กาแฟสดบรรจุขวด คอฟฟิโอ บาย โออิชิ ของโออิชิกรุ๊ปที่มี ตัน ภาสกรนที เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ ได้ออกวางตลาดจำหน่ายมาได้ประมาณ 2-3 เดือนแล้ว ถือว่าได้รับการตอบที่ดีในระดับเริ่มแรก
การเข้าตลาดกาแฟของคอฟฟิโอนี้ก็ถูกจับตามองเหมือนกับแบรนด์อื่นทุกแบรนด์ของเครือโออิชิ ว่าจะมีความดุเด็ดเผ็ดมันและมาแรงถึงขั้นเป็นผู้นำในตลาดนั้นๆได้หรือไม่ เหมือนอย่างกับที่โออิชิทำมาแล้วกับการเป็นผู้นำตลาดชาเขียวด้วยเวลาเพียงไม่กี่ปี
ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการผลักดันและปลุกปั้นแบรนด์ คอฟฟิโอ บาย โออิชิ เต็มตัวครั้งนี้คือ "สุธี ธรรมสิทธิ์บูรณ์" ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ คอฟฟิโอ
สุธี เข้ามาร่วมงานกับโออิชิกรุ๊ป เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ต้องปลุกปั้นแบรนด์ตั้งแต่เริ่มคลอดเลย ซึ่งก่อนนี้เขาก็เคยร่วมปลุกปั้นแบรนด์ เซกิ ของโออิชิกรุ๊ปมาแล้วเช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่ช่วงบุกเบิก
ความลงตัวที่สุธีได้มีโอกาสมารับผิดชอบตรงนี้เป็นสิ่งที่ได้เปรียบอย่างมากกับการแจ้งเกิด คอฟฟิโอ ได้ในระยะเวลาอันสั้น หรืออย่างน้อยก็การกระจายสินค้าเข้าช่องทางจำหน่ายหลักๆได้ ทั้งโมเดิร์นเทรดและเทรดดิชันนัลเทรดอย่างรวดเร็ว
"ก่อนหน้านี้ผมเคยทำงานทางด้านรีเทลมาก่อนเช่น ที่เซเว่นอีเลฟเว่นและที่เทสโก้โลตัส ดูแลทางด้านฝ่ายจัดซื้อหรือเมอร์ชันไดส์ เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกสินค้าเข้ามาวางจำหน่ายในร้านของที่เราทำงานอยู่โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มเครื่องดื่ม ตรงนี้เองทำให้เรารู้ดีว่า รีเทลเขาต้องการสินค้าแบบไหน อย่างไร เรารู้โจทย์และเราเองก็สามารถแก้โจทย์ได้ พอตอนนี้เรามาอยูในส่วนของบทบาทเจ้าของสินค้าที่จะต้องเอาเข้าไปจำหน่ายในรีเทล เราจึงสามารถที่จะรู้ได้ว่าอะไรบ้างที่รีเทลต้องการ" เป็นคำกล่าวของสุธี
เขามองด้วยว่า การปั้นแบรนด์ใหม่ๆนั้นมีทั้งยากและไม่ยาก แต่ที่สำคัญฯต้องดูที่โอกาส ซึ่งโออิชิเป็นที่รู้จักเรื่องเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น ชาเขียว แต่เมื่อวันหนึ่งตลาดมันนิ่งเราก็ต้องหาอะไรใหม่ๆเข้ามานำเสนอ เช่น อะมิโนโอเค เซกิ เป็นต้น ล่าสุดคือ คอฟฟิโอ อันนี้เราดูเทรนด์มีทั้งร้านกาแฟเกิดขึ้นมากมาย หรือผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปจำหน่าย แต่เมื่อวิเคราะห์เพื่อหาจุดต่าง เราจึงทำ คอฟฟิโอ กาแฟสดบรรจุขวดเป็นรายแรก นี่คือจุดแตกต่างของเรา
เมื่อสร้างจุดต่างแล้ว การสร้างคาแรคเตอร์ให้กับสินค้าเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เช่นกัน สำหรับคาแรคเตอร์ของ คอฟฟิโอ โออิชิ ในมุมมองด้านการตลาดของสุธี คือ หากเปรียบคอฟฟิโอเป็นคนก็คือคนหนุ่มคนสาวในวัยทำงาน ที่มีความคล่องตัว มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง และมีความต้องการหาประสบการณ์การรับรู้สิ่งใหม่ๆให้กับสุขภาพของตัวเอง โดยสะท้อนออกมาผ่านรสชาติทั้ง 3 ที่มีอยู่คือรสชาติลาเต้ผสมนม คือ คนรุ่นใหม่มีสไตล์ตัวเอง รสชาติเอสเพรสโซ คือคนที่มีความเข้มในตัวและตั้งใจทำงาน ส่วนรสชาติมอคค่าผสมนมและช็อคโกแลตคือ มีบุคลิกที่สนุกสนาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการอาศัยพฤติกรรมของคนมาเล่นกับตัวสินค้าสร้างเป็นคาแรคเตอร์ขึ้นมา
ด้วยประสบการณ์ของสุธี และความต่างของผลิตภัณฑ์คอฟฟิโอ จึงน่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่ทำให้ สุธี จะปั้นแบรนด์คอฟฟิโอได้ไม่ยากเกินไปนัก
การเข้าตลาดกาแฟของคอฟฟิโอนี้ก็ถูกจับตามองเหมือนกับแบรนด์อื่นทุกแบรนด์ของเครือโออิชิ ว่าจะมีความดุเด็ดเผ็ดมันและมาแรงถึงขั้นเป็นผู้นำในตลาดนั้นๆได้หรือไม่ เหมือนอย่างกับที่โออิชิทำมาแล้วกับการเป็นผู้นำตลาดชาเขียวด้วยเวลาเพียงไม่กี่ปี
ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการผลักดันและปลุกปั้นแบรนด์ คอฟฟิโอ บาย โออิชิ เต็มตัวครั้งนี้คือ "สุธี ธรรมสิทธิ์บูรณ์" ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ คอฟฟิโอ
สุธี เข้ามาร่วมงานกับโออิชิกรุ๊ป เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ต้องปลุกปั้นแบรนด์ตั้งแต่เริ่มคลอดเลย ซึ่งก่อนนี้เขาก็เคยร่วมปลุกปั้นแบรนด์ เซกิ ของโออิชิกรุ๊ปมาแล้วเช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่ช่วงบุกเบิก
ความลงตัวที่สุธีได้มีโอกาสมารับผิดชอบตรงนี้เป็นสิ่งที่ได้เปรียบอย่างมากกับการแจ้งเกิด คอฟฟิโอ ได้ในระยะเวลาอันสั้น หรืออย่างน้อยก็การกระจายสินค้าเข้าช่องทางจำหน่ายหลักๆได้ ทั้งโมเดิร์นเทรดและเทรดดิชันนัลเทรดอย่างรวดเร็ว
"ก่อนหน้านี้ผมเคยทำงานทางด้านรีเทลมาก่อนเช่น ที่เซเว่นอีเลฟเว่นและที่เทสโก้โลตัส ดูแลทางด้านฝ่ายจัดซื้อหรือเมอร์ชันไดส์ เกี่ยวข้องกับการคัดเลือกสินค้าเข้ามาวางจำหน่ายในร้านของที่เราทำงานอยู่โดยเฉพาะในส่วนของกลุ่มเครื่องดื่ม ตรงนี้เองทำให้เรารู้ดีว่า รีเทลเขาต้องการสินค้าแบบไหน อย่างไร เรารู้โจทย์และเราเองก็สามารถแก้โจทย์ได้ พอตอนนี้เรามาอยูในส่วนของบทบาทเจ้าของสินค้าที่จะต้องเอาเข้าไปจำหน่ายในรีเทล เราจึงสามารถที่จะรู้ได้ว่าอะไรบ้างที่รีเทลต้องการ" เป็นคำกล่าวของสุธี
เขามองด้วยว่า การปั้นแบรนด์ใหม่ๆนั้นมีทั้งยากและไม่ยาก แต่ที่สำคัญฯต้องดูที่โอกาส ซึ่งโออิชิเป็นที่รู้จักเรื่องเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เช่น ชาเขียว แต่เมื่อวันหนึ่งตลาดมันนิ่งเราก็ต้องหาอะไรใหม่ๆเข้ามานำเสนอ เช่น อะมิโนโอเค เซกิ เป็นต้น ล่าสุดคือ คอฟฟิโอ อันนี้เราดูเทรนด์มีทั้งร้านกาแฟเกิดขึ้นมากมาย หรือผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปจำหน่าย แต่เมื่อวิเคราะห์เพื่อหาจุดต่าง เราจึงทำ คอฟฟิโอ กาแฟสดบรรจุขวดเป็นรายแรก นี่คือจุดแตกต่างของเรา
เมื่อสร้างจุดต่างแล้ว การสร้างคาแรคเตอร์ให้กับสินค้าเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้เช่นกัน สำหรับคาแรคเตอร์ของ คอฟฟิโอ โออิชิ ในมุมมองด้านการตลาดของสุธี คือ หากเปรียบคอฟฟิโอเป็นคนก็คือคนหนุ่มคนสาวในวัยทำงาน ที่มีความคล่องตัว มีไลฟ์สไตล์เป็นของตัวเอง และมีความต้องการหาประสบการณ์การรับรู้สิ่งใหม่ๆให้กับสุขภาพของตัวเอง โดยสะท้อนออกมาผ่านรสชาติทั้ง 3 ที่มีอยู่คือรสชาติลาเต้ผสมนม คือ คนรุ่นใหม่มีสไตล์ตัวเอง รสชาติเอสเพรสโซ คือคนที่มีความเข้มในตัวและตั้งใจทำงาน ส่วนรสชาติมอคค่าผสมนมและช็อคโกแลตคือ มีบุคลิกที่สนุกสนาน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการอาศัยพฤติกรรมของคนมาเล่นกับตัวสินค้าสร้างเป็นคาแรคเตอร์ขึ้นมา
ด้วยประสบการณ์ของสุธี และความต่างของผลิตภัณฑ์คอฟฟิโอ จึงน่าจะเป็นส่วนผสมที่ลงตัวที่ทำให้ สุธี จะปั้นแบรนด์คอฟฟิโอได้ไม่ยากเกินไปนัก
