“ไทยฮา” ปิดช่องโหว่ เทรดดิชันนัลเทรด ดึงแมสมาร์เก็ตติ้งรุกตลาดร้านโชวห่วย หวัง 50,000 จุดทั่วปรเทศ รับมือโมเดิร์นเทรดโขกค่าธรรมเนียมสูง คู่แข่งสกัดทาง ส่วนช่องทางโมเดิร์นเทรดยังลุยเอง พร้อมปรับเป้ารายได้ใหม่ 2 ครั้งเพิ่มเป็น 2,250 ล้านบาท ดีใจได้ตลาดตปท.ใหม่อีก 3 แห่ง
นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอาหารตราเกษตร เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายช่องทางจำหน่ายด้านเทรดดิชันนัลเทรดหรือร้านค้าโชวห่วย ด้วยการแต่งตั้งบริษัท แมสมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ระยะเวลานาน 3 ปี ให้เป็นผู้รับผิดชอบจัดจำหน่ายสำหรับผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปทั้งโจ๊กและวุ้นเส้นตราเกษตรในช่องทางดังกล่าวที่มีอยู่ประมาณ 50,000 จุดทั่วประเทศ จากเดิมที่บริษัทฯเน้นเฉพาะช่องทางจำหน่ายโมเดิร์นเทรดโดยเป็นการดำเนินการเอง
การขยายช่องทางนี้ ยังเป็นการปิดช่องโหว่และสร้างฐานรายได้เพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมาโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ต่างก็มีการเรียกค่าแรกเข้าสินค้า ค่าวางเชลฟ์เป็นอัตราที่สูงมาก อีกทั้งยังโดนผู้ประกอบการคู่แข่งสกัดทางตลาดหลายรูปแบบ ทำให้บริษัทฯต้องปรับแผนดำเนินธุรกิจ เพื่อสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ และมั่นใจว่าจะส่งผลต่อการเติบโตปีนี้ที่ 40%
โดยยอดรายได้มาจากในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60% จากเดิมในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40% ซึ่งตลาดต่างประเทศที่ขยายออกไปใหม่ปีนี้ 3 ปรเทศ คือ เกาหลีใต้ มาเลเซีย บาห์เรน รวมทั้งหมด ขณะนี้ส่งออก 67 ประเทศแล้ว หลังจากที่ทำตลาดต่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2548 โดยปีนี้ตลาดตะวันออกกลางเติบโตดีเกือบ 1,000%
นอกจากนั้น ยังได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 198 ล้านบาทเป็น 225 ล้านบาท คาดว่าจะได้เงินมาลงทุนขยายำกำลังผลิตเช่น โจ๊กจาก 150,000 หีบต่อปี เป็น 300,000 หีบต่อปี และที่เหลือเป็นเงินหมุนเวียนภายในองค์กร
สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 2,250 ล้านบาท ปรับขึ้นจากเดิม 2 ครั้งตั้งแต่ต้นปีคือ 1,800 ล้านบาท และเมื่อไตรมาสที่สองปรับเป้าเป็น 2,000 ล้านบาท ส่วนปีที่แล้วรายได้รวมประมาณ 1,593 ล้านบาท และมีกำไร 9 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกนี้ ทำรายได้แล้วกว่า 1,272 บาท และมีกำไรประมาณ 90 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วมีรายได้ 700 ล้านบาท และขาดทุน 3 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯแยกตามสินค้าแบ่งเป็น ข้าว 70% (เติบโต 25%) วุ้นเส้น 10% (เติบโต 39%) โจ๊กและวุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูป 10% และเทรดดิ้ง 10% ซึ่งในอนาคตเตรียมแตกไลน์สินค้าเพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ในกลุ่มอาหารที่มีพื้นฐานมาจากข้าวเป็นหลัก พร้อมทั้งการขยายฐานด้านพันธมิตรทุกรูปแบบทางด้านการตลาด จัดจำหน่าย การเงิน และการผลิต
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับราคาผลิตภัณฑ์ขึ้นไปบ้างตามต้นทุน ซึ่งพยายามที่จะให้มาร์จินธุรกิจอยู่ในระดับ 14-16% จึงอยู่ได้ และตั้งงบ การตลาดปีนี้ไว้ที่ 40 ล้านบาท โดยตั้งเป้าเพิ่มแชร์แบรนด์ โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป “ตราเกษตร” เป็น 15% จากปัจจุบันอยู่ที่ 7% จากมูลค่าตลาดรวม 900 ล้านบาท
นายสมฤกษ์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยฮา จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอาหารตราเกษตร เปิดเผยว่า บริษัทได้ขยายช่องทางจำหน่ายด้านเทรดดิชันนัลเทรดหรือร้านค้าโชวห่วย ด้วยการแต่งตั้งบริษัท แมสมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ระยะเวลานาน 3 ปี ให้เป็นผู้รับผิดชอบจัดจำหน่ายสำหรับผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูปทั้งโจ๊กและวุ้นเส้นตราเกษตรในช่องทางดังกล่าวที่มีอยู่ประมาณ 50,000 จุดทั่วประเทศ จากเดิมที่บริษัทฯเน้นเฉพาะช่องทางจำหน่ายโมเดิร์นเทรดโดยเป็นการดำเนินการเอง
การขยายช่องทางนี้ ยังเป็นการปิดช่องโหว่และสร้างฐานรายได้เพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมาโมเดิร์นเทรดรายใหญ่ต่างก็มีการเรียกค่าแรกเข้าสินค้า ค่าวางเชลฟ์เป็นอัตราที่สูงมาก อีกทั้งยังโดนผู้ประกอบการคู่แข่งสกัดทางตลาดหลายรูปแบบ ทำให้บริษัทฯต้องปรับแผนดำเนินธุรกิจ เพื่อสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ และมั่นใจว่าจะส่งผลต่อการเติบโตปีนี้ที่ 40%
โดยยอดรายได้มาจากในประเทศ 40% และต่างประเทศ 60% จากเดิมในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40% ซึ่งตลาดต่างประเทศที่ขยายออกไปใหม่ปีนี้ 3 ปรเทศ คือ เกาหลีใต้ มาเลเซีย บาห์เรน รวมทั้งหมด ขณะนี้ส่งออก 67 ประเทศแล้ว หลังจากที่ทำตลาดต่างประเทศมาตั้งแต่ปี 2548 โดยปีนี้ตลาดตะวันออกกลางเติบโตดีเกือบ 1,000%
นอกจากนั้น ยังได้เพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 198 ล้านบาทเป็น 225 ล้านบาท คาดว่าจะได้เงินมาลงทุนขยายำกำลังผลิตเช่น โจ๊กจาก 150,000 หีบต่อปี เป็น 300,000 หีบต่อปี และที่เหลือเป็นเงินหมุนเวียนภายในองค์กร
สำหรับผลประกอบการปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 2,250 ล้านบาท ปรับขึ้นจากเดิม 2 ครั้งตั้งแต่ต้นปีคือ 1,800 ล้านบาท และเมื่อไตรมาสที่สองปรับเป้าเป็น 2,000 ล้านบาท ส่วนปีที่แล้วรายได้รวมประมาณ 1,593 ล้านบาท และมีกำไร 9 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งปีแรกนี้ ทำรายได้แล้วกว่า 1,272 บาท และมีกำไรประมาณ 90 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีที่แล้วมีรายได้ 700 ล้านบาท และขาดทุน 3 ล้านบาท
โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯแยกตามสินค้าแบ่งเป็น ข้าว 70% (เติบโต 25%) วุ้นเส้น 10% (เติบโต 39%) โจ๊กและวุ้นเส้นกึ่งสำเร็จรูป 10% และเทรดดิ้ง 10% ซึ่งในอนาคตเตรียมแตกไลน์สินค้าเพิ่มขึ้นแต่ยังอยู่ในกลุ่มอาหารที่มีพื้นฐานมาจากข้าวเป็นหลัก พร้อมทั้งการขยายฐานด้านพันธมิตรทุกรูปแบบทางด้านการตลาด จัดจำหน่าย การเงิน และการผลิต
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับราคาผลิตภัณฑ์ขึ้นไปบ้างตามต้นทุน ซึ่งพยายามที่จะให้มาร์จินธุรกิจอยู่ในระดับ 14-16% จึงอยู่ได้ และตั้งงบ การตลาดปีนี้ไว้ที่ 40 ล้านบาท โดยตั้งเป้าเพิ่มแชร์แบรนด์ โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป “ตราเกษตร” เป็น 15% จากปัจจุบันอยู่ที่ 7% จากมูลค่าตลาดรวม 900 ล้านบาท