พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน หันอัดรูปภาพสูงขึ้น จากเดิมนิยมเก็บเป็นไฟล์ หลังยุคกล้องดิจิตอลบูม “โกดัก” สบช่อง ผุดเครื่องพิมพ์ภาพดิจิตอลระบบดรายแล็บ หรือ “APEX” เจาะตลาดร้านล้างอัดรูปถ่ายทุกช่องทาง เน้นกลุ่มที่ต้องการขยายสาขา ชูฟังก์ชันการทำงานเพิ่มมูลค่าให้กับรูปถ่ายได้หลากหลาย เผยครึ่งปีหลัง เตรียมคลอดกล้องดิจิตอลอีก 7-8 ตัว พร้อมเดินหน้าปรับโฉมร้านโกดักเอ็กซ์เพรสสู่รูปแบบไทเกอร์ชอปต่อเนื่อง มั่นใจสิ้นปีมีรายได้เติบโตเท่าปีก่อนที่ 4%
นายพัลลภ สันติพันธ์ ผู้จัดการธุรกิจระบบผลิตภัณฑ์ดิจิตอลและฟิล์ม ประจำประเทศไทย พม่า ลาว และ กัมพูชา บริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากเดิมในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไป โดยหันมาให้ความสำคัญในการอัดรูปภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จากเดิมที่นิยมถ่ายภาพจากกล้องดิจิตอล และมือถือ แล้วเก็บเป็นไฟล์ภาพมากกว่าการอัดรูปถ่ายเก็บไว้ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง ส่งผลให้ครึ่งปีที่ผ่านมาภาพรวมของตลาดล้างอัดรูปเติบโตลดลงเล็กน้อย ในแง่ของจำนวนล้างอัดรูป เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่สำหรับโกดักแล้วถือว่ายังมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการค่อนข้างสูงอยู่ จึงส่งผลให้รายได้ครึ่งปีแรกยังเป็นเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ส่งผลให้ทั้งปีมองว่าบริษัทฯน่าจะมีรายได้เติบโต 4% เท่าปีก่อน
การที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปนี้ มองว่า เป็นโอกาสสำหรับตลาดร้านล้างอัดรูปภาพ ดังนั้นทางบริษัทจึงได้นำเข้าเครื่องพิมพ์ภาพดิจิตอลระบบดรายแล็บจากประเทศสหรัฐอเมริกาเข้ามา มีชื่อว่า “Kodak Adaptive Picture Exchange” หรือ APEX ที่มีระบบปรับขยายและประกอบให้เหมาะสมได้ตามขนาดธุรกิจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งาน ที่สามารถประยุกต์ และใช้งานง่าย และความสามารถพิเศษในการต่อยอดการทำงาน จากเดิมที่อัดได้เพียงรูปภาพ สามารถทำออกมาในรูปแบบปฏิทิน หรืออื่นๆได้หลากหลายในเครื่องเดียว
“APEX เหมาสำหรับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจแล็บสี หรือร้านล้างอัดรูปถ่ายทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการขยายธุรกิจ หรือเพิ่งเริ่มทำธุรกิจ เพราะเดิมเครื่องล้างอัดรูปจะมีราคาค่อนข้างแพง หากต้องการล้างอัดภาพถ่ายในจำนวนที่มากขึ้นแล้ว ก็ต้องทิ้งเครื่องเดิมแล้วลงทุนซื้อเครื่องใหม่ แต่สำหรับ APEX จะมีคุณสมบัติพิเศษ เหมาะสำหรับร้านขนาดเล็กและผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจ ที่หากวันหนึ่งต้องการขยายธุรกิจก็สามารถซื้อเครื่องเพิ่มมาต่อการทำงานเข้าด้วยกันได้ ไม่จำเป็นต้องทิ้งเครื่องเดิมไป ขณะเดียวกันขั้นตอนการทำงานก็ค่อนข้างง่าย และสะดวกกว่าเดิมมากขึ้น”
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเจาะตลาดในทุกช่องทาง คาดว่า ทั้งปีน่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่า 60 ชุด ทั้งขนาดเล็กที่มีเพียงเครื่องเดียว สามารถอัดภาพถ่ายได้ 460 ภาพต่อชั่วโมง ราคา 550,000 บาท ไปจนถึงขนาดใหญ่ (นำหลายตัวมาต่อกัน) สามารถอัดภาพในจำนวนทาสูงขึ้น ราคา 850,000 บาท
นายพัลลภ กล่าวต่อว่า สำหรับครึ่งปีหลังนี้ ทางบริษัทมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งในส่วนของเครื่องพิมพ์ภาพ รวมไปการขยายสาขาของร้านอัดรูป ในรูปแบบคีออส จากเดิมที่มีอยู่ 300 ตัวในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน สำหรับร้านแล็บสีโกดักเอ็กซ์เพรส บริษัทได้มีการรีโนเวตตกแต่งรูปแบบชอปใหม่ ภายใต้ชื่อไทเกอร์ชอป อีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาทำได้ประมาณ 100 สาขาแล้ว ยังเหลืออีก 435 สาขา ที่กำลังทยอยรีโนเวตอยู่อย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของกล้องดิจิตอล คาดว่า ครึ่งปีหลังนี้จะเปิดตัวอีกไม่ต่ำกว่า 7-8 รุ่น ซึ่งในกลุ่มตลาดกล้องดิจิตอล โกดักมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ในอันดับที่ 4-5 ขณะที่ความต้องการกล้องดิจิตอลของผู้บริโภคปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 9 แสน ถึง 1 ล้านยูนิต เติบโตขึ้นจากปีก่อน 6% แต่ในแง่มูลค่าลดลง เทียบรุ่นที่มีพิกเซลในระดับเดียวกัน คาดว่าราคาตกลงอีก 500-1,000 บาท ต่อเครื่อง
นายพัลลภ สันติพันธ์ ผู้จัดการธุรกิจระบบผลิตภัณฑ์ดิจิตอลและฟิล์ม ประจำประเทศไทย พม่า ลาว และ กัมพูชา บริษัท โกดัก (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากเดิมในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา พบว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไป โดยหันมาให้ความสำคัญในการอัดรูปภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จากเดิมที่นิยมถ่ายภาพจากกล้องดิจิตอล และมือถือ แล้วเก็บเป็นไฟล์ภาพมากกว่าการอัดรูปถ่ายเก็บไว้ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง ส่งผลให้ครึ่งปีที่ผ่านมาภาพรวมของตลาดล้างอัดรูปเติบโตลดลงเล็กน้อย ในแง่ของจำนวนล้างอัดรูป เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่สำหรับโกดักแล้วถือว่ายังมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการค่อนข้างสูงอยู่ จึงส่งผลให้รายได้ครึ่งปีแรกยังเป็นเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ส่งผลให้ทั้งปีมองว่าบริษัทฯน่าจะมีรายได้เติบโต 4% เท่าปีก่อน
การที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปนี้ มองว่า เป็นโอกาสสำหรับตลาดร้านล้างอัดรูปภาพ ดังนั้นทางบริษัทจึงได้นำเข้าเครื่องพิมพ์ภาพดิจิตอลระบบดรายแล็บจากประเทศสหรัฐอเมริกาเข้ามา มีชื่อว่า “Kodak Adaptive Picture Exchange” หรือ APEX ที่มีระบบปรับขยายและประกอบให้เหมาะสมได้ตามขนาดธุรกิจ พร้อมฟังก์ชันการใช้งาน ที่สามารถประยุกต์ และใช้งานง่าย และความสามารถพิเศษในการต่อยอดการทำงาน จากเดิมที่อัดได้เพียงรูปภาพ สามารถทำออกมาในรูปแบบปฏิทิน หรืออื่นๆได้หลากหลายในเครื่องเดียว
“APEX เหมาสำหรับกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจแล็บสี หรือร้านล้างอัดรูปถ่ายทั่วไป โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการขยายธุรกิจ หรือเพิ่งเริ่มทำธุรกิจ เพราะเดิมเครื่องล้างอัดรูปจะมีราคาค่อนข้างแพง หากต้องการล้างอัดภาพถ่ายในจำนวนที่มากขึ้นแล้ว ก็ต้องทิ้งเครื่องเดิมแล้วลงทุนซื้อเครื่องใหม่ แต่สำหรับ APEX จะมีคุณสมบัติพิเศษ เหมาะสำหรับร้านขนาดเล็กและผู้ประกอบการที่ต้องการขยายธุรกิจ ที่หากวันหนึ่งต้องการขยายธุรกิจก็สามารถซื้อเครื่องเพิ่มมาต่อการทำงานเข้าด้วยกันได้ ไม่จำเป็นต้องทิ้งเครื่องเดิมไป ขณะเดียวกันขั้นตอนการทำงานก็ค่อนข้างง่าย และสะดวกกว่าเดิมมากขึ้น”
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนเจาะตลาดในทุกช่องทาง คาดว่า ทั้งปีน่าจะขายได้ไม่ต่ำกว่า 60 ชุด ทั้งขนาดเล็กที่มีเพียงเครื่องเดียว สามารถอัดภาพถ่ายได้ 460 ภาพต่อชั่วโมง ราคา 550,000 บาท ไปจนถึงขนาดใหญ่ (นำหลายตัวมาต่อกัน) สามารถอัดภาพในจำนวนทาสูงขึ้น ราคา 850,000 บาท
นายพัลลภ กล่าวต่อว่า สำหรับครึ่งปีหลังนี้ ทางบริษัทมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ทั้งในส่วนของเครื่องพิมพ์ภาพ รวมไปการขยายสาขาของร้านอัดรูป ในรูปแบบคีออส จากเดิมที่มีอยู่ 300 ตัวในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน สำหรับร้านแล็บสีโกดักเอ็กซ์เพรส บริษัทได้มีการรีโนเวตตกแต่งรูปแบบชอปใหม่ ภายใต้ชื่อไทเกอร์ชอป อีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาทำได้ประมาณ 100 สาขาแล้ว ยังเหลืออีก 435 สาขา ที่กำลังทยอยรีโนเวตอยู่อย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของกล้องดิจิตอล คาดว่า ครึ่งปีหลังนี้จะเปิดตัวอีกไม่ต่ำกว่า 7-8 รุ่น ซึ่งในกลุ่มตลาดกล้องดิจิตอล โกดักมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ในอันดับที่ 4-5 ขณะที่ความต้องการกล้องดิจิตอลของผู้บริโภคปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 9 แสน ถึง 1 ล้านยูนิต เติบโตขึ้นจากปีก่อน 6% แต่ในแง่มูลค่าลดลง เทียบรุ่นที่มีพิกเซลในระดับเดียวกัน คาดว่าราคาตกลงอีก 500-1,000 บาท ต่อเครื่อง
