“วงจินโคเวย์” ปรับทีมบริหารยกแผง บริษัทแม่ส่งคนเกาหลีชุดใหม่เข้าคุม หลังชุดเดิมมีปัญหา พร้อมดันคนไทยขึ้นแท่นคนแรก ตั้งเป้าปีนี้เติบโต 35% เพิ่มพนักงานขายประจำ อัดงบตลาด 15 ล้านบาท เพิ่มศูนย์บริการเป็น 20 แห่ง
นางชนิดา เวทยาวิกรมรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วงจิน โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องกรองน้ำและเครื่องกรองอากาศ โคเวย์ จากเกาหลี เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับเปลี่ยนทีมผู้บริหารชุดใหม่ในระดับบนทั้งหมดเกือบ 5-6 คน โดยบริษัทแม่ที่เกาหลีได้ส่งทีมชุดใหม่มาบริหารงานแต่ยังคงเป็นคนเกาหลีเป็นหลัก และมี นางชนิดา เป็นผู้จัดการทั่วไป เป็นคนไทยคนเดียวในระดับบริหาร โดยมีประสบการณ์การบริหารงานด้านขายตรงที่ทัพเพอร์แวร์มานานกว่า 20 ปี ซึ่งได้เข้ามาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินงานด้านการตลาดและการบริการหลังการขายใหม่
หลังจากที่ทีมบริหารเกาหลีเดิมมีปัญหาด้านการบริหารงาน และไม่เข้าใจในตลาดเมืองไทย รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทย ส่งผลให้การทำตลาดสินค้าเครื่องกรองน้ำและเครื่องกรองอากาศไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งๆ ที่ตลาดเครื่องกรองน้ำ และเครื่องกรองอากาศ มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะมูลค่าตลาดของเครื่องกรองน้ำสำหรับครัวเรือนที่มีอยู่ประมาณ 6,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 25%
อย่างไรก็ตาม หลังจากทีมบริหารชุดใหม่ได้เข้ามาบริหารแล้ว ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายปีนี้เติบโต 35% แต่เมื่อผ่านครึ่งปีแรกไปแล้วมีการเติบโตมากถึง 50% ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตอีก 50% จากยอดขายรวมปีที่ทำได้ประมาณ 300 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจาก เครื่องกรองน้ำ 80% และเครื่องกรองอากาศ 15% ที่เหลือเป็นอื่นๆ เช่น ที่รองนั่งชักโครก เครื่องล้างผักผลไม้อัติโนมัติ
โดยจากนี้มีแผนที่จะเพิ่มพนักงานขายประจำขายสินค้าของบริษัทเท่านั้นประมาณ 100 กว่าคน ที่จะมาช่วยเสริมในส่วนของตลาดโครงการและนิติบุคคล โดยจะมุ่งเน้นเรื่องของตลาดเช่าเครื่องกรองน้ำ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่เริ่มมาได้กว่า 4 เดือน ที่ยอดขายไปแล้ว 400-500 เครื่อง คาดว่าสิ้นปีสักส่วนตลาดเช่านี้จะอยู่ที่ 50% ของรายได้ที่วางไว้
ทั้งนี้ จากเดิมบริษัทมีพนักงานแบบพาร์ทไทม์ หรือพนักงานขายตรงที่ขายสินค้าบริษัทอื่นด้วยประมาณ 700-800 คน แต่มีแอคทีฟประมาณ 200 กว่าคนเท่านั้น เนื่องจากช่องทางหลักของบริษัท คือ การขายตรงสัดส่วนกว่า 70% และโมเดิร์นเทรด 30% รวมทั้งการเพิ่มศูนย์บริการอีกให้ครบ 20 ศูนย์ จากปัจจุบันที่เปิดบริการแล้ว 12 ศูนย์ เพื่อรองรับการบริการลูกค้า ซึ่งมีฐานลูกค้ามากกว่า 6,000 รายแล้ว หลังจากทำตลาดในไทยมาเกือบ 4-5 ปี
ส่วนแผนตลาดปีนี้ตั้งงบตลาดไว้ที่ 15 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการขาย และการเปิดตัวสินค้าใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว เครื่องกรองน้ำใหม่รุ่น P-07 CL ระบบอาร์โอ ขนาดเล็ก เจาะตามคอนโดมิเนียม ราคา 6,500 บาท และ เครื่องกรองอากาศรุ่น AP-0505 BH สำหรับใช้ในห้องขนาด 15 ตารางเมตร ราคา 5,500 บาท นอกนั้นก็มีตลาดเช่าด้วย ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการเช่าเครื่องกรองน้ำสำหรับ ออฟฟิศ โรงงาน โรงพยาบาล ภัตตาคาร ร้านอาหาร อีกด้วย
สำหรับแผนลงทุนในอนาคต ที่ทางบริษัทได้วางไว้ คาดว่า ในช่วง 1-2 ปีนี้ ซึ่งเป็นการกลับมาทำตลาดเน้นการสร้างแบรนด์เป็นหลักแล้ว ยังมองว่าไทยมีศักยภาพสำหรับเป็นศูนย์กลางในย่านเซาท์อีสต์เอเชีย อีกทั้งตลาดเครื่อแงกรองน้ำในไทยยังมีอนาคตได้อีกมาก ดังนั้น 5 ปีหลังจากนี้ บริษัทแม่เตรียมที่จะลงทุนสร้างฐานการผลิตเครื่องกรองน้ำในเมืองไทยเพิ่ม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่โคเวย์ จะมีฐานการผลิตนอกเกาหลี อย่างไรก็ตาม สำหรับงบประมาณการลงทุนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้
นางชนิดา เวทยาวิกรมรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วงจิน โคเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องกรองน้ำและเครื่องกรองอากาศ โคเวย์ จากเกาหลี เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ปรับเปลี่ยนทีมผู้บริหารชุดใหม่ในระดับบนทั้งหมดเกือบ 5-6 คน โดยบริษัทแม่ที่เกาหลีได้ส่งทีมชุดใหม่มาบริหารงานแต่ยังคงเป็นคนเกาหลีเป็นหลัก และมี นางชนิดา เป็นผู้จัดการทั่วไป เป็นคนไทยคนเดียวในระดับบริหาร โดยมีประสบการณ์การบริหารงานด้านขายตรงที่ทัพเพอร์แวร์มานานกว่า 20 ปี ซึ่งได้เข้ามาปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การดำเนินงานด้านการตลาดและการบริการหลังการขายใหม่
หลังจากที่ทีมบริหารเกาหลีเดิมมีปัญหาด้านการบริหารงาน และไม่เข้าใจในตลาดเมืองไทย รวมทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทย ส่งผลให้การทำตลาดสินค้าเครื่องกรองน้ำและเครื่องกรองอากาศไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งๆ ที่ตลาดเครื่องกรองน้ำ และเครื่องกรองอากาศ มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยเฉพาะมูลค่าตลาดของเครื่องกรองน้ำสำหรับครัวเรือนที่มีอยู่ประมาณ 6,000 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 25%
อย่างไรก็ตาม หลังจากทีมบริหารชุดใหม่ได้เข้ามาบริหารแล้ว ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายปีนี้เติบโต 35% แต่เมื่อผ่านครึ่งปีแรกไปแล้วมีการเติบโตมากถึง 50% ส่วนครึ่งปีหลังคาดว่าจะเติบโตอีก 50% จากยอดขายรวมปีที่ทำได้ประมาณ 300 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้หลักมาจาก เครื่องกรองน้ำ 80% และเครื่องกรองอากาศ 15% ที่เหลือเป็นอื่นๆ เช่น ที่รองนั่งชักโครก เครื่องล้างผักผลไม้อัติโนมัติ
โดยจากนี้มีแผนที่จะเพิ่มพนักงานขายประจำขายสินค้าของบริษัทเท่านั้นประมาณ 100 กว่าคน ที่จะมาช่วยเสริมในส่วนของตลาดโครงการและนิติบุคคล โดยจะมุ่งเน้นเรื่องของตลาดเช่าเครื่องกรองน้ำ ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่เริ่มมาได้กว่า 4 เดือน ที่ยอดขายไปแล้ว 400-500 เครื่อง คาดว่าสิ้นปีสักส่วนตลาดเช่านี้จะอยู่ที่ 50% ของรายได้ที่วางไว้
ทั้งนี้ จากเดิมบริษัทมีพนักงานแบบพาร์ทไทม์ หรือพนักงานขายตรงที่ขายสินค้าบริษัทอื่นด้วยประมาณ 700-800 คน แต่มีแอคทีฟประมาณ 200 กว่าคนเท่านั้น เนื่องจากช่องทางหลักของบริษัท คือ การขายตรงสัดส่วนกว่า 70% และโมเดิร์นเทรด 30% รวมทั้งการเพิ่มศูนย์บริการอีกให้ครบ 20 ศูนย์ จากปัจจุบันที่เปิดบริการแล้ว 12 ศูนย์ เพื่อรองรับการบริการลูกค้า ซึ่งมีฐานลูกค้ามากกว่า 6,000 รายแล้ว หลังจากทำตลาดในไทยมาเกือบ 4-5 ปี
ส่วนแผนตลาดปีนี้ตั้งงบตลาดไว้ที่ 15 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการขาย และการเปิดตัวสินค้าใหม่ต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว เครื่องกรองน้ำใหม่รุ่น P-07 CL ระบบอาร์โอ ขนาดเล็ก เจาะตามคอนโดมิเนียม ราคา 6,500 บาท และ เครื่องกรองอากาศรุ่น AP-0505 BH สำหรับใช้ในห้องขนาด 15 ตารางเมตร ราคา 5,500 บาท นอกนั้นก็มีตลาดเช่าด้วย ซึ่งบริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำในการให้บริการเช่าเครื่องกรองน้ำสำหรับ ออฟฟิศ โรงงาน โรงพยาบาล ภัตตาคาร ร้านอาหาร อีกด้วย
สำหรับแผนลงทุนในอนาคต ที่ทางบริษัทได้วางไว้ คาดว่า ในช่วง 1-2 ปีนี้ ซึ่งเป็นการกลับมาทำตลาดเน้นการสร้างแบรนด์เป็นหลักแล้ว ยังมองว่าไทยมีศักยภาพสำหรับเป็นศูนย์กลางในย่านเซาท์อีสต์เอเชีย อีกทั้งตลาดเครื่อแงกรองน้ำในไทยยังมีอนาคตได้อีกมาก ดังนั้น 5 ปีหลังจากนี้ บริษัทแม่เตรียมที่จะลงทุนสร้างฐานการผลิตเครื่องกรองน้ำในเมืองไทยเพิ่ม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่โคเวย์ จะมีฐานการผลิตนอกเกาหลี อย่างไรก็ตาม สำหรับงบประมาณการลงทุนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้
