ผู้จัดการรายสัปดาห์ - * สู่ยุคศิลปินเพลงผุดเป็นดอกเห็ด เวทีเรียลลิตี้แจ้งเกิดนักร้องปีละหลายสิบคน พลเมืองคนดนตรีอัดแน่นเต็มตลาด 2 ค่ายยักษ์ แกรมมี่-อาร์เอส กางโรดแมปสู้ * แกรมมี่ ยึดแนว "เต๋อ" สร้างศิลปินคุณภาพ ชูเสียงร้องครองตลาดเพลงทุกเซกเมนต์ * อาร์เอส เจาะตลาดใหญ่ ควานหาไอดอล นำคอนเทนต์เจาะไลฟ์สไตล์เด็กวัยทีน
ย้อนกลับไปเมื่อกว่าทศวรรษ หากกล่าวถึงธุรกิจเสียงเพลง น่าจะเป็นธุรกิจที่น่าหลงใหลของคนไทย ยอดขายอัลบัมที่ทำได้หลักล้านอัลบัมชุดแล้วชุดเล่าจากศิลปินหลากหลายคน สร้างความเติบโตให้กับทั้งค่ายเพลง และความมั่งคั่งให้กับตัวศิลปินถ้วนหน้า จนกระทั่งเมื่อเทคโนโลยีการฟังเพลงเปลี่ยนแปลงจากตลับเทปคาสเซตต์ มาสู่แผ่นคอมแพกต์ดิสก์ หายนะก็เริ่มคุกคามเข้าสู่ธุรกิจนี้ เสียงเพลงที่เคยบันทึกผ่านแถบเสียง กลายเป็นไฟล์เพลงซึ่งสามารถก๊อปปี้ได้อย่างง่ายดาย แผ่นผี แผ่นก๊อป กัดเซาะการเติบโตของธุรกิจเพลงหนักหน่วงขึ้นทุกวัน การดาวน์โหลดช่วยซ้ำเติม กว่าแต่ละค่ายจะก้าวทันเทคโนโลยีนำเสนอสินค้าที่ตอบสนองกับพฤติกรรมการฟังเพลงของผู้บริโภคได้ ก็ต้องมาเจอะเจอกับปัญหาอีกฟากของธุรกิจ นักร้อง ศิลปินเพลงหน้าใหม่เกิดขึ้นเต็มบ้านเต็มเมือง จากช่องทางใหม่ๆ ทั้งเวทีการประกวด รายการเรียลลิตี้โชว์ จนถึงสื่ออินเทอร์เน็ต2 ค่ายเพลงผู้นำในเมืองไทย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และอาร์เอส จะรับมือกับการแจ้งเกิดซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ที่ไหลทะลักเข้าสู่ธุรกิจ นำกองทัพศิลปินเพลงในมือก้าวสู่ความสำเร็จทางธุรกิจอย่างยืนยาวได้อย่างไร
แกรมมี่ยึดมั่นแนวทาง "เต๋อ"
ชูคุณภาพสร้างศิลปินป้อนตลาด
การก้าวขึ้นเป็นค่ายเพลงอันดับ 1 ในประเทศไทยของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ตลอด 25 ปีที่ดำเนินธุรกิจมา คงต้องยกความสำเร็จนี้ให้กับ "เต๋อ เรวัติ พุทธินันท์" หนึ่งในสองผู้ร่วมก่อตั้งแกรมมี่เอนเตอร์เทนเมนต์(ร่วมกับไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่)
เรวัติซึ่งเป็นตำนานขุนพลดนตรีคนหนึ่งของเมืองไทย ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ในตนเอง เฟ้นหาศิลปินนักร้องเข้ามาอยู่ในสังกัดคนแล้วคนเล่า ล้วนแต่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพของเสียงร้อง ธงไชย แมคอินไตย์, นันทิดา แก้วบัวสาย, ฐิติมา สุตสุนทร, อัสนี-วสันต์ โชติกุล, ศรัญญา ส่งเสริมสวัสดิ์, อำพล ลำพูน, วงโลโซ หรือแม้กระทั่งสาวน้อยมหัศจรรย์ ทาทา ยัง ล้วนแต่เป็นส่วนประกอบที่สร้างความสำเร็จให้แกรมมี่กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา
บุษบา ดาวเรือง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า หัวใจสำคัญในการสร้างศิลปินของแกรมมี่ตลอด 25 ปี คือการค้นหาคนที่ใช่ จากประสบการณ์ของคนทำงานเช่น เรวัติ, ไพบูลย์, ตน หรือผู้บริหารของแกรมมี่หลาย ๆ ท่าน แล้วนำมาพัฒนาคุณภาพในการเป็นศิลปินอย่างเข้มข้น เป็นระบบ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่สร้างความสำเร็จให้กับแกรมมี่อย่างต่อเนื่อง ศิลปินนับแต่รุ่นตำนาน ธงไชย แมคอินไตย์, อัสนี-วสันต์ โชติกุล, นันทิดา แก้วบัวสาย ต่อมาถึงใหม่ เจริญปุระ, มาช่า วัฒนพานิช, คริสติน่า อากีลาร์, วงโลโซ ถึงรุ่นปัจจุบันบิ๊กแอส, บอดี้สแลม, กอล์ฟ-ไมค์ หรือไอซ์ ศรัญญู สามารถอยู่ยาวนานมาจนถึงวันนี้ ณ ปัจจุบัน แกรมมี่ก็ยังสามารถหาช่องทางในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับศิลปินเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
"ที่แกรมมี่เราต้องหาคนที่ใช่ ประสบการณ์เราจะบอกได้ว่าคนไหน เพราะถ้าเราไม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนที่ใช่ จะส่งผลให้เสียเวลาทั้งสองฝ่าย ที่ผ่านมาแกรมมี่ก็มีบางคนที่พัฒนาไปในระยะสั้นๆ และเห็นว่าไปได้ไม่ไกลก็ปล่อยไป แต่ความสำเร็จในธุรกิจนี้ คุณไพบูลย์บอกไว้ว่า ถ้าถูกมากกว่าผิด ก็ถือว่าอยู่ในอาชีพนี้ได้" บุษบากล่าว
บุษบากล่าวยอมรับปัจจุบันช่องทางในการสร้างศิลปินมีมากขึ้น เพราะมีสื่อใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่แกรมมี่ก็ยังคงยืนยันในแนวนโยบายเดิม คือการเลือกคนที่ใช่ แต่ที่ต้องเพิ่มเติมให้มากขึ้นคือ เมื่อได้คนที่มองเห็นศักยภาพในการเป็นศิลปินแล้ว ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการพัฒนาให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะวันนี้การแข่งขันของศิลปินนักร้อง ไม่ใช่เพียงรูปร่างหน้าตา บุคลิก และความสามารถในการร้องเพลง หรือเต้นรำได้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความสามารถด้านภาษา ที่จะขยายพรมแดนการตลาดไปสู่ต่างประเทศ การพัฒนาทั้งด้านไอคิว อีคิว และทัศนคติ การมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ต้องนำทั้งศาสตร์และวิชาการเข้ามาเพิ่มศักยภาพให้กับศิลปิน ซึ่งทั้งหมดต้องใช้เวลา และความเข้มข้น
อีกจุดสำคัญของการค้นหาศิลปินเข้าสู่แกรมมี่ บุษบากล่าวถึงการวางโรดแมปให้กับตัวศิลปิน ผู้ที่แกรมมี่จะนำมาสร้างขึ้นให้เป็นศิลปิน ต้องสามารถวางแผนโรดแมปชีวิตบนเส้นทางนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี ว่าศักยภาพของศิลปินคนนั้นจะสามารถก้าวไปนักร้อง เป็นนักแสดง หรือเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ฯลฯ เช่นการเกิดขึ้นของศิลปินดูโอชื่อดัง กอล์ฟ-ไมค์ ที่ประสบความสำเร็จจากการวางโรดแมปอย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่การออกอัลบัม การเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ข้ามไปออกอัลบัมในประเทศญี่ปุ่น จนถึงการแสดงละครสั้นทางโทรทัศน์ ทั้งหมดเกิดขึ้นจากการวางโรดแมปที่ชัดเจน และมีการพัฒนาอย่างเข้มข้นเพื่อให้ศิลปินเดินตามแผนงานได้อย่างมั่นคง
บุษบากล่าวว่า ยิ่งการแข่งขันของธุรกิจดนตรี มีผู้เล่นมากขึ้นเช่นวันนี้ การพัฒนายิ่งต้องเข้มข้นมากขึ้น เพื่อสร้างศิลปินที่มีคุณภาพมากที่สุดสู่ตลาด
อาร์เอส มุ่งตลาดใหญ่วัยทีน
หา "ไอดอล" สร้างเซกเมนต์แชมเปียน
ด้านคู่แข่งรายสำคัญในธุรกิจเพลง อาร์เอส แนวนโยบายในการสร้างศิลปินตลอด 27 ปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของศิลปินอาร์เอสดูจะวนเวียนอยู่กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ รุ่นแรกอย่าง คีรีบูน, ฟรุ้ตตี้ หรือรวมดาว มาจนถึงทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, ลิฟท์-ออย, นุ้ก สุธิดา, แรพเตอร์ ปัจจุบัน เกอรี่เบอร์รี่, โฟร์มด หรือเฟย์ ฟาง แก้ว แม้แต่ละรุ่นจะไม่ได้มีอายุยืนยาวเหมือนดังเช่นศิลปินฝั่งแกรมมี่ แต่เกือบทุกคนก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงเวลาที่ออกอัลบั้ม
สุทธิพงษ์ วัฒนจัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า อาร์เอสถือเป็นค่ายเพลงที่มุ่งจับกลุ่มเด็กรุ่นเยาว์ สร้างความเป็นผู้นำในตลาดพรีทีน ที่มีความต้องการบริโภคเพลงโดยมองภาพรวม ที่ไม่ได้มองคุณภาพเสียงร้องเป็นหลัก แต่มีความโดดเด่นด้านหน้าตา บุคลิกภาพ เป็นเหมือนไอดอลตัวแทนของกลุ่มเป้าหมาย
"เราพูดได้ว่าเป็นค่ายแรกที่มีความชัดเจนในแนวพรีทีน และทีนมาโดยตลอด เพราะเห็นแนวโน้มมาเป็นเวลานานแล้วว่า เป็นกลุ่มที่มีการบริโภคเพิ่มขึ้น เติบโตสูงขึ้น เน้นขายภาพรวมของศิลปิน ศิลปินส่วนใหญ่จะมาจากนายแบบ นางแบบ โมเดลลิ่ง มีศักยภาพ มีบุคลิกภาพที่ดี อาร์เอสจะนำมาพัฒนาเรื่องความสามารถในการร้องเพลง"
สุทธิพงษ์กล่าวว่า การทำตลาดเพลงในวันนี้หัวใจสำคัญคือการมองที่เซกเมนต์เป็นสำคัญ การสร้างศิลปินแต่ละคนต้องมองตลาดให้เห็นว่า จะให้กลุ่มเป้าหมายใดชื่นชอบ มาซื้อผลงาน เมื่อหาพบแล้วต้องเข้าไปศึกษาเจาะลึกพฤติกรรมของเซกเมนต์กลุ่มนั้น ค้นหาไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน ดังเช่น ค่ายเพลงกามิกาเซ่ ในเครืออาร์เอส ที่มุ่งจับเซกเมนต์พรีทีน ค้นหาศิลปินที่จะเป็นทีนไอดอล ต้องเข้าในไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ว่าเป็นเด็กวัยรุ่นในเมืองที่เล่นอินเทอร์เน็ตเกือบทุกคน เช้าไปโรงเรียน เย็นกลับบ้านเล่นอินเทอร์เน็ต ดูโทรทัศน์น้อยกว่าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ กลุ่มกามิกาเซ่ จึงใช้เว็บไซต์ ZheZa.com เป็นช่องทางหลักในการนำศิลปินเจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
"การสร้างความแข็งวแกร่งให้แต่ละเซกเมนต์คือ ต้องหาไลฟ์สไตล์ของเซกเมนต์นั้นๆ แล้วนำมาสร้างเป็นสภาพแวดล้อมที่จะตอบความต้องการของเขาตั้งแต่ลืมตาจนถึงเวลาหลับนอน ฟังเพลงแบบไหน ดูรายการทีวีใด ต้องการดูคอนเทนต์ใดในรายการทีวี ต้องศึกษาให้ละเอียดยิบ เพื่อตอบโจทย์เกิดเป็นเซกเมนต์แชมเปียนที่อาร์เอสตั้งเป้าหมายไว้"
สุทธิพงษ์กล่าวว่า ZheZa.com นอกเหนือจากเป็นช่องทางที่ให้กลุ่มเป้าหมายแฟนเพลงได้พบปะกับศิลปินที่เป็นทีนไอดอลจากกามิกาเซ่แล้ว ยังเป็นเว็บไซต์เดียวที่จัดกิจกรรมนอกสถานที่ทุกสัปดาห์ เพราะทราบดีว่าเด็กในวัยนี้ชอบที่จะมาพบเจอกัน เป็นวัยที่ต้องการพบปะ แลกเปลี่ยนคอนเทนต์ ซึ่งคอนเทนต์จะต้องแปลกใหม่ น่าสนใจ ดังนั้นการค้นหาศิลปินของอาร์เอสเข้าสู่กลุ่มกามิกาเซ่ จึงต้องค้นหาจากคนที่มองว่าสามารถเป็นผู้นำของกลุ่มได้ กล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าบอกว่าต้องการเป็นอะไร ซึ่งอาร์เอสก็จะไม่มีการปรับเปลี่ยนภาพพจน์ให้กับเด็กที่เป็นเป้าหมาย สร้างงานที่ตรงเป็นตัวตนของเขามากที่สุด แต่จะเน้นด้านภาพลักษณ์ บุคลิกภาพที่ดี และหากมีความสามารถในการร้องเพลงที่ดีด้วย ก็จะยิ่งสมบูรณ์มากขึ้น
"เซกเมนต์แชมเปียนของทีนคอมมูนิตี้ที่อาร์เอสครอบครองอยู่นั้น อาร์เอสไม่ได้สร้างเพลงให้กับกลุ่มเป้าหมายฟังเพียงอย่างเดียว เราสร้างไอดอลที่มีความประพฤติดีเป็นแบบอย่าง สร้างกิจกรรมที่ห้อมล้อมศิลปิน เพื่อสร้างภาพใหญ่ว่า ในชีวิตของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ควรทำอะไรบ้าง สิ่งใดเป็นความสุขความบันเทิง รวมถึงการเรียน ที่อาร์เอสพยายามสร้างคอมมูนิตี้ที่สามารถตอบความต้องการเหล่านี้ให้ครบถ้วน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งหักับอาร์เอสในยุคที่นักร้องเกิดขึ้นมาก"
เผยนโยบายอาร์เอสทำศิลปินอายุสั้น
เดินหน้าขยายกลุ่มเพลงยืดอายุ
แม้จะสร้างความสำเร็จให้กับศิลปินวัยลูกกวาดมาหลายสิบชีวิต แต่การสร้างให้ศิลปินเหล่านี้มีอายุในเส้นทางเพลงให้ยืนยาวผ่านทศวรรษได้นั้น ดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนของค่ายเพลงแห่งนี้
สุทธิพงษ์ วัฒนจัง กล่าวว่า ด้วยการที่อาร์เอสมีเป้าหมายเจาะตลาดวัยรุ่นมาโดยตลอด ฐานลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัดและรอบเมืองหลวง นำไอดอลวัยรุ่นมาเป็นศิลปิน แตกต่างจากค่ายแกรมมี่ที่ทำงานเสนอกลุ่มคนเมือง นำคนดนตรีมาทำงาน จึงยอมรับว่า ประสบการณ์ในการทำงานของศิลปินอาร์เอสจะสั้นกว่า เมื่ออายุงานเดินไปถึงจุดหนึ่งอายุที่เพิ่มมากขึ้น ความเป็นไอดอลจะหมดไป ในอดีตอาร์เอสไม่มีกลุ่มเพลงอื่นที่จะเป็นช่องทางให้ศิลปินเหล่านี้เดินหน้าต่อ หยุดอยู่แค่วัยรุ่น แต่วันนี้อาร์เอสเริ่มขยายกลุ่มเพลงเข้าสู่เซกเมนต์อื่นตามแนวคิด Music Segment Champion ที่สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ซีอีโอ อาร์เอส ใช้เป็นเส้นทางเดินของธุรกิจเพลงในปีนี้
Music Segment Champion มีการแบ่งธุรกิจเพลงของอาร์เอส ออกเป็นเซกเมนต์ 8 แนวเพลง โดยใช้ 10 ค่ายเพลงเป็นผู้เจาะเข้ามา
เริ่มจากกลุ่มหลัก Teen Community เจาะกลุ่มพรีทีน อายุระหว่าง 9-17 ปี ประถมถึงมัธยมที่มีไลฟ์สไตล์ความเป็นตัวตนที่ชัดเจน มีความสามารถเฉพาะตัวและมีคาแรคเตอร์เป็น Trendsetter ให้กับวัยรุ่นในสังคมได้ โดยค่ายเพลงกามิกาเซ่ ที่มีศิลปินอาทิ โฟร์-มด, เฟย์ ฟาง แก้ว, เค-โอติก เป็นทีมรุกเข้าถึง
Digital Pop Idol เล็งเป้าที่กลุ่มเด็กมัธยมขึ้นไป 15-25 ปี มีไลฟ์สไตล์ติดอยู่กับการใช้เทคโนโลยี บริโภคสื่อออนไลน์ มีศิลปินใน 2 ค่าย เมโลดิก้า และอะบอริจิ้น ประกอบด้วย ฟิล์ม รัฐภูมิ, ลิเดีย, เกิร์ลลี่ เบอร์รี่, บีม-กวี เป็นศิลปินในกลุ่มนี้
Uni Club เป็นดนตรีแนวใหม่แนวเทคโนมิวสิก ที่อาร์เอสยังไม่เคยเข้าถึง เจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 18-29 ปี วัยอุดมศึกษาจนถึงเริ่มทำงาน ได้สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ และโป้ โยคีเพลย์บอย อดีตแกนนำค่ายขนมปังเบเกอรี่ มิวสิก มาเป็นหัวเรือใหญ่ให้กับค่ายเพลงใหม่ เพลนตี้ มิวสิค
Underground แนวเพลงร็อกที่เจาะกลุ่มเป้าหมายชายที่อยู่ในวัยเรียนจนถึงวัยทำงานตอนต้น อายุระหว่าง 16-21 ปี ถือเป็นกลุ่มนิซที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเทรนให้กับตลาดร็อก วางค่ายเพลงดาร์ค ไซด์ ที่มีศิลปินร็อกหน้าใหม่แต่เป็นที่รู้จักในกลุ่มเพลงใต้ดินอย่างดี อย่าง Zabulatal หรือ Rabbit Dolls เป็นตัวชูโรง
Rock Society เพลงร็อกบนดินที่นำเสนอศิลปินร็อกซึ่งมีชื่อเสียงเป็นรู้จัก อย่าง ซิลลี่ฟูล, สปินเฮด และ Butterfly Effect ภายใต้สังกัด 9Richter และ Pirate เจาะกลุ่มผู้ฟังวัยมหาวิทยาลัยจนถึงวัยทำงานซึ่งนิยมในแนวเพลงร็อก อันเป็นกลุ่มที่อาร์เอสพยายามเจาะเข้ามาโดยตลอด
Easy Listening เพลงฟังสบายเจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมือง อายุระหว่าง 22-35 ปี มีไลฟ์สไตล์รักความสนุก งานเลี้ยงสังสรรค์ ท่องเที่ยว กีฬา มีค่ายเพลงเมลโล โทน และศิลปินในสังกัดอย่าง โก้ มิสเตอร์แซคเมน, ออโต้บาห์น และจิรพรรณ อังศวนนท์ เป็นทีมรุกหลักในการเจาะตลาดใหม่ ๆ ของอาร์เอสนี้
Hipster ค่ายเพลงออนไลน์ ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่สนใจดนตรี อายุระหว่าง 15-30 ปี มีช่องทางสื่อสารผ่านเว็บไซต์ pleng.com ซึ่งเป็นเว็บคอมมูนิตี้ค้นหาศิลปินเข้าสู่วงการ อันเป็นเทรนของโลกดิจิตอลที่อาร์เอสขอจองพื้นที่เป็นค่ายแรก
สุทธิพงษ์ กล่าวว่า กลุ่มเพลงเหล่านี้ไม่ใช่การสร้างศิลปินไปชิงตลาดจากแกรมมี่ แต่เป็นการสร้างตลาดใหม่ที่ยังไม่มีผู้เล่นที่ครองตลาดเหล่านี้ได้อย่างจริงจัง มุ่งสร้างงานอย่างสม่ำเสมอ เปิดพื้นที่ให้ผู้มีประสบการณ์ในกลุ่มดนตรีนั้นๆ เข้ามาร่วมงาน เพื่อสร้างการยอมรับในกลุ่มผู้ฟังว่า อาร์เอสมีความเข้มแข็งในตลาดใหม่ๆ เหล่านี้ ซึ่งจะส่งผลให้ต่อไปศิลปินของอาร์เอสจะมีพื้นที่หลากหลายขึ้น วงจรชีวิตของศิลปินอาร์เอสยืนยาวขึ้น
Total Music Business
ความพร้อมสร้างตำนานให้ศิลปินแกรมมี่
บุษบา ดาวเรือง กล่าวถึงปัจจัยที่สร้างให้ศิลปินของแกรมมี่ส่วนใหญ่ครองความนิยมในกลุ่มผู้ฟังยืนยาวนับทศวรรษว่า เกิดจากความเป็น Total Music Business ของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ นอกเหนือจากความครบถ้วนในเซกเมนต์เพลงที่ครอบคลุมกลุ่มผู้ฟังทุกเพศทุกวัย อันประกอบด้วย 6 กลุ่ม ได้แก่ ทีน ไอดอล (Teen Idol), ป๊อป ไอดอล (Pop Idol), ร็อก(Rock), เรโทร และวินเทจ(Retro & Vintage), นิช (Niche)และลูกทุ่ง(Country)แล้ว ความครบถ้วนของทีมงานที่แกรมมี่มีทั้งนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ผู้ผลิตมิวสิกวิดีโอ ผู้จัดคอนเสิร์ต ฝ่ายการตลาด สื่อ ฯลฯ ทำให้สามารถควบคุมการผลิต สร้างผลงานออกมาด้วยคุณภาพที่สูงสุด และตรงเป้าหมาย ก่อให้เกิดผลงานที่สะท้อนให้เห็นแบรนด์คาแรคเตอร์ของศิลปินที่ชัดเจน ต่อยอดสู่การเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าที่มีคาแรคเตอร์สอดคล้องกัน สร้างช่องทางรายได้ต่อเนื่องยาวนาน แม้ในธุรกิจเพลงจะเกิดศิลปินรายใหม่ๆขึ้นมามากมายเพียงใดก็ตาม
ย้อนกลับไปเมื่อกว่าทศวรรษ หากกล่าวถึงธุรกิจเสียงเพลง น่าจะเป็นธุรกิจที่น่าหลงใหลของคนไทย ยอดขายอัลบัมที่ทำได้หลักล้านอัลบัมชุดแล้วชุดเล่าจากศิลปินหลากหลายคน สร้างความเติบโตให้กับทั้งค่ายเพลง และความมั่งคั่งให้กับตัวศิลปินถ้วนหน้า จนกระทั่งเมื่อเทคโนโลยีการฟังเพลงเปลี่ยนแปลงจากตลับเทปคาสเซตต์ มาสู่แผ่นคอมแพกต์ดิสก์ หายนะก็เริ่มคุกคามเข้าสู่ธุรกิจนี้ เสียงเพลงที่เคยบันทึกผ่านแถบเสียง กลายเป็นไฟล์เพลงซึ่งสามารถก๊อปปี้ได้อย่างง่ายดาย แผ่นผี แผ่นก๊อป กัดเซาะการเติบโตของธุรกิจเพลงหนักหน่วงขึ้นทุกวัน การดาวน์โหลดช่วยซ้ำเติม กว่าแต่ละค่ายจะก้าวทันเทคโนโลยีนำเสนอสินค้าที่ตอบสนองกับพฤติกรรมการฟังเพลงของผู้บริโภคได้ ก็ต้องมาเจอะเจอกับปัญหาอีกฟากของธุรกิจ นักร้อง ศิลปินเพลงหน้าใหม่เกิดขึ้นเต็มบ้านเต็มเมือง จากช่องทางใหม่ๆ ทั้งเวทีการประกวด รายการเรียลลิตี้โชว์ จนถึงสื่ออินเทอร์เน็ต2 ค่ายเพลงผู้นำในเมืองไทย จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ และอาร์เอส จะรับมือกับการแจ้งเกิดซูเปอร์สตาร์หน้าใหม่ที่ไหลทะลักเข้าสู่ธุรกิจ นำกองทัพศิลปินเพลงในมือก้าวสู่ความสำเร็จทางธุรกิจอย่างยืนยาวได้อย่างไร
แกรมมี่ยึดมั่นแนวทาง "เต๋อ"
ชูคุณภาพสร้างศิลปินป้อนตลาด
การก้าวขึ้นเป็นค่ายเพลงอันดับ 1 ในประเทศไทยของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ตลอด 25 ปีที่ดำเนินธุรกิจมา คงต้องยกความสำเร็จนี้ให้กับ "เต๋อ เรวัติ พุทธินันท์" หนึ่งในสองผู้ร่วมก่อตั้งแกรมมี่เอนเตอร์เทนเมนต์(ร่วมกับไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่)
เรวัติซึ่งเป็นตำนานขุนพลดนตรีคนหนึ่งของเมืองไทย ใช้ศักยภาพที่มีอยู่ในตนเอง เฟ้นหาศิลปินนักร้องเข้ามาอยู่ในสังกัดคนแล้วคนเล่า ล้วนแต่ได้รับการยอมรับด้านคุณภาพของเสียงร้อง ธงไชย แมคอินไตย์, นันทิดา แก้วบัวสาย, ฐิติมา สุตสุนทร, อัสนี-วสันต์ โชติกุล, ศรัญญา ส่งเสริมสวัสดิ์, อำพล ลำพูน, วงโลโซ หรือแม้กระทั่งสาวน้อยมหัศจรรย์ ทาทา ยัง ล้วนแต่เป็นส่วนประกอบที่สร้างความสำเร็จให้แกรมมี่กว่า 2 ทศวรรษที่ผ่านมา
บุษบา ดาวเรือง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า หัวใจสำคัญในการสร้างศิลปินของแกรมมี่ตลอด 25 ปี คือการค้นหาคนที่ใช่ จากประสบการณ์ของคนทำงานเช่น เรวัติ, ไพบูลย์, ตน หรือผู้บริหารของแกรมมี่หลาย ๆ ท่าน แล้วนำมาพัฒนาคุณภาพในการเป็นศิลปินอย่างเข้มข้น เป็นระบบ ซึ่งถือเป็นแนวทางที่สร้างความสำเร็จให้กับแกรมมี่อย่างต่อเนื่อง ศิลปินนับแต่รุ่นตำนาน ธงไชย แมคอินไตย์, อัสนี-วสันต์ โชติกุล, นันทิดา แก้วบัวสาย ต่อมาถึงใหม่ เจริญปุระ, มาช่า วัฒนพานิช, คริสติน่า อากีลาร์, วงโลโซ ถึงรุ่นปัจจุบันบิ๊กแอส, บอดี้สแลม, กอล์ฟ-ไมค์ หรือไอซ์ ศรัญญู สามารถอยู่ยาวนานมาจนถึงวันนี้ ณ ปัจจุบัน แกรมมี่ก็ยังสามารถหาช่องทางในการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับศิลปินเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
"ที่แกรมมี่เราต้องหาคนที่ใช่ ประสบการณ์เราจะบอกได้ว่าคนไหน เพราะถ้าเราไม่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาคนที่ใช่ จะส่งผลให้เสียเวลาทั้งสองฝ่าย ที่ผ่านมาแกรมมี่ก็มีบางคนที่พัฒนาไปในระยะสั้นๆ และเห็นว่าไปได้ไม่ไกลก็ปล่อยไป แต่ความสำเร็จในธุรกิจนี้ คุณไพบูลย์บอกไว้ว่า ถ้าถูกมากกว่าผิด ก็ถือว่าอยู่ในอาชีพนี้ได้" บุษบากล่าว
บุษบากล่าวยอมรับปัจจุบันช่องทางในการสร้างศิลปินมีมากขึ้น เพราะมีสื่อใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่แกรมมี่ก็ยังคงยืนยันในแนวนโยบายเดิม คือการเลือกคนที่ใช่ แต่ที่ต้องเพิ่มเติมให้มากขึ้นคือ เมื่อได้คนที่มองเห็นศักยภาพในการเป็นศิลปินแล้ว ต้องเพิ่มความเข้มข้นในการพัฒนาให้มากขึ้นกว่าเดิม เพราะวันนี้การแข่งขันของศิลปินนักร้อง ไม่ใช่เพียงรูปร่างหน้าตา บุคลิก และความสามารถในการร้องเพลง หรือเต้นรำได้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความสามารถด้านภาษา ที่จะขยายพรมแดนการตลาดไปสู่ต่างประเทศ การพัฒนาทั้งด้านไอคิว อีคิว และทัศนคติ การมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ต้องนำทั้งศาสตร์และวิชาการเข้ามาเพิ่มศักยภาพให้กับศิลปิน ซึ่งทั้งหมดต้องใช้เวลา และความเข้มข้น
อีกจุดสำคัญของการค้นหาศิลปินเข้าสู่แกรมมี่ บุษบากล่าวถึงการวางโรดแมปให้กับตัวศิลปิน ผู้ที่แกรมมี่จะนำมาสร้างขึ้นให้เป็นศิลปิน ต้องสามารถวางแผนโรดแมปชีวิตบนเส้นทางนี้ได้ไม่ต่ำกว่า 5 ปี ว่าศักยภาพของศิลปินคนนั้นจะสามารถก้าวไปนักร้อง เป็นนักแสดง หรือเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ฯลฯ เช่นการเกิดขึ้นของศิลปินดูโอชื่อดัง กอล์ฟ-ไมค์ ที่ประสบความสำเร็จจากการวางโรดแมปอย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่การออกอัลบัม การเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ข้ามไปออกอัลบัมในประเทศญี่ปุ่น จนถึงการแสดงละครสั้นทางโทรทัศน์ ทั้งหมดเกิดขึ้นจากการวางโรดแมปที่ชัดเจน และมีการพัฒนาอย่างเข้มข้นเพื่อให้ศิลปินเดินตามแผนงานได้อย่างมั่นคง
บุษบากล่าวว่า ยิ่งการแข่งขันของธุรกิจดนตรี มีผู้เล่นมากขึ้นเช่นวันนี้ การพัฒนายิ่งต้องเข้มข้นมากขึ้น เพื่อสร้างศิลปินที่มีคุณภาพมากที่สุดสู่ตลาด
อาร์เอส มุ่งตลาดใหญ่วัยทีน
หา "ไอดอล" สร้างเซกเมนต์แชมเปียน
ด้านคู่แข่งรายสำคัญในธุรกิจเพลง อาร์เอส แนวนโยบายในการสร้างศิลปินตลอด 27 ปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของศิลปินอาร์เอสดูจะวนเวียนอยู่กับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นวัยรุ่นเป็นส่วนใหญ่ รุ่นแรกอย่าง คีรีบูน, ฟรุ้ตตี้ หรือรวมดาว มาจนถึงทัช ณ ตะกั่วทุ่ง, ลิฟท์-ออย, นุ้ก สุธิดา, แรพเตอร์ ปัจจุบัน เกอรี่เบอร์รี่, โฟร์มด หรือเฟย์ ฟาง แก้ว แม้แต่ละรุ่นจะไม่ได้มีอายุยืนยาวเหมือนดังเช่นศิลปินฝั่งแกรมมี่ แต่เกือบทุกคนก็ประสบความสำเร็จอย่างสูงในช่วงเวลาที่ออกอัลบั้ม
สุทธิพงษ์ วัฒนจัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจเพลง บริษัท อาร์เอส จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า อาร์เอสถือเป็นค่ายเพลงที่มุ่งจับกลุ่มเด็กรุ่นเยาว์ สร้างความเป็นผู้นำในตลาดพรีทีน ที่มีความต้องการบริโภคเพลงโดยมองภาพรวม ที่ไม่ได้มองคุณภาพเสียงร้องเป็นหลัก แต่มีความโดดเด่นด้านหน้าตา บุคลิกภาพ เป็นเหมือนไอดอลตัวแทนของกลุ่มเป้าหมาย
"เราพูดได้ว่าเป็นค่ายแรกที่มีความชัดเจนในแนวพรีทีน และทีนมาโดยตลอด เพราะเห็นแนวโน้มมาเป็นเวลานานแล้วว่า เป็นกลุ่มที่มีการบริโภคเพิ่มขึ้น เติบโตสูงขึ้น เน้นขายภาพรวมของศิลปิน ศิลปินส่วนใหญ่จะมาจากนายแบบ นางแบบ โมเดลลิ่ง มีศักยภาพ มีบุคลิกภาพที่ดี อาร์เอสจะนำมาพัฒนาเรื่องความสามารถในการร้องเพลง"
สุทธิพงษ์กล่าวว่า การทำตลาดเพลงในวันนี้หัวใจสำคัญคือการมองที่เซกเมนต์เป็นสำคัญ การสร้างศิลปินแต่ละคนต้องมองตลาดให้เห็นว่า จะให้กลุ่มเป้าหมายใดชื่นชอบ มาซื้อผลงาน เมื่อหาพบแล้วต้องเข้าไปศึกษาเจาะลึกพฤติกรรมของเซกเมนต์กลุ่มนั้น ค้นหาไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตประจำวัน ดังเช่น ค่ายเพลงกามิกาเซ่ ในเครืออาร์เอส ที่มุ่งจับเซกเมนต์พรีทีน ค้นหาศิลปินที่จะเป็นทีนไอดอล ต้องเข้าในไลฟ์สไตล์ของคนกลุ่มนี้ว่าเป็นเด็กวัยรุ่นในเมืองที่เล่นอินเทอร์เน็ตเกือบทุกคน เช้าไปโรงเรียน เย็นกลับบ้านเล่นอินเทอร์เน็ต ดูโทรทัศน์น้อยกว่าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ กลุ่มกามิกาเซ่ จึงใช้เว็บไซต์ ZheZa.com เป็นช่องทางหลักในการนำศิลปินเจาะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
"การสร้างความแข็งวแกร่งให้แต่ละเซกเมนต์คือ ต้องหาไลฟ์สไตล์ของเซกเมนต์นั้นๆ แล้วนำมาสร้างเป็นสภาพแวดล้อมที่จะตอบความต้องการของเขาตั้งแต่ลืมตาจนถึงเวลาหลับนอน ฟังเพลงแบบไหน ดูรายการทีวีใด ต้องการดูคอนเทนต์ใดในรายการทีวี ต้องศึกษาให้ละเอียดยิบ เพื่อตอบโจทย์เกิดเป็นเซกเมนต์แชมเปียนที่อาร์เอสตั้งเป้าหมายไว้"
สุทธิพงษ์กล่าวว่า ZheZa.com นอกเหนือจากเป็นช่องทางที่ให้กลุ่มเป้าหมายแฟนเพลงได้พบปะกับศิลปินที่เป็นทีนไอดอลจากกามิกาเซ่แล้ว ยังเป็นเว็บไซต์เดียวที่จัดกิจกรรมนอกสถานที่ทุกสัปดาห์ เพราะทราบดีว่าเด็กในวัยนี้ชอบที่จะมาพบเจอกัน เป็นวัยที่ต้องการพบปะ แลกเปลี่ยนคอนเทนต์ ซึ่งคอนเทนต์จะต้องแปลกใหม่ น่าสนใจ ดังนั้นการค้นหาศิลปินของอาร์เอสเข้าสู่กลุ่มกามิกาเซ่ จึงต้องค้นหาจากคนที่มองว่าสามารถเป็นผู้นำของกลุ่มได้ กล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าบอกว่าต้องการเป็นอะไร ซึ่งอาร์เอสก็จะไม่มีการปรับเปลี่ยนภาพพจน์ให้กับเด็กที่เป็นเป้าหมาย สร้างงานที่ตรงเป็นตัวตนของเขามากที่สุด แต่จะเน้นด้านภาพลักษณ์ บุคลิกภาพที่ดี และหากมีความสามารถในการร้องเพลงที่ดีด้วย ก็จะยิ่งสมบูรณ์มากขึ้น
"เซกเมนต์แชมเปียนของทีนคอมมูนิตี้ที่อาร์เอสครอบครองอยู่นั้น อาร์เอสไม่ได้สร้างเพลงให้กับกลุ่มเป้าหมายฟังเพียงอย่างเดียว เราสร้างไอดอลที่มีความประพฤติดีเป็นแบบอย่าง สร้างกิจกรรมที่ห้อมล้อมศิลปิน เพื่อสร้างภาพใหญ่ว่า ในชีวิตของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ควรทำอะไรบ้าง สิ่งใดเป็นความสุขความบันเทิง รวมถึงการเรียน ที่อาร์เอสพยายามสร้างคอมมูนิตี้ที่สามารถตอบความต้องการเหล่านี้ให้ครบถ้วน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งหักับอาร์เอสในยุคที่นักร้องเกิดขึ้นมาก"
เผยนโยบายอาร์เอสทำศิลปินอายุสั้น
เดินหน้าขยายกลุ่มเพลงยืดอายุ
แม้จะสร้างความสำเร็จให้กับศิลปินวัยลูกกวาดมาหลายสิบชีวิต แต่การสร้างให้ศิลปินเหล่านี้มีอายุในเส้นทางเพลงให้ยืนยาวผ่านทศวรรษได้นั้น ดูเหมือนจะเป็นจุดอ่อนของค่ายเพลงแห่งนี้
สุทธิพงษ์ วัฒนจัง กล่าวว่า ด้วยการที่อาร์เอสมีเป้าหมายเจาะตลาดวัยรุ่นมาโดยตลอด ฐานลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในต่างจังหวัดและรอบเมืองหลวง นำไอดอลวัยรุ่นมาเป็นศิลปิน แตกต่างจากค่ายแกรมมี่ที่ทำงานเสนอกลุ่มคนเมือง นำคนดนตรีมาทำงาน จึงยอมรับว่า ประสบการณ์ในการทำงานของศิลปินอาร์เอสจะสั้นกว่า เมื่ออายุงานเดินไปถึงจุดหนึ่งอายุที่เพิ่มมากขึ้น ความเป็นไอดอลจะหมดไป ในอดีตอาร์เอสไม่มีกลุ่มเพลงอื่นที่จะเป็นช่องทางให้ศิลปินเหล่านี้เดินหน้าต่อ หยุดอยู่แค่วัยรุ่น แต่วันนี้อาร์เอสเริ่มขยายกลุ่มเพลงเข้าสู่เซกเมนต์อื่นตามแนวคิด Music Segment Champion ที่สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ซีอีโอ อาร์เอส ใช้เป็นเส้นทางเดินของธุรกิจเพลงในปีนี้
Music Segment Champion มีการแบ่งธุรกิจเพลงของอาร์เอส ออกเป็นเซกเมนต์ 8 แนวเพลง โดยใช้ 10 ค่ายเพลงเป็นผู้เจาะเข้ามา
เริ่มจากกลุ่มหลัก Teen Community เจาะกลุ่มพรีทีน อายุระหว่าง 9-17 ปี ประถมถึงมัธยมที่มีไลฟ์สไตล์ความเป็นตัวตนที่ชัดเจน มีความสามารถเฉพาะตัวและมีคาแรคเตอร์เป็น Trendsetter ให้กับวัยรุ่นในสังคมได้ โดยค่ายเพลงกามิกาเซ่ ที่มีศิลปินอาทิ โฟร์-มด, เฟย์ ฟาง แก้ว, เค-โอติก เป็นทีมรุกเข้าถึง
Digital Pop Idol เล็งเป้าที่กลุ่มเด็กมัธยมขึ้นไป 15-25 ปี มีไลฟ์สไตล์ติดอยู่กับการใช้เทคโนโลยี บริโภคสื่อออนไลน์ มีศิลปินใน 2 ค่าย เมโลดิก้า และอะบอริจิ้น ประกอบด้วย ฟิล์ม รัฐภูมิ, ลิเดีย, เกิร์ลลี่ เบอร์รี่, บีม-กวี เป็นศิลปินในกลุ่มนี้
Uni Club เป็นดนตรีแนวใหม่แนวเทคโนมิวสิก ที่อาร์เอสยังไม่เคยเข้าถึง เจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมายอายุระหว่าง 18-29 ปี วัยอุดมศึกษาจนถึงเริ่มทำงาน ได้สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ และโป้ โยคีเพลย์บอย อดีตแกนนำค่ายขนมปังเบเกอรี่ มิวสิก มาเป็นหัวเรือใหญ่ให้กับค่ายเพลงใหม่ เพลนตี้ มิวสิค
Underground แนวเพลงร็อกที่เจาะกลุ่มเป้าหมายชายที่อยู่ในวัยเรียนจนถึงวัยทำงานตอนต้น อายุระหว่าง 16-21 ปี ถือเป็นกลุ่มนิซที่เป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเทรนให้กับตลาดร็อก วางค่ายเพลงดาร์ค ไซด์ ที่มีศิลปินร็อกหน้าใหม่แต่เป็นที่รู้จักในกลุ่มเพลงใต้ดินอย่างดี อย่าง Zabulatal หรือ Rabbit Dolls เป็นตัวชูโรง
Rock Society เพลงร็อกบนดินที่นำเสนอศิลปินร็อกซึ่งมีชื่อเสียงเป็นรู้จัก อย่าง ซิลลี่ฟูล, สปินเฮด และ Butterfly Effect ภายใต้สังกัด 9Richter และ Pirate เจาะกลุ่มผู้ฟังวัยมหาวิทยาลัยจนถึงวัยทำงานซึ่งนิยมในแนวเพลงร็อก อันเป็นกลุ่มที่อาร์เอสพยายามเจาะเข้ามาโดยตลอด
Easy Listening เพลงฟังสบายเจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมือง อายุระหว่าง 22-35 ปี มีไลฟ์สไตล์รักความสนุก งานเลี้ยงสังสรรค์ ท่องเที่ยว กีฬา มีค่ายเพลงเมลโล โทน และศิลปินในสังกัดอย่าง โก้ มิสเตอร์แซคเมน, ออโต้บาห์น และจิรพรรณ อังศวนนท์ เป็นทีมรุกหลักในการเจาะตลาดใหม่ ๆ ของอาร์เอสนี้
Hipster ค่ายเพลงออนไลน์ ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ที่สนใจดนตรี อายุระหว่าง 15-30 ปี มีช่องทางสื่อสารผ่านเว็บไซต์ pleng.com ซึ่งเป็นเว็บคอมมูนิตี้ค้นหาศิลปินเข้าสู่วงการ อันเป็นเทรนของโลกดิจิตอลที่อาร์เอสขอจองพื้นที่เป็นค่ายแรก
สุทธิพงษ์ กล่าวว่า กลุ่มเพลงเหล่านี้ไม่ใช่การสร้างศิลปินไปชิงตลาดจากแกรมมี่ แต่เป็นการสร้างตลาดใหม่ที่ยังไม่มีผู้เล่นที่ครองตลาดเหล่านี้ได้อย่างจริงจัง มุ่งสร้างงานอย่างสม่ำเสมอ เปิดพื้นที่ให้ผู้มีประสบการณ์ในกลุ่มดนตรีนั้นๆ เข้ามาร่วมงาน เพื่อสร้างการยอมรับในกลุ่มผู้ฟังว่า อาร์เอสมีความเข้มแข็งในตลาดใหม่ๆ เหล่านี้ ซึ่งจะส่งผลให้ต่อไปศิลปินของอาร์เอสจะมีพื้นที่หลากหลายขึ้น วงจรชีวิตของศิลปินอาร์เอสยืนยาวขึ้น
Total Music Business
ความพร้อมสร้างตำนานให้ศิลปินแกรมมี่
บุษบา ดาวเรือง กล่าวถึงปัจจัยที่สร้างให้ศิลปินของแกรมมี่ส่วนใหญ่ครองความนิยมในกลุ่มผู้ฟังยืนยาวนับทศวรรษว่า เกิดจากความเป็น Total Music Business ของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ นอกเหนือจากความครบถ้วนในเซกเมนต์เพลงที่ครอบคลุมกลุ่มผู้ฟังทุกเพศทุกวัย อันประกอบด้วย 6 กลุ่ม ได้แก่ ทีน ไอดอล (Teen Idol), ป๊อป ไอดอล (Pop Idol), ร็อก(Rock), เรโทร และวินเทจ(Retro & Vintage), นิช (Niche)และลูกทุ่ง(Country)แล้ว ความครบถ้วนของทีมงานที่แกรมมี่มีทั้งนักแต่งเพลง โปรดิวเซอร์ ผู้ผลิตมิวสิกวิดีโอ ผู้จัดคอนเสิร์ต ฝ่ายการตลาด สื่อ ฯลฯ ทำให้สามารถควบคุมการผลิต สร้างผลงานออกมาด้วยคุณภาพที่สูงสุด และตรงเป้าหมาย ก่อให้เกิดผลงานที่สะท้อนให้เห็นแบรนด์คาแรคเตอร์ของศิลปินที่ชัดเจน ต่อยอดสู่การเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าที่มีคาแรคเตอร์สอดคล้องกัน สร้างช่องทางรายได้ต่อเนื่องยาวนาน แม้ในธุรกิจเพลงจะเกิดศิลปินรายใหม่ๆขึ้นมามากมายเพียงใดก็ตาม