นีโอ ย้ำภาพผู้นำจัดงานเว็ดดิ้งแฟร์ ฉีกทางจัดงานรูปแบบเอ็กคลูซีฟ ประเดิมรูปแบบ “Chic Chinese” หนีคู่แข่งขันที่ล้นตลาดในปัจจุบัน หวังจับทาเก็ตระดับบนแบบนิชมาร์เก็ต หลังพบคู่รักตลาดแมสลดงบจัดงานแต่งงานลง 15% จากพิษเศรษฐกิจเป็นเหตุ
นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด(นีโอ) ผู้จัดงาน Wedding Fair 2008-Exclusive เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดงาน เว็ดดิ้ง ในรูปแบบเอ็กคลูซีฟ แบบนี้เป็นครั้งแรก หลังจากเป็นผู้ริเริ่มจัดงานเว็ดดิ้งแฟร์มาต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 ทั้งนี้ เพราะเห็นว่า ตลาดการจัดงานเว็ดดิ้งแฟร์ ปัจจุบันมีผู้จัดงานจำนวนมากเกิดงานซ้ำซ้อน ทำให้มีการแข่งขันสูงบริษัทจึงต้องการเปิดตลาดใหม่ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำของธุรกิจการจัดงาน จึงได้ริเริ่มจัดงานในรูปแบบเอ็กครูซีฟขึ้นมา
ทั้งนี้ จากข้อมูลผู้เข้าชมงานในแต่ละปีที่ผ่านมา พบว่า ยังมีลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงกลุ่มหนึ่ง ที่คาดหวังว่าจะมีงานเว็ดดิ้งแฟร์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการแบบไลฟสไตล์แบบนิชมาร์เก็ต แต่งานที่จัดอยู่ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะจับตลาดคู่แต่งงานในรูปแบบทั่วไป หรือตลาดแมส ซึ่งงาน Wedding Fair 2008-Exclusive ได้จัดภายใต้แนวคิด “Chic Chinese” รวมรูปแบบการจัดงานแต่งงานตามประเพณีชาวจีนโบราณ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่คู่บ่าวสาว แต่ละปีจะนำเสนอธีมแตกต่างกันออกไปในแต่ละชาติแต่ละวัฒนธรรม แต่ที่เลือกจีนก่อนเพราะเป็นตลาดใหญ่ โดยคนกรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีคนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก
“ครั้งนี้ถือเป็นการรีแบรนด์ เว็ดดิ้ง แฟร์ สู่การเป็น โทเทิล เว็ดดิ้ง โซลูชั่น โพรไวเดอร์ ตอบโจทย์คู่วิวาห์ยุดใหม่ ตอกย้ำว่าประเทศไทยที่เหมาะสมจะเป็นศูนย์กลางการจัดงานวิวาห์นานาชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของ ททท.โดยบริษัทวางแผนว่า จะนำข้อมูลการจัดงาน และเว็บไซต์ไปลิงก์อยู่ในเว็บไซต์ของ ททท.ประกาศให้ชาวต่างชาติที่สนใจเข้ามาจัดงานวิวาห์ในประเทศไทยได้รับรู้ด้วย งานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-31 สิงหาคม รวมสินค้าเกี่ยวกับการแต่งงานมากกว่า 120 บริษัท คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมงานราว 1.5 หมื่นคู่ มีรายได้สะพัด 60 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันของตลาดงานเว็ดดิ้งแฟร์ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่คู่รักที่จะแต่งงานกลับลดงบประมาณสำหรับใช้จัดงานลงประมาณ 15% สาเหตุจากสภาวะทางเศรษฐกิจ เห็นได้จากงานเว็ดดิ้งแฟร์ 2008 ที่นีโอ ได้จัดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าชม และ รายได้ พลาดจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ มีผู้เข้าชมงาน 1.6 หมื่นคู่ มีรายได้สะพัด 100 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ 2 หมื่นคู่ รายได้สะพัด 120 ล้านบาท และยังเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าผู้เข้าชมงานเมื่อปี 2550 ที่มีผู้เข้าชมงานราว 1.8 หมื่นคู่
สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์และบริการด้านมงคลสมรสของไทย มีมูลค่าต่อปีราว 3 หมื่นล้านบาท โดยต่อปีมีคู่สมรสที่มาจดทะเบียนสมรสกว่า 4 แสนคู่ ขณะที่มีผู้ใช้บริการธุรกิจรับจัดงานแต่งงานอยู่ราว 1.5 แสนคู่ต่อปี จึงเป็นตลาดที่น่าสนใจของผู้ประกอบการ
นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด(นีโอ) ผู้จัดงาน Wedding Fair 2008-Exclusive เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดงาน เว็ดดิ้ง ในรูปแบบเอ็กคลูซีฟ แบบนี้เป็นครั้งแรก หลังจากเป็นผู้ริเริ่มจัดงานเว็ดดิ้งแฟร์มาต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 ทั้งนี้ เพราะเห็นว่า ตลาดการจัดงานเว็ดดิ้งแฟร์ ปัจจุบันมีผู้จัดงานจำนวนมากเกิดงานซ้ำซ้อน ทำให้มีการแข่งขันสูงบริษัทจึงต้องการเปิดตลาดใหม่ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำของธุรกิจการจัดงาน จึงได้ริเริ่มจัดงานในรูปแบบเอ็กครูซีฟขึ้นมา
ทั้งนี้ จากข้อมูลผู้เข้าชมงานในแต่ละปีที่ผ่านมา พบว่า ยังมีลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงกลุ่มหนึ่ง ที่คาดหวังว่าจะมีงานเว็ดดิ้งแฟร์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการแบบไลฟสไตล์แบบนิชมาร์เก็ต แต่งานที่จัดอยู่ในท้องตลาดส่วนใหญ่จะจับตลาดคู่แต่งงานในรูปแบบทั่วไป หรือตลาดแมส ซึ่งงาน Wedding Fair 2008-Exclusive ได้จัดภายใต้แนวคิด “Chic Chinese” รวมรูปแบบการจัดงานแต่งงานตามประเพณีชาวจีนโบราณ เพื่อเป็นสิริมงคลแก่คู่บ่าวสาว แต่ละปีจะนำเสนอธีมแตกต่างกันออกไปในแต่ละชาติแต่ละวัฒนธรรม แต่ที่เลือกจีนก่อนเพราะเป็นตลาดใหญ่ โดยคนกรุงเทพฯและปริมณฑล จะมีคนไทยเชื้อสายจีนจำนวนมาก
“ครั้งนี้ถือเป็นการรีแบรนด์ เว็ดดิ้ง แฟร์ สู่การเป็น โทเทิล เว็ดดิ้ง โซลูชั่น โพรไวเดอร์ ตอบโจทย์คู่วิวาห์ยุดใหม่ ตอกย้ำว่าประเทศไทยที่เหมาะสมจะเป็นศูนย์กลางการจัดงานวิวาห์นานาชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของ ททท.โดยบริษัทวางแผนว่า จะนำข้อมูลการจัดงาน และเว็บไซต์ไปลิงก์อยู่ในเว็บไซต์ของ ททท.ประกาศให้ชาวต่างชาติที่สนใจเข้ามาจัดงานวิวาห์ในประเทศไทยได้รับรู้ด้วย งานนี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 28-31 สิงหาคม รวมสินค้าเกี่ยวกับการแต่งงานมากกว่า 120 บริษัท คาดว่า จะมีผู้เข้าร่วมงานราว 1.5 หมื่นคู่ มีรายได้สะพัด 60 ล้านบาท”
อย่างไรก็ตาม การแข่งขันของตลาดงานเว็ดดิ้งแฟร์ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่คู่รักที่จะแต่งงานกลับลดงบประมาณสำหรับใช้จัดงานลงประมาณ 15% สาเหตุจากสภาวะทางเศรษฐกิจ เห็นได้จากงานเว็ดดิ้งแฟร์ 2008 ที่นีโอ ได้จัดขึ้นเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีผู้เข้าชม และ รายได้ พลาดจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ คือ มีผู้เข้าชมงาน 1.6 หมื่นคู่ มีรายได้สะพัด 100 ล้านบาท จากเป้าที่ตั้งไว้ 2 หมื่นคู่ รายได้สะพัด 120 ล้านบาท และยังเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าผู้เข้าชมงานเมื่อปี 2550 ที่มีผู้เข้าชมงานราว 1.8 หมื่นคู่
สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์และบริการด้านมงคลสมรสของไทย มีมูลค่าต่อปีราว 3 หมื่นล้านบาท โดยต่อปีมีคู่สมรสที่มาจดทะเบียนสมรสกว่า 4 แสนคู่ ขณะที่มีผู้ใช้บริการธุรกิจรับจัดงานแต่งงานอยู่ราว 1.5 แสนคู่ต่อปี จึงเป็นตลาดที่น่าสนใจของผู้ประกอบการ
