xs
xsm
sm
md
lg

“แคนนอน” ฝ่าพิษเศรษฐกิจ ยันไม่ปรับเป้าแม้การเมืองยุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แคนนอน เดินหน้าฝ่าวงล้อมปัญหาการเมือง หวังโกยรายได้ครึ่งปีหลัง อีก 3.9 พันล้านบาท ทั้งปีคาดโต 18% แตะ 6,300 ล้านบาท หลังผ่าน 6 เดือนแรกทำได้ 2.9 พันล้านบาท มองกำลังซื้ออาจลดลง แต่ราคาไม่ใช่ปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ

นายวาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ครึ่งปีหลัง ถึงแม้ว่าปัญหาการเมืองจะดูมีปัญหามากยิ่งขึ้น แต่ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่า ค่าจีดีพีของประเทศ ยังไปได้ดีอยู่ ดังนั้น แผนการทำรายได้ที่เหลืออีก 3,900 ล้านบาท ในครึ่งปีหลัง คาดว่า น่าจะมีความเป็นไปได้สูง ส่วนหนึ่งมาจากกลยุทธ์การทำตลาดในกลุ่มสินค้าของทางแคนนอน ที่มองว่ายังมีความต้องการที่สูง เนื่องจากครึ่งปีแรกทุกกลุ่มสินค้ามีอัตราการเติบโตทั้งหมด

ถึงแม้ว่าครึ่งปีหลังหากการเมืองจะเลวร้ายลงไปมากกว่านี้ ทางบริษัทก็ยังไม่มีแผนการปรับรายได้ใหม่แต่อย่างไร โดยปีนี้ทางบริษัทยังคงต้องการเติบโตไว้ที่ 18% คิดเป็นมูลค่า 6,300 ล้านบาท ซึ่งเป้าเติบโตที่วางไว้นี้ ถือเป็นเป้าที่ปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ทางแคนนอน วางแผนไว้ว่า จะต้องมีการเติบโตต่อปีที่ 18% ไปจนถึงปี 2011 หรือในปีดังกล่าวจะมีรายได้ที่ 10,000 ล้านบาท

นายวาตารุ กล่าวต่อว่า ในแง่การลงทุน มองว่า จากปัญหาที่เริ่มรุนแรงในขณะนี้ อาจจะส่งผลในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ในระยะยาวเชื่อว่านักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศ ขณะที่เมืองไทยเป็นประเทศอุตสาหกรรม เรายังมีเรื่องของการส่งออกที่จะยังช่วยให้การเติบโตของจีดีพี ยังดีอยู่ ซึ่งในส่วนของบริษัทแล้ว มองว่า ปัจจัยทางด้านอัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน จะกระทบกับการนำเข้าสินค้ามาจำหน่ายมากกว่า เรื่องของเงินเฟ้อ หรือปัญหาต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้

ส่วนในเรื่องของผู้บริโภค ระหว่างนี้อาจจะมีการชะลอการใช้เงินไปบ้าง มีการตัดสินใจซื้อมากยิ่งขึ้น แต่เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลัง มองว่า จะเป็นช่วงของการจัดการมากกว่าครึ่งปีแรก และเป็นช่วงซีซันของการขาย จึงมองว่ารายได้ที่จะกลับเข้ามา น่าจะเป็นไปตามที่วางไว้ ซึ่งในแง่ของราคาแล้ว เชื่อว่าไม่ใช่ปัจจัยหลักของการตัดสินใจซื้อ โดยทางแคนนอนพร้อมที่จะนำเสนอสินค้าในราคาที่สมเหตุสมผล แข่งขันในตลาดได้

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลประกอบการของครึ่งปีแรกที่ผ่านมา แคนนอนมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 16% หรือมีรายได้ถึง 2,900 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากการเติบโตของทุกกลุ่มสินค้า ใน 3 กลุ่มใหญ่ คือ 1.กลุ่มเครื่องถ่ายเอกสาร ครึ่งปีแรกทำได้ 533ล้านบาท โตขึ้น9 % เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 2.กลุ่มพรินเตอร์ ทำได้ 998.7 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% และ 3.กลุ่มกล้องดิจิตอล ทำได้ 1,358.8 ล้านบาท เติบโตขึ้น 16%  โดยเมื่อแยกสินค้าออกตามแต่ละชนิดแล้ว มีการเติบโตในแง่รายได้ขึ้นทุกตัว ยกเว้น กล้องดิจิตอล คาเมร่า มีเติบโตลดลง 5% เนื่องจากสงครามราคา แต่ในแง่จำนวนยูนิตแล้ว โตขึ้น 8%

สำหรับสินค้ากลุ่มกล้องดิจิตอล เอสแอลอาร์ แคนนอน ขณะนี้สามารถขึ้นมาเป็นอันดับ 1 มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 48% จาก 45% ในปีก่อน แซงนิกคอนที่ตกไปอยู่อันดับสอง มีส่วนแบ่งที่ 44% จากปีก่อน 48% ส่วนกล้องดิจิตอล คาเมร่า แคนนอนอยู่ในอันดับสอง มีส่วนแบ่งตลาด 17% ตามหลังโซนี่ ที่เป็นผู้นำ ด้วยส่วนแบ่ง 22%
กำลังโหลดความคิดเห็น