รมว.คลัง แบมือขอเงิน ครม.วันนี้ 22 ล.เตรียมจัดงานมหกรรมขายของถูก หลังรัฐบาลยกเลิกโครงการธงฟ้าฯ ของกระทรวงพาณิชย์ พร้อมดึง ปตท.ขนถังก๊าซ “เอ็นจีวี” ขายไม่อั้น ยืนยันชัด ไม่ได้จัดงานบังหน้า เพื่อแจกคูปองคนจน
วันนี้ (24 มิ.ย.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยกล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดงานมหกรรมขายสินค้าราคาประหยัด เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-20 ก.ค.นี้ ตนเองเตรียมเสนอต่อที่ประชุม ครม.วันนี้ เพื่อของบประมาณจำนวน 22 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการจัดงาน ส่วนเงินอีก 43 ล้านบาท จะขอให้หน่วยงานภาครัฐที่ร่วมจัดงาน พร้อมทั้งภาคเอกชนร่วมกันสนับสนุน
นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า งานมหกรรมที่จัดขึ้นในครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า “มหกรรมมั่นใจไทยแลนด์ ดีแน่ ถูกแน่ เพื่อคนไทย” โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 65 ล้านบาท สำหรับภายในงานจะมีร้านค้ามาจำหน่ายสินค้าราคาถูกจำนวนมาก รวมถึงถังก๊าซเอ็นจีวีราคาถูก ซึ่งแม้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) จะนำมาจำหน่ายพร้อมติดตั้งถังละ 30,000 บาท จำนวน 1,000 ถังเท่านั้น แต่ยังมีบริษัทผู้ผลิตจากจีน อินเดีย และอิตาลี นำเข้าถังก๊าซราคาถูกมาขายแบบไม่จำกัดจำนวน
“ผมได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมไปดำเนินการเรื่องหาบริษัทผู้ผลิตถังก๊าซและผู้ติดตั้งถังก๊าซในรถยนต์เข้ามาร่วมงานด้วย ทั้งนี้ คาดว่า จะมีเงินสะพัดกว่า 3,000 ล้านบาท”
นพ.สุรพงษ์ ยืนยันว่า ภายในงานจะไม่มีการแจกคูปองเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย เนื่องจากต้องใช้เวลาในการศึกษาและสรุปผล แต่เชื่อว่า จะทันภายในเวลา 1 เดือนนี้แน่นอน ส่วนข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอให้ช่วยเหลือ 1 ล้านครอบครัว คนละ 300-500 บาทนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยจะมีการประชุมหารือเพื่อสรุปอีกครั้ง
นพ.สุรพงษ์ กล่าวเสริมว่า สศช.ได้เสนอแนวทางการกำหนดเส้นแบ่งความยากจนที่ 1,386 บาท และกำหนดการแจกคูปองเงินสด ครอบครัวละ 300-500 บาท จำนวน 1 ล้านครัวเรือน จึงต้องนำมาหารือร่วมกันกับสำนักงบประมาณ และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ด้วยว่าสอดคล้องกันหรือไม่อย่างไร
“รัฐบาลเราจะดูหลักเกณฑ์ของคนจนที่จะแจกคูปองจะอยู่วัดจากตรงไหน โดยรายละเอียดที่หน่วยงานส่งมาให้พิจารณายังเป็นภาพกว้าง ซึ่งจะต้องดูรายละเอียดให้ชัดเจน เพราะต้องการช่วยคนจนจริงๆ ที่ได้รับความทุกข์จากปัญหาเศรษฐกิจ และต้องการใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์มากที่สุด” นพ.สุรพงษ์ กล่าวสรุป
