่ผู้ชมที่นั่น เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นแบบภาษาไทยก่อน
นายสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรู วิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) และผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ข่าว เปิดเผยว่า เดิมทาง ทรู วิชั่นส์ มีช่องรายการข่าว ยูบีซี 7 ที่มีการนำเสนอข่าวอยู่แล้ววันละ 6 ชั่วโมง หลังจากนั้น พัฒนามาเป็นช่อง NEWs24 ที่มีการนำเสนอข่าวเพิ่มเป็น 12 ชั่วโมง ที่เหลือจะเป็นรายการต่างๆ แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่า รายการข่าวเป็นอีกหนึ่งรายการที่สมาชิกและผู้ชมทั่วไปให้ความสนใจมากขึ้น
ดังนั้น เมื่อปลายปีที่แล้ว บริษัทจึงจัดทำช่องรายการข่าวแบบ 24 ชม.ขึ้นมา ภายใต้ชื่อ TNN หรือ สถานีข่าว Thai News Network ออกอากาศทางทรูวิชั่นส์ 07 โดยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการวานนี้ (9 ก.ย.) พร้อมเปิดช่อง TNN2 ทาง ทรู วิชั่นส์ 08 รองรับรายการต่างๆ ที่ให้สาระความรู้ จากที่เคยนำเสนอมากับช่อง NEWs24 ต่อด้วย
การลงทุนทำสถานีข่าวนี้ ถือเป็นการลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งใช้ไปในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท ในการเพิ่มเครื่องมือ อุปกรณ์ ตกแต่งออฟฟิศใหม่ ขณะที่จำนวนบุคลากรได้เพิ่มเป็น 200 คน จากเดิม 100 คน ประกอบจากทีมข่าวที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทีมทีไอทีวีเดิม, เนชั่น, ฟรีทีวี และทีมของทีเอ็นเอ็นเอง ในลักษณะสัญญาจ้าง ขณะที่ค่าใช้จ่ายต่อปีอยู่ประมาณ 100 ล้านบาท หรือแต่ละเดือนอยู่ที่ 10 ล้านบาท รับผิดชอบในส่วนของเงินเดือนพนักงานและสวัสดิการต่างๆ
ทีเอ็มเอ็น เป็นช่องรายการข่าวที่จะสามารถช่วยเพิ่มฐานสมาชิกของ ทรู วิชั่นส์ ได้ ซึ่งจากผลสำรวจของทาง เอซี นีลเส็น พบว่า ช่องทีเอ็นเอ็น เป็น 1 ใน 5 ช่องรายการของทาง ทรู วิชั่นส์ ที่มีผลต่อการรับชมมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ทีเอ็นเอ็นไม่ได้เน้นแสวงหากำไรมุ่งนำเสนอรายการข่าว และสามารถเลี้ยงตังเองได้ เพราะตามกฎหมายสามารถโฆษณาได้เพียง 5 นาที ดังนั้น ฐานรายได้ที่จะมาจากโฆษณาจะเป็นลักษณะของการมีสปอนเซอร์สนับสนุนรายการ หรือการโฆษณาแบบส่งเสริมภาพลักษณ์องค์กร ซึ่งขณะนี้มีอยู่หลายราย เช่น ปตท, ซัมซุง, ททท.และบัตรกรุงไทยเครดิตคาร์ด โดยรายได้เหล่านี้ถือว่ายังน้อยมากเมื่อเทียบกับรายจ่ายที่ 100 ล้านบาทต่อปี แต่เชื่อว่า ในปีหน้า ทางสถานีจะสามารถหารายได้เลี้ยงตัวเองได้
ส่วนแผนการดำเนินงานหลังจากนี้ ทางสถานีจะขยายการรายงานข่าวไปสู่เน็ตเวิร์กด้านอื่นๆเพื่อให้เข้าถึงผู้ชมได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ ที่จะมีการเจรจากับทาง อสมท หรือโทรศัพท์มือถือที่จะร่วมกับทางทรูมูฟ รวมถึงเคเบิลท้องถิ่น ที่จะมีการเจรจาเพื่อให้สามารถนำรายการไปเผยแพร่แบบถูกกฎหมายในอนาคต และการเข้าไปเจรจากับทางผู้ให้บริการเน็ตเวิร์กโทรทัศน์รายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา กับฐานสมาชิกกว่า 20 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศ ที่มีแผนจะจัดทำแพกเกจไทย ต้องการ 3 ช่องไปเผยแพร่แก่ผู้ชมที่นั่น เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นแบบภาษาไทยก่อน
