สยามฟิวเจอร์ฯ ห่วงภาวะดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ-ราคาน้ำมัน ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ต้นทุนก่อสร้างพุ่งขึ้น ลั่นไม่ปรับอัตราค่าเช่าและไม่ปรับเป้าหมายภายในปี 2553 มีพื้นที่รวม 5 แสนตารางเมตร ผุดสาขาใหม่เพิ่มอีก แผนเปิดเอาท์เล็ตยังไม่สรุป คาดสิ้นปีนี้รู้ผล
นายสมนึก พจน์เกษมสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอฟ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในขณะนี้น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในเรื่องของดอกเบี้ย และเงินเฟ้อ และราคาน้ำมัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างเพราะราคาวัสดุแพงขึ้น ซึ่งบริษัทฯยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการใหม่ด้วย รวมไปถึงอาจจะกระทบแผนการลงทุนระยะยาวได้
แต่บริษัทยังไม่มีแผนปรับค่าเช่าพื้นที่ในระยะนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะเช่าระยะยาว 3 ปี ต่อสัญญาและสามารถเพิ่มค่าเช่าได้ 15% อยู่แล้ว โดยพื้นที่ที่บริษัทลงทุนส่วนใหญ่เป็นสัญญาเช่ายาว 30 ปี
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังวางเป้าหมายไว้ว่าภายใน 3 ปีนี้ (ถึงปี 2553) จะมีพื้นที่ค้าปลีกเชิงพาณิชย์ในการบริหารรวมมากกว่า 500,000 ตารางเมตร จากปัจจุบันที่มีพื้นที่บริการรวมแล้วกว่า 240,000 ตารางเมตร จากทั้งหมด 29 โครงการ โดยแผนปีหน้าจะลงทุนเปิดอีก 5 โครงการใหม่ ซึ่งลงทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 ล้านบาทต่อโครงการ หรือรวมประมาณ 5,000 กว่าล้านบาท และจะเพิ่มพื้นที่อีกประมาณ 50,000 ตารางเมตร โดยมองทำเลไว้แล้วที่ สาทร พระราม 4 สุขุมวิท เป็นต้น ซึ่งจะเน้นรูปแบบศูนย์การค้าชุมชนและไลฟ์สไตล์มอลล์
ส่วนรูปแบบเอาท์เล็ทนั้น ยังอยู่ในแผนที่จะพัฒนาเช่นกัน โดยยังอยู่ระหว่างการหาทำเลที่เหมาะสม คาดว่าจะลงทุนบริเวณถนนบางนา พื้นที่ที่ต้องการ 100 ไร่ ส่วนการลงทุนนั้นยังไม่สรุป แต่ปกติแล้วจะลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อพื้นที่ขนาด 50,000 ตารางเมตร ส่วนแผนการลงทุนในต่างจังหวัด ขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะขยายออกไปเพิ่มอีก จากปัจจุบันที่มีเปิดอยู่แล้ว 3 จังหวัดใน พัทยา ปากช่องและฉะเชิงเทรา ส่วนสาขาอีก 26 แห่งนั้นอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 98%
ทั้งนี้ งบลงทุนทั้งหมดจะมาจากเงินในบริษัทประมาณ 40% ส่วนอีก 60% จะมาจากรายได้ค่าเซ้งจากลูกห้องต่างๆ เฉลี่ยแล้วค่าเช่าของพื้นที่ค้าปลีกของบริษัทฯจะอยู่ที่ 430 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
ขณะที่ปีนี้บริษัทได้เพิ่มพื้นที่ขึ้นมารวมมากกว่า 40,000 ตารางเมตร จากการเปิดอีก 3 โครงการใหม่ลงทุนรวมกว่า 1,500 ล้านบาท คือ ดิอเวนิวรัชโยธินติดกับเมเจอร์รัชโยธิน, มาร์เก็ตเพลสที่ นวมินทร์เกษตรเกษตร-นวมินทร์ มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท และนวมินทร์ซิตี้อเวนิวที่เสนา จะเปิดไตรมาสแรกปี 2552 ล่าสุด คือ การเพิ่มพื้นที่อีก 1,000 ตารางเมตร ที่โครงการมาร์เก็ตเพลสทองหล่อ โดยใช้งบลงทุนเพิ่ม 10 ล้านบาท เพิ่มอีก 10 ร้านค้าเช่า
สำหรับผลประกอบการของสยามฟิวเจอร์ฯงวดไตรมาส 1 มีรายได้กว่า 700 ล้านบาท ส่วนไตรมาสที่สอง คาดว่า อาจจะไม่ถึง 500 ล้านบาท ขณะที่เมื่อปี 2550 มีรายได้รวม 1,600 ล้านบาท คาดว่าปีนี้รายได้จะเติบโต 20%
นายสมนึก พจน์เกษมสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ เอสเอฟ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจในขณะนี้น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในเรื่องของดอกเบี้ย และเงินเฟ้อ และราคาน้ำมัน ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างเพราะราคาวัสดุแพงขึ้น ซึ่งบริษัทฯยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการใหม่ด้วย รวมไปถึงอาจจะกระทบแผนการลงทุนระยะยาวได้
แต่บริษัทยังไม่มีแผนปรับค่าเช่าพื้นที่ในระยะนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ลูกค้าจะเช่าระยะยาว 3 ปี ต่อสัญญาและสามารถเพิ่มค่าเช่าได้ 15% อยู่แล้ว โดยพื้นที่ที่บริษัทลงทุนส่วนใหญ่เป็นสัญญาเช่ายาว 30 ปี
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังวางเป้าหมายไว้ว่าภายใน 3 ปีนี้ (ถึงปี 2553) จะมีพื้นที่ค้าปลีกเชิงพาณิชย์ในการบริหารรวมมากกว่า 500,000 ตารางเมตร จากปัจจุบันที่มีพื้นที่บริการรวมแล้วกว่า 240,000 ตารางเมตร จากทั้งหมด 29 โครงการ โดยแผนปีหน้าจะลงทุนเปิดอีก 5 โครงการใหม่ ซึ่งลงทุนเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 ล้านบาทต่อโครงการ หรือรวมประมาณ 5,000 กว่าล้านบาท และจะเพิ่มพื้นที่อีกประมาณ 50,000 ตารางเมตร โดยมองทำเลไว้แล้วที่ สาทร พระราม 4 สุขุมวิท เป็นต้น ซึ่งจะเน้นรูปแบบศูนย์การค้าชุมชนและไลฟ์สไตล์มอลล์
ส่วนรูปแบบเอาท์เล็ทนั้น ยังอยู่ในแผนที่จะพัฒนาเช่นกัน โดยยังอยู่ระหว่างการหาทำเลที่เหมาะสม คาดว่าจะลงทุนบริเวณถนนบางนา พื้นที่ที่ต้องการ 100 ไร่ ส่วนการลงทุนนั้นยังไม่สรุป แต่ปกติแล้วจะลงทุนประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อพื้นที่ขนาด 50,000 ตารางเมตร ส่วนแผนการลงทุนในต่างจังหวัด ขณะนี้ยังไม่มีแผนที่จะขยายออกไปเพิ่มอีก จากปัจจุบันที่มีเปิดอยู่แล้ว 3 จังหวัดใน พัทยา ปากช่องและฉะเชิงเทรา ส่วนสาขาอีก 26 แห่งนั้นอยู่ในกรุงเทพฯ ซึ่งสามารถครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 98%
ทั้งนี้ งบลงทุนทั้งหมดจะมาจากเงินในบริษัทประมาณ 40% ส่วนอีก 60% จะมาจากรายได้ค่าเซ้งจากลูกห้องต่างๆ เฉลี่ยแล้วค่าเช่าของพื้นที่ค้าปลีกของบริษัทฯจะอยู่ที่ 430 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน
ขณะที่ปีนี้บริษัทได้เพิ่มพื้นที่ขึ้นมารวมมากกว่า 40,000 ตารางเมตร จากการเปิดอีก 3 โครงการใหม่ลงทุนรวมกว่า 1,500 ล้านบาท คือ ดิอเวนิวรัชโยธินติดกับเมเจอร์รัชโยธิน, มาร์เก็ตเพลสที่ นวมินทร์เกษตรเกษตร-นวมินทร์ มูลค่าประมาณ 500 ล้านบาท และนวมินทร์ซิตี้อเวนิวที่เสนา จะเปิดไตรมาสแรกปี 2552 ล่าสุด คือ การเพิ่มพื้นที่อีก 1,000 ตารางเมตร ที่โครงการมาร์เก็ตเพลสทองหล่อ โดยใช้งบลงทุนเพิ่ม 10 ล้านบาท เพิ่มอีก 10 ร้านค้าเช่า
สำหรับผลประกอบการของสยามฟิวเจอร์ฯงวดไตรมาส 1 มีรายได้กว่า 700 ล้านบาท ส่วนไตรมาสที่สอง คาดว่า อาจจะไม่ถึง 500 ล้านบาท ขณะที่เมื่อปี 2550 มีรายได้รวม 1,600 ล้านบาท คาดว่าปีนี้รายได้จะเติบโต 20%