ศ.ว.ก.ของ ททท.การเมืองกระทบท่องเที่ยวสูญรายได้แล้ว 9.4 พันล้านบาท ระบุถ้ายืดเยื้อถึงปลายปีรายได้วูบกว่า 3.1 หมื่นล้านบาท ด้าน “พรศิริ” โยกงบ อัดเงินกู้วิกฤต 25 ล้านบาท เพิ่มแผนทำคลิปวิดีโอ สัมภาษณ์นักท่องเที่ยวในเมืองไทย หวังใช้เป็นทูตส่งสานส์กลับประเทศแจงไทยยังปลอดภัย พร้อมใช้เวทีเทรดโชว์และโรดโชว์ แจงข้อเท็จจริง ด้าน วีระศักดิ์ เป็นกระบอกเสียงให้เอกชน รายงาน ครม.เอกชน วอนยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน
นายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการ ด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะประธานศูนย์ปฎิบัติการวางแผนการท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤต (ศ.ว.ก.) เปิดเผยว่า ศ.ว.ก.ได้ประมวลความเสียหาย จากสถานการณ์ทางการเมือง ที่กระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว และ แนวทางการแก้ไข โดยแบ่งเป็น 3 สมมุติฐาน ระยะ สั้น กลาง และ ยาว บนข้อมูลพื้นฐานที่จัดเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-4 ก.ย.2551
ระยะสั้นสูญเงิน 9.4 พัน ลบ.
เบื้องต้นผลกระทบระยะสั้น หากสถานการณ์ยุติโดยเร็วภายในวันที่ 10 ก.ย.นี้ โดยเฉพาะการยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สถานการณ์ท่องเที่ยวก็จะกลับคืนสู่ภาวะปกติได้ภายใน 10 วัน หลังจากนั้น หรือประมาณ วันที่ 20 ก.ย.2551 ซึ่งการวิเคราะห์นี้ ใช้ข้อมูลจากการเกิดวิกฤตของประเทศไทยในอดีต ที่จะกระทบต่อการท่องเที่ยว พบว่า สถานการณ์จะกลับคืนสู่ปกติได้ภายใน 10 วัน ตรงนี้ ประมาณการว่า ความเสียหายที่เกิดกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กล่าวคือจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลงราว 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หรือประมาณ 247,438 คน ทำให้สูญเสียโอกาสในการได้รับรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็นเงินประมาณ 9,403 ล้านบาท
สำหรับระยะกลาง คือ หากสถานการณ์ยืดเยื้อไปถึง 20 ก.ย.2551 ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางไปถึงวันที่ 30 ก.ย.2551 ก็จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากช่วงเดียวกันถึงปีก่อน เพิ่มเป็น 318,054 คน สูญเสียโอกาสในการได้รับรายได้ 12,086 ล้านบาท ส่วนระยะที่ยาว คือ ยืดเยื้อถึงสิ้นปีจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยว ลดลงไปมากถึง 841,029 คน เสียโอกาสรับรายได้ รวมเป็น 31,960 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ได้สร้างความสูญเสียทางกายภาพแก่แหล่งท่องเที่ยว ดังนั้น เมื่อเหตุการณ์ยุติก็จะใช้เวลาฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วเพียง 7-10 วัน แต่ขณะนี้ ททท.จะร่วมกับภาคเอกชนด้านท่องเที่ยว หาแนวทางให้ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริง เพิ่มการดูแล และ บริการนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาแล้วอย่างจริงใจและดีเยี่ยม ก็ลดผลกระทบที่จะเกิดแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
อัด 25 ลบ.ฟื้นวิกฤตท่องเที่ยว
ทั้งนี้ จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท.กล่าว ททท.ได้จัดสรรงบประมาณราว 20-25 ล้านบาท โดยโยกจากงบการตลาด และประชาสัมพันธ์ มาใช้สำหรับอัดกิจกรรมเพิ่มเติม เพื่อเร่งทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยว ทัวร์โอเปอเรเตอร์ ในต่างประเทศ ถึงสถานการณ์ประเทศไทย ที่ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด โดยจะจัดทำเป็น คลิปวิดิโอ สัมภาษณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งจากประเทศจีน และ ชาวยุโรป ที่อยู่ในเมืองไทยขณะนี้ ให้บอกกล่าวถึงความปลอดภัย และการต้อนรับของคนไทย เพื่อจะนำไปโพสต์ไว้ในบล็อก ตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวเข้าไปหาข้อมูล เสมือนให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้เป็นทูต บอกกล่าวไปยังประเทศของตัวเอง
นอกจากนั้น จะนำคลิปดังกล่าวนี้ ไปฉายให้ทัวร์โอเปอเรเตอร์ ในต่างประเทศได้ชม ในโอกาสที่ ททท.จะเดินทางไปร่วมงานเทรดโชว์ และ โรดโชว์ จากนี้ไปถึงสิ้นปี รวม 21 งาน ทั่วโลก พร้อมใช้เวทีดังกล่าวนี้ นัดพบชี้แจงกับทัวร์โอปอเรเตอร์ และหน่วยงานภาครัฐ ส่วนตลาดคนไทยก็เร่งทำปลายโฆษณาประชาสัมพันธ์ กระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ ททท.กำลังเฝ้าดูว่า จำนวนนักท่องเที่ยวถึงปลายปี จะได้ตามเป้าหมาย 15.5 ล้านคนหรือ ไม่ แต่อย่างน้อย ก็ไม่อยากให้ลดลงไปกว่าปีก่อน ที่ได้ 14.8 ล้านคน”
แจง ครม.ขอยกเลิก พ.ร.ก.
ทางด้าน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในนการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (9 ก.ย.) จะนำข้อเสนอภาคเอกชน ที่ต้องการให้รัฐบาลยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปรายงายต่อที่ประชุม พร้อมเสนอข้อคิดเห็นของกระทรวงฯว่า หาก หมดสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว รัฐบาลก็ควรยกเลิกประกาศเสีย โดยจะตั้งเป็นประเด็นบอกกล่าว เพื่อรับฟังเหตุผลและดูท่าทีของ ครม.
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวง ททท.และเอกชน ที่จะช่วยกันกู้วิกฤตกลับคืนโดยเร็ว และวันพุธนี้ จะลงพื้นที่ภูเก็ต และ กระบี่ ตรวจดูความเดือดร้อน พร้อมคณะสื่อมวลชน โดยจะเชิญทูตต่างประเทศในเมืองไทยลงพื้นที่ด้วย”
นายสุรพล เศวตเศรนี รองผู้ว่าการ ด้านนโยบายและแผน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะประธานศูนย์ปฎิบัติการวางแผนการท่องเที่ยวและศูนย์ปฏิบัติการในภาวะวิกฤต (ศ.ว.ก.) เปิดเผยว่า ศ.ว.ก.ได้ประมวลความเสียหาย จากสถานการณ์ทางการเมือง ที่กระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว และ แนวทางการแก้ไข โดยแบ่งเป็น 3 สมมุติฐาน ระยะ สั้น กลาง และ ยาว บนข้อมูลพื้นฐานที่จัดเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 29 ส.ค.-4 ก.ย.2551
ระยะสั้นสูญเงิน 9.4 พัน ลบ.
เบื้องต้นผลกระทบระยะสั้น หากสถานการณ์ยุติโดยเร็วภายในวันที่ 10 ก.ย.นี้ โดยเฉพาะการยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สถานการณ์ท่องเที่ยวก็จะกลับคืนสู่ภาวะปกติได้ภายใน 10 วัน หลังจากนั้น หรือประมาณ วันที่ 20 ก.ย.2551 ซึ่งการวิเคราะห์นี้ ใช้ข้อมูลจากการเกิดวิกฤตของประเทศไทยในอดีต ที่จะกระทบต่อการท่องเที่ยว พบว่า สถานการณ์จะกลับคืนสู่ปกติได้ภายใน 10 วัน ตรงนี้ ประมาณการว่า ความเสียหายที่เกิดกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว กล่าวคือจะมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลงราว 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หรือประมาณ 247,438 คน ทำให้สูญเสียโอกาสในการได้รับรายได้จากการท่องเที่ยวคิดเป็นเงินประมาณ 9,403 ล้านบาท
สำหรับระยะกลาง คือ หากสถานการณ์ยืดเยื้อไปถึง 20 ก.ย.2551 ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวชะลอการเดินทางไปถึงวันที่ 30 ก.ย.2551 ก็จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงจากช่วงเดียวกันถึงปีก่อน เพิ่มเป็น 318,054 คน สูญเสียโอกาสในการได้รับรายได้ 12,086 ล้านบาท ส่วนระยะที่ยาว คือ ยืดเยื้อถึงสิ้นปีจะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยว ลดลงไปมากถึง 841,029 คน เสียโอกาสรับรายได้ รวมเป็น 31,960 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ได้สร้างความสูญเสียทางกายภาพแก่แหล่งท่องเที่ยว ดังนั้น เมื่อเหตุการณ์ยุติก็จะใช้เวลาฟื้นตัวเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วเพียง 7-10 วัน แต่ขณะนี้ ททท.จะร่วมกับภาคเอกชนด้านท่องเที่ยว หาแนวทางให้ข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริง เพิ่มการดูแล และ บริการนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้ามาแล้วอย่างจริงใจและดีเยี่ยม ก็ลดผลกระทบที่จะเกิดแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยว
อัด 25 ลบ.ฟื้นวิกฤตท่องเที่ยว
ทั้งนี้ จากข้อมูลดังกล่าวข้างต้น นางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการ ททท.กล่าว ททท.ได้จัดสรรงบประมาณราว 20-25 ล้านบาท โดยโยกจากงบการตลาด และประชาสัมพันธ์ มาใช้สำหรับอัดกิจกรรมเพิ่มเติม เพื่อเร่งทำความเข้าใจแก่นักท่องเที่ยว ทัวร์โอเปอเรเตอร์ ในต่างประเทศ ถึงสถานการณ์ประเทศไทย ที่ไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด โดยจะจัดทำเป็น คลิปวิดิโอ สัมภาษณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติ ทั้งจากประเทศจีน และ ชาวยุโรป ที่อยู่ในเมืองไทยขณะนี้ ให้บอกกล่าวถึงความปลอดภัย และการต้อนรับของคนไทย เพื่อจะนำไปโพสต์ไว้ในบล็อก ตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวเข้าไปหาข้อมูล เสมือนให้นักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้เป็นทูต บอกกล่าวไปยังประเทศของตัวเอง
นอกจากนั้น จะนำคลิปดังกล่าวนี้ ไปฉายให้ทัวร์โอเปอเรเตอร์ ในต่างประเทศได้ชม ในโอกาสที่ ททท.จะเดินทางไปร่วมงานเทรดโชว์ และ โรดโชว์ จากนี้ไปถึงสิ้นปี รวม 21 งาน ทั่วโลก พร้อมใช้เวทีดังกล่าวนี้ นัดพบชี้แจงกับทัวร์โอปอเรเตอร์ และหน่วยงานภาครัฐ ส่วนตลาดคนไทยก็เร่งทำปลายโฆษณาประชาสัมพันธ์ กระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวอย่างทั่วถึง
“จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ ททท.กำลังเฝ้าดูว่า จำนวนนักท่องเที่ยวถึงปลายปี จะได้ตามเป้าหมาย 15.5 ล้านคนหรือ ไม่ แต่อย่างน้อย ก็ไม่อยากให้ลดลงไปกว่าปีก่อน ที่ได้ 14.8 ล้านคน”
แจง ครม.ขอยกเลิก พ.ร.ก.
ทางด้าน นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ในนการประชุมคณะรัฐมนตรี วันนี้ (9 ก.ย.) จะนำข้อเสนอภาคเอกชน ที่ต้องการให้รัฐบาลยกเลิกประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปรายงายต่อที่ประชุม พร้อมเสนอข้อคิดเห็นของกระทรวงฯว่า หาก หมดสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว รัฐบาลก็ควรยกเลิกประกาศเสีย โดยจะตั้งเป็นประเด็นบอกกล่าว เพื่อรับฟังเหตุผลและดูท่าทีของ ครม.
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบต่อความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวง ททท.และเอกชน ที่จะช่วยกันกู้วิกฤตกลับคืนโดยเร็ว และวันพุธนี้ จะลงพื้นที่ภูเก็ต และ กระบี่ ตรวจดูความเดือดร้อน พร้อมคณะสื่อมวลชน โดยจะเชิญทูตต่างประเทศในเมืองไทยลงพื้นที่ด้วย”
