เศรษฐกิจทรุด ลูกค้างัดกลยุทธ์แจกของที่ระลึกระดับพรีเมียมสูง “แดช” คว้าโอกาสคว้าลูกค้าได้รวม 2,000 รายในปีนี้ เผยคู่แข่งล้มหายไปหลายราย ส่งผลเจาะลูกค้าได้มาก มั่นใจปีนี้รายได้กระฉูดอีก 20% หรือกว่า 130 ล้านบาท เชื่อมูลค่าตลาดโปรโมชันนอล โปรดักส์ ไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท โต 10-12% ทุกปี
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แดช อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำสินค้ากลุ่มโปรโมชันนอล โปรดักส์ ระดับพรีเมียม เปิดเผยว่า เป็นที่สังเกตว่า หลังจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศเริ่มแย่ลง พบว่า ตลาดโปรโมชันนอล โปรดักส์ หรือ สินค้าของที่ระลึก ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น โดยพฤติกรรมลูกค้าในปีนี้ จะมุ่งเน้นของที่ระลึกที่มีจำนวนชิ้นน้อยลง แต่มีความเป็นพรีเมียมมากยิ่งขึ้น ขณะที่เม็ดเงินในการใช้จ่ายเกี่ยวกับของที่ระลึกไม่ได้ลดลงมากนัก
ทั้งนี้ ในส่วนของ แดช เอง ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จากการสำรวจและสอบถามกับทางลูกค้า พบว่า ปีนี้มีลูกค้าติดต่อเข้ามามากขึ้น หรือในตอนนี้มีลูกค้าแล้วกว่า 2,000 รายแล้ว ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเอกชนกลุ่มเอเยนซี และ อีเวนต์ กว่า 80% และราชการ อีก 20% ซึ่งมีทั้งรายชื่อลูกค้าที่ใช้บริการมีทั้งสินค้าระดับโกลบอลแบรนด์ และแบรนด์ในประเทศที่มีชื่อเสียง ทั้งนี้ ยังพบว่าปีนี้มีลูกค้าใหม่และลูกค้าที่ไม่เคยสั่งสินค้าติดต่อเข้ามาค่อนข้างสูง ซึ่งจากการสอบถามจากลูกค้า ทราบว่า บริษัทที่เคยโควกันอยู่ เลิกกิจการหรือทำสินค้าที่มีมาตรฐานน้อยลง ส่วนกลุ่มสินค้าที่หันมาให้ความสำคัญกับของที่ระลึกมากขึ้น คือ กลุ่มสถาบันการเงิน และสินค้าคอนซูเมอร์ระดับพรีเมียม
“ตนมองว่า ธุรกิจของที่ระลึกหรือโปรโมชันนอล โปรดักส์ ทั้งในระบบและนอกระบบมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านบาท เติบโตต่อปีไม่ต่ำกว่า 10-12% ส่วนบริษัทที่เน้นทำอย่างจริงจังยังมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะแฝงอยู่กับกลุ่มกาเม้นท์ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า ที่รับออเดอร์สกรีน รวมถึงกลุ่มโรงงานพลาสติก และกลุ่มเครื่องเขียน เพราะเมื่อมีการติดตราแบรนด์สินค้าแล้วนำมาใช้เป็นของที่ระลึกก็ถือว่าจัดอยู่ในกลุ่มโปรโมชั่นนอล โปรดักส์ทั้งสิ้น ดังนั้นการที่มีคนหันมาเล่นตลาดนี้และหายไปจึงไม่ใช่เรื่องแปลก”
สำหรับ แดช เอง ได้เข้ามาทำธุรกิจด้านโปรโมชันนอล โปรดักส์ อย่างจริงจังตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันได้รับความเชื่อถือทางด้านคุณภาพสินค้ากลุ่มนาฬิกา และปากกา เป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีโรงงานที่ครบวงจร สำหรับรองรับความต้องการของลูกค้าในการสั่งทำของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใคร และต้องการเพียงกี่ชิ้นได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ครึ่งปีที่ผ่านมา รายได้เติบโตขึ้น 20% ทั้งปีมองว่าแนวโน้มน่าจะไปได้ดี หรือรักษาระดับผลประกอบการได้ที่ 130 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% ตามเป้าที่วางไว้
ล่าสุด แดช ยังได้รับความไว้วางใจจาก สมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย เป็นผู้ได้รับสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการผลิตและจัดจำหน่ายของที่ระลึกในการแข่งขัน World Men's Championship 2008 ระหว่างวันที่ 21-31 สิงหาคม 2551 ณ SF Strike Bowl งามวงศ์วาน โดยมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ซึ่งของที่ระลึกที่ทางแดชได้จัดทำขึ้นมาเบื้องต้น คือ นาฬิกา และเสื้อนาโน ซึ่งก่อนหน้านี้ แดช ได้เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายของที่ระลึกให้กับงานใหญ่ๆ หลายรายการ เช่น พืชสวนโลก, การแข่งขันสนุกเกอร์โลก รวมถึงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ผ่านมาด้วย
นายจิรบูลย์ วิทยสิงห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แดช อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำสินค้ากลุ่มโปรโมชันนอล โปรดักส์ ระดับพรีเมียม เปิดเผยว่า เป็นที่สังเกตว่า หลังจากสภาพเศรษฐกิจในประเทศเริ่มแย่ลง พบว่า ตลาดโปรโมชันนอล โปรดักส์ หรือ สินค้าของที่ระลึก ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น โดยพฤติกรรมลูกค้าในปีนี้ จะมุ่งเน้นของที่ระลึกที่มีจำนวนชิ้นน้อยลง แต่มีความเป็นพรีเมียมมากยิ่งขึ้น ขณะที่เม็ดเงินในการใช้จ่ายเกี่ยวกับของที่ระลึกไม่ได้ลดลงมากนัก
ทั้งนี้ ในส่วนของ แดช เอง ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา จากการสำรวจและสอบถามกับทางลูกค้า พบว่า ปีนี้มีลูกค้าติดต่อเข้ามามากขึ้น หรือในตอนนี้มีลูกค้าแล้วกว่า 2,000 รายแล้ว ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเอกชนกลุ่มเอเยนซี และ อีเวนต์ กว่า 80% และราชการ อีก 20% ซึ่งมีทั้งรายชื่อลูกค้าที่ใช้บริการมีทั้งสินค้าระดับโกลบอลแบรนด์ และแบรนด์ในประเทศที่มีชื่อเสียง ทั้งนี้ ยังพบว่าปีนี้มีลูกค้าใหม่และลูกค้าที่ไม่เคยสั่งสินค้าติดต่อเข้ามาค่อนข้างสูง ซึ่งจากการสอบถามจากลูกค้า ทราบว่า บริษัทที่เคยโควกันอยู่ เลิกกิจการหรือทำสินค้าที่มีมาตรฐานน้อยลง ส่วนกลุ่มสินค้าที่หันมาให้ความสำคัญกับของที่ระลึกมากขึ้น คือ กลุ่มสถาบันการเงิน และสินค้าคอนซูเมอร์ระดับพรีเมียม
“ตนมองว่า ธุรกิจของที่ระลึกหรือโปรโมชันนอล โปรดักส์ ทั้งในระบบและนอกระบบมีมูลค่าสูงถึง 10,000 ล้านบาท เติบโตต่อปีไม่ต่ำกว่า 10-12% ส่วนบริษัทที่เน้นทำอย่างจริงจังยังมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะแฝงอยู่กับกลุ่มกาเม้นท์ เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า ที่รับออเดอร์สกรีน รวมถึงกลุ่มโรงงานพลาสติก และกลุ่มเครื่องเขียน เพราะเมื่อมีการติดตราแบรนด์สินค้าแล้วนำมาใช้เป็นของที่ระลึกก็ถือว่าจัดอยู่ในกลุ่มโปรโมชั่นนอล โปรดักส์ทั้งสิ้น ดังนั้นการที่มีคนหันมาเล่นตลาดนี้และหายไปจึงไม่ใช่เรื่องแปลก”
สำหรับ แดช เอง ได้เข้ามาทำธุรกิจด้านโปรโมชันนอล โปรดักส์ อย่างจริงจังตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันได้รับความเชื่อถือทางด้านคุณภาพสินค้ากลุ่มนาฬิกา และปากกา เป็นอย่างมาก ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีโรงงานที่ครบวงจร สำหรับรองรับความต้องการของลูกค้าในการสั่งทำของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใคร และต้องการเพียงกี่ชิ้นได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ครึ่งปีที่ผ่านมา รายได้เติบโตขึ้น 20% ทั้งปีมองว่าแนวโน้มน่าจะไปได้ดี หรือรักษาระดับผลประกอบการได้ที่ 130 ล้านบาท เติบโตขึ้น 20% ตามเป้าที่วางไว้
ล่าสุด แดช ยังได้รับความไว้วางใจจาก สมาคมโบว์ลิ่งแห่งประเทศไทย เป็นผู้ได้รับสิทธิ์แต่เพียงผู้เดียวในการผลิตและจัดจำหน่ายของที่ระลึกในการแข่งขัน World Men's Championship 2008 ระหว่างวันที่ 21-31 สิงหาคม 2551 ณ SF Strike Bowl งามวงศ์วาน โดยมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ซึ่งของที่ระลึกที่ทางแดชได้จัดทำขึ้นมาเบื้องต้น คือ นาฬิกา และเสื้อนาโน ซึ่งก่อนหน้านี้ แดช ได้เป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายของที่ระลึกให้กับงานใหญ่ๆ หลายรายการ เช่น พืชสวนโลก, การแข่งขันสนุกเกอร์โลก รวมถึงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ผ่านมาด้วย