ทัพสินค้าอุปโภคบริโภค ปรับเกมรบแก้กำลังซื้อหด พาเหรดงัดกลยุทธ์ไซส์ซิ่ง ปั้นสินค้าบรรจุภัณฑ์ขนาดย่อมกระตุ้นยอดขาย “ลักส์” ส่งสบู่ก้อน ขนาด 60 กรัม ราคา 6 บาท ถูกกว่าขนาดปกติ 50% ด้านไลอ้อน ปั้นผงซักฟอกขนาดย่อมลงตลาด นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ระบุสินค้าขนาดจิ๋วช่องทางโชวห่วยโตพรวด
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดี ผสมกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง เงินในกระเป๋ามีเท่าเดิมแต่ซื้อสินค้าได้ลดลง ทำให้ผู้ประกอบการงัดกลยุทธ์ไซส์ซิ่ง คือ การออกสินค้าในขนาดที่เล็กลง เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภค ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวผงซักฟอกขนาดใหม่ ซึ่งมีขนาดที่เล็กกว่าปกติ
“ขณะนี้บริษัทต้องระมัดระวังการใช้งบการตลาด การบริหารต้นทุนอย่างมาก โดยผลประกอบการเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 แล้ว แต่กำไรแทบไม่เหลือ จากปกติกำไรกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคประมาณ 2-3% เท่านั้น อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงทยอยเปิดตัวสินค้าลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์”
รายงานความเคลื่อนไหวในแวดวงตลาดคอนซูเมอร์ พบว่า ซัปพลายเออร์หลายรายต่างก็หันมาใช้กลยุทธ์ไซส์ซิ่งออกมารองรับกับกำลับซื้อของผู้บริโภค ล่าสุด บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง เปิดตัวสบู่ก้อนลักส์ขนาด 60 กรัม ราคา 6 บาท เท่านั้น จากขนาดปกติ 80 กรัม ราคา 12 บาท โดยเป็นขนาดที่สามารถประหยัดเงินได้ถึง 50% นอกจากนี้ที่ผ่านมายังมีสินค้ากลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์ออกสินค้าขนาดเล็กลงเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย เช่น ทรอส วีไวต์ และทเวลฟ์พลัส เป็นต้น
จากการสำรวจของผู้สื่อข่าว พบว่า นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสินค้าที่งัดกลยุทธ์ไซส์ซิ่ง อาทิ ดัชมิลล์ เปิดตัวนมเปรี้ยวบรรจุภัณฑ์ 8 บาท ผลิตภัณฑ์คอมฟอร์ท ส่งบรรจุภัณฑ์ซองลงตลาด หรือกระทั่งนีเวียส่งสกินแคร์ในรูปแบบซองราคา 10 บาท ลงตลาดเช่นกัน
นางสาวปริญดา หัศฎางค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค กล่าวว่า กลยุทธ์ที่บริษัทจะเน้นในปีนี้ คือ การนำเสนอสินค้าให้คุ้มค่ากับเม็ดเงินหรือสอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ขนาดประหยัด ในกลุ่มแชมพูแพนทีน ขนาด 90 มล. ราคา 20 บาท โอเลย์ โททัล เอฟเฟ็คส์ ขนาด 20 กรัม ราคา 229 บาท จากขนาดปกติ 50 กรัม ราคากว่า 400 บาท และแปรงสีฟันออรัลบี ราคา 10 บาท เพื่อตอบสนองสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และจากการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลให้สินค้าของพีแอนด์จีสามารถเข้าถึงช่องทางเทรดดิชันนัลเทรดได้มากขึ้น
นางสาวศิริสุภา ยิ่งเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบโอ คอนซูเมอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายวีไวต์ เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่าผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคใช้กลยุทธ์ไซส์ซิ่ง ด้วยการผลิตสินค้าที่มีขนาดเล็กลง เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงโดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด อันเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวและค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้น ตลอดจนการกระจายสินค้าที่สามารถเข้าถึงช่องทางจำหน่ายได้หลากหลาย
ด้านนายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยว่า ซัปพลายเออร์ปรับกลยุทธ์ออกบรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กลงมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคที่อยู่ในเมืองและต่างจังหวัด เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่สอดคล้องกับกำลังการซื้อของตัวเอง โดยกลุ่มที่ไม่ค่อยมีกำลังซื้อ การซื้อสินค้าจะเลือกบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กลง ส่วนกลุ่มที่มีกำลังซื้อจะซื้อบรรจุภัณฑ์ที่มีความคุ้มค่า ทั้งนี้พบว่าสินค้าขนาดเล็กในช่องทางเทรดดิชันนัลเทรด มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดี ผสมกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง เงินในกระเป๋ามีเท่าเดิมแต่ซื้อสินค้าได้ลดลง ทำให้ผู้ประกอบการงัดกลยุทธ์ไซส์ซิ่ง คือ การออกสินค้าในขนาดที่เล็กลง เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภค ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวผงซักฟอกขนาดใหม่ ซึ่งมีขนาดที่เล็กกว่าปกติ
“ขณะนี้บริษัทต้องระมัดระวังการใช้งบการตลาด การบริหารต้นทุนอย่างมาก โดยผลประกอบการเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 แล้ว แต่กำไรแทบไม่เหลือ จากปกติกำไรกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคประมาณ 2-3% เท่านั้น อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงทยอยเปิดตัวสินค้าลงสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องในช่วงโค้งสุดท้ายในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์”
รายงานความเคลื่อนไหวในแวดวงตลาดคอนซูเมอร์ พบว่า ซัปพลายเออร์หลายรายต่างก็หันมาใช้กลยุทธ์ไซส์ซิ่งออกมารองรับกับกำลับซื้อของผู้บริโภค ล่าสุด บริษัทยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง เปิดตัวสบู่ก้อนลักส์ขนาด 60 กรัม ราคา 6 บาท เท่านั้น จากขนาดปกติ 80 กรัม ราคา 12 บาท โดยเป็นขนาดที่สามารถประหยัดเงินได้ถึง 50% นอกจากนี้ที่ผ่านมายังมีสินค้ากลุ่มเพอร์ซันนัลแคร์ออกสินค้าขนาดเล็กลงเพิ่มขึ้น ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย เช่น ทรอส วีไวต์ และทเวลฟ์พลัส เป็นต้น
จากการสำรวจของผู้สื่อข่าว พบว่า นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มสินค้าที่งัดกลยุทธ์ไซส์ซิ่ง อาทิ ดัชมิลล์ เปิดตัวนมเปรี้ยวบรรจุภัณฑ์ 8 บาท ผลิตภัณฑ์คอมฟอร์ท ส่งบรรจุภัณฑ์ซองลงตลาด หรือกระทั่งนีเวียส่งสกินแคร์ในรูปแบบซองราคา 10 บาท ลงตลาดเช่นกัน
นางสาวปริญดา หัศฎางค์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค กล่าวว่า กลยุทธ์ที่บริษัทจะเน้นในปีนี้ คือ การนำเสนอสินค้าให้คุ้มค่ากับเม็ดเงินหรือสอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภค ซึ่งล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวบรรจุภัณฑ์ขนาดประหยัด ในกลุ่มแชมพูแพนทีน ขนาด 90 มล. ราคา 20 บาท โอเลย์ โททัล เอฟเฟ็คส์ ขนาด 20 กรัม ราคา 229 บาท จากขนาดปกติ 50 กรัม ราคากว่า 400 บาท และแปรงสีฟันออรัลบี ราคา 10 บาท เพื่อตอบสนองสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และจากการดำเนินกลยุทธ์ดังกล่าวส่งผลให้สินค้าของพีแอนด์จีสามารถเข้าถึงช่องทางเทรดดิชันนัลเทรดได้มากขึ้น
นางสาวศิริสุภา ยิ่งเจริญ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไบโอ คอนซูเมอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายวีไวต์ เปิดเผยว่า ขณะนี้พบว่าผู้ประกอบการสินค้าอุปโภคบริโภคใช้กลยุทธ์ไซส์ซิ่ง ด้วยการผลิตสินค้าที่มีขนาดเล็กลง เพื่อให้สอดคล้องกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ลดลงโดยเฉพาะในตลาดต่างจังหวัด อันเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัวและค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้น ตลอดจนการกระจายสินค้าที่สามารถเข้าถึงช่องทางจำหน่ายได้หลากหลาย
ด้านนายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย เปิดเผยว่า ซัปพลายเออร์ปรับกลยุทธ์ออกบรรจุภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กลงมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคที่อยู่ในเมืองและต่างจังหวัด เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ที่สอดคล้องกับกำลังการซื้อของตัวเอง โดยกลุ่มที่ไม่ค่อยมีกำลังซื้อ การซื้อสินค้าจะเลือกบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กลง ส่วนกลุ่มที่มีกำลังซื้อจะซื้อบรรจุภัณฑ์ที่มีความคุ้มค่า ทั้งนี้พบว่าสินค้าขนาดเล็กในช่องทางเทรดดิชันนัลเทรด มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น
