สัมผัสมาสเตอร์แฟรนไชส์ แบล็คแคนยอนอินโดนีเซีย

ร้านกาแฟแบล็คแคนยอน ซึ่งเป็นแบรนด์ของคนไทย สัญชาติไทยแท้ๆ เริ่มดำเนินกิจการร้านอาหาร และเครื่องดื่มกาแฟในศูนย์การค้าชั้นนำต่างๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ตั้งแต่ปลายปี 2536 โดยทุกร้านจะตกแต่งในสไตล์คันทรี สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ “กาแฟ” ซึ่งมีให้เลือกหลายรายการ และกาแฟที่ใช้ก็ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคว่าเป็นกาแฟที่มีคุณภาพ จากสายพันธุ์ที่มีชื่อเสียงของโลก การขยายสาขาของแบล็คแคนยอน มีทั้งในรูปแบบที่บริษัทบริหารเอง และการบริหารแบบ “แฟรนไชส์”

ห้วงเวลา 15 ปี ของการดำเนินกิจการ แบล็คแคนยอนสามารถขยายธุรกิจไปอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นแฟรนไชส์ร้านอาหารและกาแฟ ที่ถือว่าใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย

ที่ผ่านมา กิจการก็ได้เติบโตแผ่อาณาจักรไปทั่วประเทศไทยไม่พอ ยังสยายปีกรุกตลาดต่างประเทศอีกด้วย ด้วยฝีมือของ ประวิทย์ จิตนราพงศ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เป็นหัวเรือใหญ่ ซึ่งผลประกอบการของแบล็คแคนยอนในปี 2550 ที่ผ่านมา มีประมาณ 1,200 ล้านบาท ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอีก 10%

ปัจจุบันแบล็คแคนยอน มีถึง 207 สาขา แบ่งเป็นในประเทศ 180 สาขา (เปิดสาขาล่าสุดที่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา) และต่างประเทศอีก 27 สาขา ( สิงคโปร์ 1 สาขา มาเลเซีย 7 สาขา พม่า 1 สาขา กัมพูชา 1 สาขา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 5 สาขา และอินโดนีเซีย 12 สาขา)

ตลาดต่างประเทศที่ดูเหมือนว่าจะโดดเด่นและประสบความสำเร็จอย่างมาก รวมทั้งแตกต่างจากประเทศอื่นๆ คือ อินโดนีเซีย เนื่องจากว่า เป็นตลาดที่แบล็คแคนยอน ได้ทำการแต่งตั้ง มาสเตอร์ แฟรนไชส์ (Master Franchise) เป็นแห่งแรกเพื่อดูแลธุรกิจและบริการ ตลอดจนการดูแลแฟรนไชส์ซีอื่นๆที่สนใจจะซื้อแฟรนไชส์ด้วย

นายประวิทย์ กล่าวว่า การขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไปยังต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยทั้งเวลา ทีมงาน และการทุ่มเทเงินทุนเพื่อการบริหารให้เป็นระบบ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเป็นไปไม่ได้ และที่ผ่านมาแบล็คแคนยอนก็ได้พิสูจน์มาแล้ว แม้ต้องฝ่าขวากหนามมากมาย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แบล็คแคนยอน ได้พาสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งไปเยี่ยมชมกิจการที่ประเทศอินโดนีเซีย และที่พลาดไม่ได้ คือ การแวะเวียนสาขาแบล็คแคนยอนและพูดคุยกับผู้รับสิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์ คือ Mrs.Dewi Yamayanti หรือ Mrs.Pop มาสเตอร์ แฟรนไชซี ประเทศอินโดนีเซีย นั่นเอง

ที่อินโดนีเซีย ประวิทย์ ได้คู่ค้าที่ดีอย่าง Mrs.Dewi Yamayanti หรือ Mrs.Pop มาสเตอร์ แฟรนไชซี ประเทศอินโดนีเซีย ผู้หลงรักกลิ่นและรสชาติของกาแฟแบล็คแคนยอน

โดยเธอเปิดเผยว่า รู้สึกยินดีและภูมิใจมากที่ได้รับโอกาสเป็นแฟรนไชซีของแบล็คแคนยอน เธอเลือกที่จะเปิดสาขาในเมืองบาหลี ด้วยเหตุผลว่า ถ้าเธอเปิดในจาการ์ตาซึ่งมีร้านที่เป็น Big Brand จำนวนมาก ร้านของเธอก็จะไม่เป็นที่โดดเด่น จะเป็นเพียงร้านอาหารร้านหนึ่งในเมืองใหญ่เท่านั้น แต่ถ้าเลือกเปิดที่บาลี ซึ่งมี Big Brand อยู่เพียงไม่กี่ราย ร้านแบล็คแคนยอนก็จะเป็นร้านที่โดดเด่นที่สุดในเมือง

Mrs.Pop กล่าวว่า เหตุผลหลัก 2 ประการ ที่เธอเลือกร้านกาแฟ “แบล็คแคนยอน” ก็คือ 1.Good food & drink รสชาติอาหารและเครื่องดื่มที่ถูกปากและมีคุณภาพ และ 2.Good Price ราคาที่สมเหตุสมผล ไม่แพงเกินไป ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากชาวอินโดนีเซียเป็นอย่างดี

เธอย้อนอดีตให้ฟังว่า “เมื่อแรกเริ่มก็เปรียบเสมือนเด็กทารกที่ไม่รู้วิธีการเดิน ต้องอาศัยระยะเวลาในการเรียนรู้ และก็เป็นที่น่ายินดี น่าภาคภูมิใจว่าภายในเวลา 2 ปีครึ่ง เราก็สามารถขยายสาขาของร้านแบล็คแคนยอนได้ถึง 12 แห่งในอินโดนีเซีย” Mrs.Pop กล่าว

Mrs.Pop เปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้ธุรกิจแบล็คแคนยอนในอินโดนีเซียประสบความสำเร็จ ก็ไม่มีอะไรที่เป็นความลับ เพราะอยู่ที่กลยุทธ์ 4P นั่นเอง คือ 1.Product สินค้า ซึ่งแบล็คแคนยอน มีบริการทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่หลากหลาย รวมทั้งรสชาติเป็นที่ถูกปากของชาวอินโดฯ 2.Price ราคาไม่แพงเกินไป 3.Place ทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม และ 4.Promotion/PR.มีการประชาสัมพันธ์แบบปากต่อปาก การจัดรายการพิเศษต่างๆ เพื่อส่งเสริมการขาย

ขณะที่ นายประวิทย์ ได้กล่าวเพิ่มเติมอีก 2P ที่ทำให้ธุรกิจไปถึงดวงดาวได้ คือ 1.Partner คือการมีหุ้นส่วนที่ลงตัว เอื้อต่อการขอใบอนุญาตและการดำเนินการ (กรณีขยายสาขาในต่าง ประเทศ) และ 2.Press คือ สื่อมวลชนที่ให้ความร่วมมือเผยแพร่ข้อมูลของร้านแบล็คแคนยอนสู่สายตาประชาชน

Mrs.Pop กล่าวว่า นับเป็นความภาคภูมิใจของประวิทย์ และ Mr.Michael ซึ่งเป็นผู้บริหารแบล็คแคนยอน รวมถึงคนไทยด้วย เพราะผลิตภัณฑ์สินค้าของไทยเป็นที่ชื่นชอบของคนอินโดนีเซียอย่างมาก และเธอก็มีความสุขมากที่ความฝันของเธอเป็นความจริง

เธอยืนยันด้วยว่า ภายในสิ้นปีนี้ แบล็คแคนยอนจะขยายอีก 4 สาขา ใน 3 เมืองของอินโดนีเซีย ได้แก่ จาการ์ตา บาหลี และบาลิกปาปัน ขณะที่ในปีหน้าก็มีแผนที่จะเปิดสาขาเพิ่มอีกในเมืองโซโล มากัสซาร์ บาหลี และจาการ์ตา

อย่างไรก็ตาม นายประวิทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สำหรับเป้าหมายของธุรกิจแบล็คแคนยอนนอกจากต้องการให้เป็นที่ยอมรับ มีชื่อเสียงในระดับประเทศ และสามารถรุกขยายตลาดไปเปิดสาขาในต่างประเทศแล้ว ยังหวังผลักดันให้แบล็คแคนยอนก้าวไปสู่ความเป็น “Global Brand” แม้จะไม่สามารถทำได้ในช่วงชีวิตของตนก็ตามที แต่ก็จะขอฝากให้ทีมผู้บริหารรุ่นต่อๆ ไปสานต่อจนประสบความสำเร็จ