“หมอเลี้ยบ” ยอมรับตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงกรณีกองทุนฟื้นฟูฯ ขายหุ้น ธ.ไทยธนาคาร ยันไม่มีใบสั่งฟันผู้ว่าฯ ธปท.ส่วนกรณีอินไซเดอร์ราคาหุ้นในกระดาน เป็นหน้าที่เลขาฯ ก.ล.ต.ต้องโชว์ฝีมือ
วันนี้ (19 มิ.ย.) นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยอมรับว่า มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีความเสียหายที่เกิดจากการแก้ไขปัญหาธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) หรือ BT แต่ทั้งนี้ การตั้งกรรมการสอบในประเด็นดังกล่าว ไม่ได้มีจุดประสงค์เจาะจงที่จะตรวจสอบ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แต่อย่างใด
“ผมมองว่าข่าวที่ออกมาอาจสับสนอยู่บ้าง เพราะไม่ได้มีการตั้งกรรมการสอบผู้ว่าการแบงก์ชาติ เพราะผลสรุปของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงยังไม่ออกมา ประเด็นที่พูดกันผ่านสื่อยังมีข้อมูลที่แตกต่างกัน เช่น การซื้อหุ้นเพิ่มทุน ดังนั้น จึงไม่ต้องการชี้นำข้อมูลใดๆ แต่ต้องการให้กรรมการสอบข้อเท็จจริงตรวจสอบข้อมูลทุกเรื่อง และขณะนี้ยังไม่รู้ว่าจะต้องมีใครรับผิดชอบหรือเอาผิดกับใครบ้าง”
สำหรับคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีปัญหาของ BT ชุดนี้ จะมี นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นประธาน และมีกรรมการอีก 5 คน ซึ่งคณะกรรมการคงต้องเร่งดำเนินการสรุปผลสอบเพื่อนำมาเสนอโดยเร็ว เพราะหากยิ่งปล่อยให้เรื่องล่าช้าจะยิ่งเกิดความเสียหายกับ BT ดังนั้น หากพบปัญหาเกิดขึ้นจะได้รีบเข้าไปแก้ไข
ส่วนการตั้งคณะกรรมการดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อแผนการขายหุ้นเพิ่มทุนของ BT หรือไม่นั้น นพ.สุรพงษ์ กล่าวว่า เท่าที่ได้หารือกับตัวแทนของกระทรวงการคลังที่เป็นกรรมการอยู่ในกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ก็พบว่ายังคงเป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้ และการจะดำเนินการใดๆ คงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ
ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า กรณีของธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ก็มีปัญหาลักษณะเดียวกันกับ BT แต่กลับไม่มีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น นพ.สุรพงษ์ ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งหรือกระทำการสองมาตรฐาน เพียงแต่เห็นว่า กรณีของ BT เมื่อเป็นข่าวออกมาก็ต้องการให้เกิดความชัดเจนเพื่อไม่ให้ถูกมองว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบขึ้น ส่วนปัญหาของ TMB เกิดขึ้นมา 2-3 ปีแล้ว แต่รัฐบาลชุดก่อนกลับไม่มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณี TMB ด้วยหรือไม่นั้น ต้องขอไปพิจารณาในรายละเอียดก่อน เพราะข้อมูลที่ได้รับอาจจะแตกต่างกัน เนื่องจากที่มาของข้อมูลมาจากหลายแหล่ง
ส่วนกรณีที่ราคาหุ้นของ BT ร่วงลงหนัก เมื่อวานนี้ นพ.สุรพงษ์ ระบุว่า เป็นเรื่องที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะต้องเข้าไปตรวจสอบว่าจะมีอินไซเดอร์หรือไม่ แต่ก็ไม่มีข้อมูลว่ามีการตั้งใจปล่อยข่าว
นพ.สุรพงษ์ กล่าวอีกว่า แม้กระทรวงการคลังจะไม่มีหน้าที่กำกับดูแลกองทุนฟื้นฟูฯ โดยตรง แต่ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงที่กระทรวงการคลังจะต้องเป็นผู้รับภาระหนี้ของกองทุนฟื้นฟูฯ ที่ในปัจจุบันมีอยู่กว่า 1.4 ล้านล้านบาท ดังนั้น จึงต้องการจะเห็นว่าผู้ที่เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของสถาบันการเงินจะต้องมีผลตอบแทนที่ดีให้ด้วย และหากเป็นการซื้อขายหุ้นอย่างเร่งด่วนก็ต้องพิจารณาด้วยเช่นกันว่าได้รับผลตอบแทนที่ดีหรือไม่
ส่วนอนาคตจะมีการควบรวมกิจการในแต่ละธนาคารที่ภาครัฐถือหุ้นเพื่อแก้ไขปัญหาระบบสถาบันการเงินหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่กองทุนฟื้นฟูฯ จะต้องตัดสินใจ ซึ่งคงให้ความเห็นได้เพียงว่าการดำเนินการจะต้องคิดให้ยาวว่าจะทำอย่างไรให้สถาบันการเงินที่ในอดีตรัฐบาลได้เข้าไปฟื้นฟูจะสามารถกลับมาแข็งแกร่งได้
**ตลท.ขึ้น SP ยาว รอสรุปผลขายหุ้น 42%
ด้านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ด้วยธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) (BT) ได้ขอให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของธนาคารเป็นการชั่วคราว เนื่องจาก BT ได้รับแจ้งจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการขายหุ้น BT จำนวนร้อยละ 42.13 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้ว ซึ่งกระบวนการดังกล่าวมีความคืบหน้าและอาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างการถือหุ้นและการซื้อขายหลักทรัพย์ของธนาคาร BT จึงขอให้ตลาดหลักทรัพย์สั่งห้ามซื้อขายหลักทรัพย์ของ BT เป็นการชั่วคราวจนกว่าจะได้ข้อสรุปซึ่งคาดว่าจะมีข้อสรุปภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2551
ดังนี้ ตลาดหลักทรัพย์ จึงขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) เพื่อห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ BT ตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.2551 ตามที่ธนาคารขอ ทั้งนี้จนกว่า BT จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์แล้ว