สถาพรบุ๊คส์ ย้ำเศรษฐกิจปีนี้ กระทบธุรกิจหนังสืออย่างจัง ต้นทุนพุ่งทั้งกระดาษและการขนส่ง เคราะห์ซ้ำ ผู้อ่านเซฟเงินซื้อหนังสือน้อยลง หวั่นใจครึ่งปีหลังเหนื่อยมากขึ้น ต้องดูสถานการณ์เศรษฐกิจให้ดี ถอดใจปรับเป้าโตจาก 15% ปีนี้โตถึง 5% ก็เยี่ยมแล้ว
นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพรบุ๊คส์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจสำนักพิมพ์ สถาพรบุ๊คส์ เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่าปีนี้เป็นปีแรกที่สภาพเศรษฐกิจส่งผลกระทบกับธุรกิจหนังสือเต็มๆ โดยเฉพาะในส่วนของราคาน้ำมัน จากปกติที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะแย่แค่ไหน ธุรกิจหนังสือถือเป็นกลุ่มท้ายๆที่ได้รับผลกระทบ โดยในปีนี้คาดการณ์ว่า ตลาดหนังสือน่าจะทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา
สำหรับสถาพรบุ๊คส์เอง ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ยังคงมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีตัวเลขใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งเป็นยอดขายที่ต้องมีการทำงานที่หนักขึ้น อย่างไรก็ตามมองว่าสถานการณ์ครึ่งปีหลังจะเลวร้ายลงไปอีก เพราะนอกจากราคาน้ำมันที่เพิ่งสูงขึ้นแล้ว ยังมีเรื่องของต้นทุนกระดาษเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นอีก 3-5% นอกจากนี้ปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ ผู้บริโภค ซึ่งมีแนวโน้มในการพิจารณาซื้อหนังสืออ่านลดลงด้วย เนื่องมาจากอำนาจในการซื้อลดลง ในขณะที่รายได้ยังคงเท่าเดิม
ส่งผลให้ปีนี้ ทางบริษัทฯจะต้องเน้นเรื่องของการบริหารจัดการภายในองค์การมากยิ่งขึ้น มุ่งพัฒนาบุคลกรให้มีคุณภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันจำนวนหนังสือที่จะออกใหม่ปีนี้ ก็จะมีการคัดสรรมากยิ่งขึ้น จากเดิมเฉลี่ยต่อปีที่มีการออกหนังสือใหม่ประมาณ 150 เรื่อง ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 120 เรื่องเป็นอย่างน้อย โดยในแง่จำนวนพิมพ์ต่อเล่มแล้ว ต้องวางแผนให้รัดกุม เรื่องใดที่คาดว่าจะได้รับความนิยม จะมีจำนวนพิมพ์ที่ 3,000 เล่ม นอกนั้นก็จะลดหลั่นลงมา
ทั้งนี้มองว่าหนังสือที่ยังมีโอกาสในการเติบโต และยังมีจำนวนผู้อ่านให้ความสนใจอยู่ คือ กลุ่มหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊ก ประเภทพัฒนาตนเอง จิตวิทยา การใช้ชีวิต การทำงานต่างๆ และกลุ่มหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊ก ประเภทนวนิยาย ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มบันเทิงที่มองว่า คนยังให้ความสนใจที่จะมุ่งหาความบันเทิง โดยเฉพาะในสถานการณ์แบบนี้
นายวรพันธ์ กล่าวต่อว่า เมื่อมองภาพรวมทั้งปีแล้ว จากเดิมที่ตั้งเป้าว่า จะมีการเติบโตที่ 15% เท่าปีก่อนๆ หรือมีการเติบโตมากกว่าตลาดหนังสือ ที่ต่อปีมีการเติบโตประมาณ 7% ปีนี้มองว่าหากยังรักษายอดขาย พร้อมมีการเติบโตที่ 5% ก็ดีว่าดีมากแล้ว สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้
นายวรพันธ์ โลกิตสถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สถาพรบุ๊คส์ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจสำนักพิมพ์ สถาพรบุ๊คส์ เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา พบว่าปีนี้เป็นปีแรกที่สภาพเศรษฐกิจส่งผลกระทบกับธุรกิจหนังสือเต็มๆ โดยเฉพาะในส่วนของราคาน้ำมัน จากปกติที่ผ่านมาถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะแย่แค่ไหน ธุรกิจหนังสือถือเป็นกลุ่มท้ายๆที่ได้รับผลกระทบ โดยในปีนี้คาดการณ์ว่า ตลาดหนังสือน่าจะทรงตัวเท่าปีที่ผ่านมา
สำหรับสถาพรบุ๊คส์เอง ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ยังคงมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีตัวเลขใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งเป็นยอดขายที่ต้องมีการทำงานที่หนักขึ้น อย่างไรก็ตามมองว่าสถานการณ์ครึ่งปีหลังจะเลวร้ายลงไปอีก เพราะนอกจากราคาน้ำมันที่เพิ่งสูงขึ้นแล้ว ยังมีเรื่องของต้นทุนกระดาษเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นอีก 3-5% นอกจากนี้ปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ ผู้บริโภค ซึ่งมีแนวโน้มในการพิจารณาซื้อหนังสืออ่านลดลงด้วย เนื่องมาจากอำนาจในการซื้อลดลง ในขณะที่รายได้ยังคงเท่าเดิม
ส่งผลให้ปีนี้ ทางบริษัทฯจะต้องเน้นเรื่องของการบริหารจัดการภายในองค์การมากยิ่งขึ้น มุ่งพัฒนาบุคลกรให้มีคุณภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันจำนวนหนังสือที่จะออกใหม่ปีนี้ ก็จะมีการคัดสรรมากยิ่งขึ้น จากเดิมเฉลี่ยต่อปีที่มีการออกหนังสือใหม่ประมาณ 150 เรื่อง ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 120 เรื่องเป็นอย่างน้อย โดยในแง่จำนวนพิมพ์ต่อเล่มแล้ว ต้องวางแผนให้รัดกุม เรื่องใดที่คาดว่าจะได้รับความนิยม จะมีจำนวนพิมพ์ที่ 3,000 เล่ม นอกนั้นก็จะลดหลั่นลงมา
ทั้งนี้มองว่าหนังสือที่ยังมีโอกาสในการเติบโต และยังมีจำนวนผู้อ่านให้ความสนใจอยู่ คือ กลุ่มหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊ก ประเภทพัฒนาตนเอง จิตวิทยา การใช้ชีวิต การทำงานต่างๆ และกลุ่มหนังสือพ๊อกเก็ตบุ๊ก ประเภทนวนิยาย ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มบันเทิงที่มองว่า คนยังให้ความสนใจที่จะมุ่งหาความบันเทิง โดยเฉพาะในสถานการณ์แบบนี้
นายวรพันธ์ กล่าวต่อว่า เมื่อมองภาพรวมทั้งปีแล้ว จากเดิมที่ตั้งเป้าว่า จะมีการเติบโตที่ 15% เท่าปีก่อนๆ หรือมีการเติบโตมากกว่าตลาดหนังสือ ที่ต่อปีมีการเติบโตประมาณ 7% ปีนี้มองว่าหากยังรักษายอดขาย พร้อมมีการเติบโตที่ 5% ก็ดีว่าดีมากแล้ว สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้