ซูเปอร์สปอร์ต เดินหน้ากลยุทธ์แตกพื้นที่ไม่หยุด ล่าสุด ปรับพื้นที่ เปิด “ซอกเกอร์โซน” รับกระแสกีฬาฟุตบอลเฟื่องโดยประเดิมทุ่มงบ 10 ล้านบาท เผยโฉมแห่งแรกที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ คาด ปีหน้าลุยปรับอีก 5 สาขาในกรุงเทพฯ หวังยอดขายซอกเกอร์โซนสาขาแรกที่ 12 ล้านบาทต่อปี
นางสาวคนึงหา แซ่ตั่น ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารสินค้า บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ผู้บริหารร้าน “ซูเปอร์สปอร์ต” ในเครือเซ็นทรัลรีเทล เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับพื้นที่ของร้านซูเปอร์สปอร์ตใหม่ ด้วยการเปิดโซน “ซอกเกอร์โซน” เพื่อรองรับกับกีฬาฟุตบอลที่เป็นที่นิยมของคนไทยอย่างมาก และเป็นกีฬาที่มีแฟนฟุตบอลของสโมสรดังต่างๆ จำนวนมากด้วย
โดยเริ่มปรับพื้นที่เปิดโซนใหม่นี้ที่ร้านซูเปอร์สปอร์ตแฟล็กชิปสโตร์ ที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ก่อนเป็นแห่งแรก บนชั้น 3 ด้วยพื้นที่กว่า 120 ตารางเมตร ซึ่งเริ่มเปิดเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง โดยใช้งบประมาณลงทุนไปมากกว่า 10 ล้านบาท โดยแยกเป็นงบปรับปรุงพื้นที่กว่า 4 ล้านบาท และงบด้านสินค้าประมาณ 6 ล้านบาท
แผนต่อไปในปีหน้า คาดว่า จะสามารถทำการปรับพื้นที่ร้านซูเปอร์สปอร์ต เพื่อเปิด ซอกเกอร์โซน อีกอย่างต่ำ 5 สาขา คือ ร้านซูเปอร์สปอร์ต ที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว ปิ่นเกล้า บางนา พระรามสอง และ รามอินทรา โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณใกล้เคียงกันที่สาขาละ 10 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่แต่ละสาขา ส่วนแผนต่อไปก็จะปรับพื้นที่ในสาขาที่มีความเหมาะสมแต่ละทำเลไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ซูเปอร์สปอร์ต ได้ใช้กลยุทธ์การปรับพื้นที่เข้ามาใช้ต่อเนื่อง ซึ่งจากเดิมที่มีโซน ซูเปอร์กอล์ฟ เป็นโซนแรก ซึ่งเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้รับความสำเร็จอย่างมาก จากนั้นได้ทำต่อในโซนของผู้หญิงชื่อว่า “Women Sports Lover” วูแมนสปอร์ตเลิฟเวอร์ ซึ่งก็จะมีการทำอย่างต่อเนื่อง และเป็นไปได้ว่าอนาคตก็จะมีการปรับพื้นที่ให้เป็นกลุ่มกีฬาไป
ขณะเดียวกัน ยังใช้กลยุทธ์แตกแบรนด์ลูกออกไปเป็นร้านสแตนด์อโลนต่างหากอีก เช่น ร้านฟิตบายซูเปอร์สปอร์ต ขายเฉพาะรองเท้าอย่างเดียวเท่านั้นเปิดแล้วที่สาขาซีคอนสแควร์ ปิ่นเกล้า เป็นต้น และมีความเป็นไปได้ว่าหากซอกเกอร์โซนได้รับการตอบรับที่ดี อาจจะแยกออกมาเปิดเป็นร้านต่างหากอีกแบรนด์ก็ได้
นางสาวคนึงหา กล่าวต่อว่า สำหรับซอกเกอร์โซนนี้ ถือเป็นความแปลกใหม่ของร้านซูเปอร์สปอร์ต และวงการร้านค้าปลีกกีฬาของไทย โดยมีลักษณะ จำหน่ายอุปกรณ์กีฬาซอกเกอร์หรือฟุตบอลโดยเฉพาะ และมีจุดเด่นที่การนำเสนอสินค้าทั้งในส่วนของทีมฟุตบอลสโมสรระดับโลก เช่น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล อาร์เซนอล เชลซี บาร์เซโลนา ยูเวนตุส เอซีมิลาน รีล มาดริด เป็นต้น แยกกันเป็นเคาน์เตอร์ และสินค้าฟุตบอลทีมชาติชั้นนำ เช่น บราซิล เยอรมนี สเปน โปรตุเกส เป็นต้น รวมถึงสินค้าของทีมชาติไทยด้วย
นอกจากนั้น ยังมีสินค้าฟุตบอลที่เป็นคอลเลกชันของซูเปอร์สตาร์นักเตะของทั้งไนกี้และอาดิดาส เช่น Total 90, F50 เป็นต้น รวมไปถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ซึ่งราคาสินค้าจะเป็นราคามาตรฐาน มีแผนที่จะทำตลาดกับกลุ่มแฟนคลับของแต่ละทีมด้วย
เป้าหมายของการเปิด ซอกเกอร์โซน นี้ นางสาวคนึงหา กล่าวว่า คาดหวังจะสามารถทำยอดขายเฉพาะในโซนนี้ได้ประมาณ 12 ล้านบาทต่อปี และช่วงเปิดบริการมาได้เดือนเศษมีอัตราการเติบโตขึ้นกว่า 200% จากกลุ่มอุปกรณ์กีฬาฟุตบอลเดิมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว ซูเปอร์สปอร์ตจะมีอัตราการเติบโตมากกว่า 20% และเมื่อเปิดโซนใหม่นี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มการเติบโตเป็น 30% ซึ่งสัดส่วนยอดขายกลุ่มฟุตบอลนี้ที่ผ่านมามียอดขายแต่ละส่วนดังนี้คือ รองเท้ามากที่สุด 45% เสื้อและกางเกงฟุตบอล 37% ที่เหลือ คือ ลูกฟุตบอล อุปกรณ์เสริม
“ในอนาคตเราเตรียมแผนขยายธุรกิจอีกมาก เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคกลุ่มหลักฟุตบอล โดยจะเน้นในกรุงเทพฯเป็นหลักก่อน เนื่องจากกระแสความนิยมในการเล่นฟุตบอลอีกทั้งจำนวนสนามฟุตบอล และฟุตซอล เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งในส่วนของสินค้าจะมีเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น ไนกี้จะมีสินค้าในกลุ่มชุดแข่งทีมชาติไทย เสื้อผ้า และอุปกรณ์ต่างๆสำหรับแฟนบอลชาวไทย และการนำเสนอสินค้าลิมิเต็ดเอดิชั่นผ่านซอกเกอร์โซนนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและตารางการแข่งขันของลีกใหญ่ๆเช่น พรีเมียร์ ลีก, ซีเรีย อา, ลาลีกา สเปน, เอเชียนคัพ เป็นต้น” นางสาวคนึงหา กล่าว
นางสาวคนึงหา แซ่ตั่น ผู้อำนวยการ ฝ่ายบริหารสินค้า บริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด ผู้บริหารร้าน “ซูเปอร์สปอร์ต” ในเครือเซ็นทรัลรีเทล เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับพื้นที่ของร้านซูเปอร์สปอร์ตใหม่ ด้วยการเปิดโซน “ซอกเกอร์โซน” เพื่อรองรับกับกีฬาฟุตบอลที่เป็นที่นิยมของคนไทยอย่างมาก และเป็นกีฬาที่มีแฟนฟุตบอลของสโมสรดังต่างๆ จำนวนมากด้วย
โดยเริ่มปรับพื้นที่เปิดโซนใหม่นี้ที่ร้านซูเปอร์สปอร์ตแฟล็กชิปสโตร์ ที่สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ ก่อนเป็นแห่งแรก บนชั้น 3 ด้วยพื้นที่กว่า 120 ตารางเมตร ซึ่งเริ่มเปิดเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง โดยใช้งบประมาณลงทุนไปมากกว่า 10 ล้านบาท โดยแยกเป็นงบปรับปรุงพื้นที่กว่า 4 ล้านบาท และงบด้านสินค้าประมาณ 6 ล้านบาท
แผนต่อไปในปีหน้า คาดว่า จะสามารถทำการปรับพื้นที่ร้านซูเปอร์สปอร์ต เพื่อเปิด ซอกเกอร์โซน อีกอย่างต่ำ 5 สาขา คือ ร้านซูเปอร์สปอร์ต ที่ เซ็นทรัลลาดพร้าว ปิ่นเกล้า บางนา พระรามสอง และ รามอินทรา โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณใกล้เคียงกันที่สาขาละ 10 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่แต่ละสาขา ส่วนแผนต่อไปก็จะปรับพื้นที่ในสาขาที่มีความเหมาะสมแต่ละทำเลไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ซูเปอร์สปอร์ต ได้ใช้กลยุทธ์การปรับพื้นที่เข้ามาใช้ต่อเนื่อง ซึ่งจากเดิมที่มีโซน ซูเปอร์กอล์ฟ เป็นโซนแรก ซึ่งเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้รับความสำเร็จอย่างมาก จากนั้นได้ทำต่อในโซนของผู้หญิงชื่อว่า “Women Sports Lover” วูแมนสปอร์ตเลิฟเวอร์ ซึ่งก็จะมีการทำอย่างต่อเนื่อง และเป็นไปได้ว่าอนาคตก็จะมีการปรับพื้นที่ให้เป็นกลุ่มกีฬาไป
ขณะเดียวกัน ยังใช้กลยุทธ์แตกแบรนด์ลูกออกไปเป็นร้านสแตนด์อโลนต่างหากอีก เช่น ร้านฟิตบายซูเปอร์สปอร์ต ขายเฉพาะรองเท้าอย่างเดียวเท่านั้นเปิดแล้วที่สาขาซีคอนสแควร์ ปิ่นเกล้า เป็นต้น และมีความเป็นไปได้ว่าหากซอกเกอร์โซนได้รับการตอบรับที่ดี อาจจะแยกออกมาเปิดเป็นร้านต่างหากอีกแบรนด์ก็ได้
นางสาวคนึงหา กล่าวต่อว่า สำหรับซอกเกอร์โซนนี้ ถือเป็นความแปลกใหม่ของร้านซูเปอร์สปอร์ต และวงการร้านค้าปลีกกีฬาของไทย โดยมีลักษณะ จำหน่ายอุปกรณ์กีฬาซอกเกอร์หรือฟุตบอลโดยเฉพาะ และมีจุดเด่นที่การนำเสนอสินค้าทั้งในส่วนของทีมฟุตบอลสโมสรระดับโลก เช่น แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ลิเวอร์พูล อาร์เซนอล เชลซี บาร์เซโลนา ยูเวนตุส เอซีมิลาน รีล มาดริด เป็นต้น แยกกันเป็นเคาน์เตอร์ และสินค้าฟุตบอลทีมชาติชั้นนำ เช่น บราซิล เยอรมนี สเปน โปรตุเกส เป็นต้น รวมถึงสินค้าของทีมชาติไทยด้วย
นอกจากนั้น ยังมีสินค้าฟุตบอลที่เป็นคอลเลกชันของซูเปอร์สตาร์นักเตะของทั้งไนกี้และอาดิดาส เช่น Total 90, F50 เป็นต้น รวมไปถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ ซึ่งราคาสินค้าจะเป็นราคามาตรฐาน มีแผนที่จะทำตลาดกับกลุ่มแฟนคลับของแต่ละทีมด้วย
เป้าหมายของการเปิด ซอกเกอร์โซน นี้ นางสาวคนึงหา กล่าวว่า คาดหวังจะสามารถทำยอดขายเฉพาะในโซนนี้ได้ประมาณ 12 ล้านบาทต่อปี และช่วงเปิดบริการมาได้เดือนเศษมีอัตราการเติบโตขึ้นกว่า 200% จากกลุ่มอุปกรณ์กีฬาฟุตบอลเดิมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้ว ซูเปอร์สปอร์ตจะมีอัตราการเติบโตมากกว่า 20% และเมื่อเปิดโซนใหม่นี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มการเติบโตเป็น 30% ซึ่งสัดส่วนยอดขายกลุ่มฟุตบอลนี้ที่ผ่านมามียอดขายแต่ละส่วนดังนี้คือ รองเท้ามากที่สุด 45% เสื้อและกางเกงฟุตบอล 37% ที่เหลือ คือ ลูกฟุตบอล อุปกรณ์เสริม
“ในอนาคตเราเตรียมแผนขยายธุรกิจอีกมาก เพื่อตอบสนองความต้องการผู้บริโภคกลุ่มหลักฟุตบอล โดยจะเน้นในกรุงเทพฯเป็นหลักก่อน เนื่องจากกระแสความนิยมในการเล่นฟุตบอลอีกทั้งจำนวนสนามฟุตบอล และฟุตซอล เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งในส่วนของสินค้าจะมีเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น ไนกี้จะมีสินค้าในกลุ่มชุดแข่งทีมชาติไทย เสื้อผ้า และอุปกรณ์ต่างๆสำหรับแฟนบอลชาวไทย และการนำเสนอสินค้าลิมิเต็ดเอดิชั่นผ่านซอกเกอร์โซนนี้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและตารางการแข่งขันของลีกใหญ่ๆเช่น พรีเมียร์ ลีก, ซีเรีย อา, ลาลีกา สเปน, เอเชียนคัพ เป็นต้น” นางสาวคนึงหา กล่าว
