xs
xsm
sm
md
lg

สสปน.ต่อยอด ททท.บุกยุโรปปีหน้า อานิสงส์จัดงานใหญ่ปีนี้โตพรวด 25%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สสปน.เล็งใช้ภาพลักษณ์ ททท.ขยายผลบุกตลาดยุโรปปีหน้า พลิกวิกฤตสร้างโอกาส ชู ไทย เดสติเนชัน แวลูฟอร์มันนี่ หวังดึงนักท่องเที่ยว กลุ่มไมซ์ ชักแถวเข้าไทยในปี 2553 คุยปีนี้ ยอดประชุมสัมมนาทะลุเป้าหมายเพิ่ม 25% จากแผนเดิม 9 แสนคน อานิสงส์จากที่ลุยประมูลงานประชุมนานาชาติไว้เมื่อ 2 ปีก่อน เผยงบปี 52 ผ่านฉลุย 850 ล้านบาท

นางมาลินี กิตะพาณิชย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดประชุมและการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือ มิตติ้งและอนเซนทีฟ (M และ I) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) หรือ TCEB เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปีหน้า ของ สสปน.ในกลุ่ม M และ I จะบุกเปิดตลาดใหม่แถบยุโรป และ กลุ่มสแกนดิเนเวีย ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีความสำเร็จมาแล้ว กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยจะนำมาต่อยอด เพื่อให้เกิดงานของ สสปน.ในกลุ่มนักท่องเที่ยว จัดประชุมและอินเซนทีฟ

**ยกทีมบุกโรดโชว์ยุโรป**
ทั้งนี้ เพราะกลุ่มประเทศดังกล่าว ขณะนี้มีความรู้สึกที่ดี และประทับใจประเทศไทย ทั้งเรื่อง แหล่งท่องเที่ยวสวยงาม ความคุ้มค่าเงิน และ น้ำใจไมตรีของคนไทย ประเทศเป้าหมายได้แก่ เยอรมนี สแกนดิเนเวีย สวิตเซอร์แลนด์ เดนมาร์ก และ สเปน เป็นต้น โดยมีแผนจะเดินทางไปเทรดโชว์ และ โรดโชว์ ในประเทศดังกล่าว เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ ไปถึงปีหน้า

โดย สสปน.จะนำเสนอประเทศไทยในแง่มุมที่เป็นมากกว่าแหล่งท่องเที่ยว นั่นคือ ศักยภาพของการเป็นสถานที่จัดประชุม มีโรงแรม และกิจกรรมทางการท่องเที่ยว ที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลให้แก่ความสำเร็จในโอกาสต่างๆ

“การทำงานของ สสปน.ในแต่ละปี เพื่อต้องการให้เกิดผลในอีก 2 ปี ถัดไป อย่างปีหน้า บุกเปิดตลาดยุโรป ก็เพื่อเชิญชวนให้เขาเข้ามาในปี 2553 เป็นต้นไป”

**จับวิกฤตเป็นโอกาสชูแวลูฟอร์มันนี่***
ขณะเดียวกัน ยอมรับว่า ปัจจัยลบที่จะเกิดขึ้น คือ ปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่สูงขึ้น เนื่องจากการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน จะมีผลกับการตัดสินใจเลือกเดินทางระยะใกล้ แต่ ประเทศไทย แม้เดินทางมาจากยุโรปจะไกล แต่ค่าใช้จ่ายเมื่ออยู่ในประเทศไทยก็ถูกกว่าประเทศอื่น หากบริษัทใดปรับลดงบก็สามารถเดินทางมาประเทศไทยได้ ขณะเดียวกัน สสปน.ยังเดินหน้าจัดโปรโมชันต่อเนื่อง เช่น มีโบนัสพิเศษ หากเดินทางมากรุ๊ปละ 1 พันคนขึ้นไป จึงมองได้ว่า ในวิกฤตไทยก็ยังมีโอกาส ประกอบกับตลาดประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล องค์กร หรือ บริษัท ต้องยอมจ่ายเงินเพื่อรักษาภาพลักษณ์องค์กร ดังนั้น องค์กรที่มีชื่อเสียง และ กลุ่มบริษัท เช่น ธุรกิจขายตรง และประกันภัย ยังคงต้องมีรางวัลตอบแทนแก่พนักงานของเขาให้สมศักดิ์ศรี ตั้งเป้าหมายว่า กลุ่ม M และ I ในตลาดยุโรปจะต้องเติบโตอย่างน้อยปีละ 5%

สำหรับปีนี้ และ ปีหน้า ตลาดที่เติบโตสูง จะอยู่ในภูมิภาคเอเชีย เป็นหลัก เพราะเป็นผลจากการโหมทำตลาด สร้างการรับรู้ เชิญชวน และ รุกประมูลงานระดับอินเตอร์ เข้ามาจัดประชุมสัมมนา ที่ประเทศไทยเมื่อ 2 ปีก่อน ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันแพง ทำให้ตลาดระยะใกล้ยิ่งเติบโตสูง โดยเฉพาะในปีนี้ ที่ไทยได้มีโอกาสจัดประชุมระดับสากลหลายงาน แต่ละงานมีผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมากเป็นหลัก 1-2 หมื่นคนต่องาน เช่น งาน ประชุมไลอ้อนโลก งานประชุมสมาชิกธุรกิจขายตรง เฮอร์เบอร์ไลฟ์ และล่าสุด การจัดงาน ITU TELECOM ASIA 2008

เป็นผลให้ปีนี้การเติบโตโดยภาพรวมของตลาดไมซ์ (MICE) น่าจะเติบโตถึง 25% ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายเมื่อต้นปีที่ตั้งไว้ว่าปีนี้จะเติบโต 20% หรือ มีนักท่องเที่ยวกลุ่มไมซ์เดินทางเข้ามาประเทศไทย 9 แสนคน สร้างรายได้เข้าประเทศ 6.5 หมื่นล้านบาท

**งบ 52 ผ่านฉลุย 850 ล้านบาท***
นางมาลินี กล่าวอีกว่า สำหรับปี 2552 สสปน.ได้รับจัดสรรงบประมาณมาทั้งสิ้น 850 ล้านบาท เพิ่มจากปี2551 อยู่ 30% หรือได้อยู่ 650 ล้านบาท โดยตลาดประชุมและท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล หรือ M และ I ได้รับจัดสรรงบในปีหน้าอยู่ที่ 200 ล้านบาท ซึ่งจะต้องดึงนักท่องเที่ยว กลุ่ม M และ I ให้เข้ามาประเทศไทยในสัดส่วน 50% ของเป้าหมายรวมของ สสปน.โดยอีก 2 ตลาด คือ เอ็กซิบิชั่น และ คอนเวนชั่น

สัดส่วน นักท่องเที่ยวไมซ์ ที่ สสปน.เชิญชวนเข้ามาในประเทศไทยในปีนี้ แบ่งเป็นตลาดเอเชีย 60% ตลาดยุโรป 20% ตลาดออสเตรเลีย 10% ตลาดอเมริกา 5% และ ตลาดแอฟริกาใต้ และอื่นๆ อีกรวม 5% ซึ่งปีหน้า ตลาดเอเชีย น่าจะเติบโตเป็น 70% ส่วนปี ถัดไป ก็อาจทรงตัวแล้วไปเพิ่มตลาดยุโรป ตามแผนงาน 5 ปีนับจากนี้ สสปน.จะต้องดึงนักท่องเที่ยวไมซ์เข้าประเทศให้เติบโตเฉลี่ยปีละ 20%
กำลังโหลดความคิดเห็น