บลูเอเลเฟ่นท์ เปิดเกมรุกตลาดต่างประเทศโดยใช้สินค้าในกลุ่มโกรเซอรี่ไลน์เป็นตัวชูโรง ปลื้มสำเร็จไปแล้ว 14 ประเทศ เตรียมขยายต่ออีก 6 ประเทศในปีนี้ มั่นใจรายได้เติบโต 250% กวาดรายได้กลุ่มโกเซอรี่ 100 ล้านบาท
นางนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้อำนวยการ บริษัท บลูเอเลเฟ่นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่บริษัทฯได้เปิดตัวสินค้าในกลุ่มโกรเซอรี่ ไลน์ของเราสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ สินค้าในกลุ่มนี้ของเราได้รับการตอบรับเกินความคาดหมาย โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีราว 100% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 250% คิดเป็นมูลค่ารวมในกลุ่มโกรเซอรี่ ไลน์ทั้งสิ้นราว 100 ล้านบาท
"สินค้าในกลุ่มนี้ของเรา เวลานี้มีวางจำหน่ายอยู่ใน 14 ประเทศทั่วโลก อาทิ เบลเยียม ไซปรัส ฝรั่งเศส อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ มอลต้า ออสเตรเลีย สิงค์โปร ฮ่องกง ไต้หวัน อเมริกา แคนาดา ดูไบ ซาอุดิอาราเบีย และกำลังจะขยายเป็น 20 ประเทศภายในปีนี้" นางนูรอกล่าวเสริม โดยตลาดใหม่ๆที่เตรียมขยายออกไปนั้นอีก 6 ประเทศคือ นิวซีแลนด์ เยอรมนี อิตาลี รัสเซีย โปแลนด์ และญี่ปุ่นภายในปีนี้
สำหรับในประเทศไทยผลิตภัณฑ์กลุ่มโกรเซอรี่ ไลน์ มีวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำอย่าง เซ็นทรัล ฟู้ดฮอลล์ (ชิดลม และ เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า) สยามพารากอน เอ็มโพเรียม ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต (มาร์เก็ตเพลส) รวมถึงคาร์ฟูร์ และร้านค้าปลอดภาษี King Power
ปัจจุบันสินค้าในกลุ่มโกรเซอรี่ไลน์ของบลูเอเลเฟ่นท์ประกอบด้วย กะทิกระป๋อง เครื่องแกงแดง เครื่องแกงเขียวหวาน เครื่องแกงมัสมั่น เครื่องแกงสำหรับทำต้มยำ ซ๊อสปรุงรส น้ำปลา น้ำสลัด รวมถึงเส้นจันทร์อบแห้ง ข้าวถุง และของขบเคี้ยว อาทิ ผลไม้อบแห้ง ถั่วรวมมิตรคั่วสมุนไพรไทย และช๊อคโกแล็ต
นายแอเว่ย์ โอรี่ย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลูเอเลเฟ่นท์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บลูเอเลเฟ่นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโกรเซอรี่ไลน์ กล่าวว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราจะเป็นชาวต่างชาติที่เคยได้ยินชื่อเสียงของบลูเอเลเฟ่นท์มาแล้ว รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่เคยรับประทานอาหารที่ร้านบลูเอเลเฟ่นท์ซึ่งมีอยู่ถึง 13 สาขา ที่ตั้งอยู่ในเมืองหลักๆเกือบทั่วโลก รวมถึงผู้ที่เคยมาเรียนทำอาหารที่โรงเรียนสอนทำอาหาร ซึ่งปัจจุบันมีอยู่สาขาเดียวเท่านั้นที่กรุงเทพฯ
"หัวใจสำคัญของการเติบโตอย่างรวดเร็วของสินค้าในกลุ่มนี้นั้นมาจากการที่ลูกค้าของเราได้รับทราบถึงชื่อเสียงของบลูเอเลเฟ่นท์ หรือเคยได้รับความประทับใจในอาหารของเรา รวมถึงตัวโรงเรียนสอนทำอาหาร ทำให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าของเรา"
นางนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ ผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้อำนวยการ บริษัท บลูเอเลเฟ่นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่บริษัทฯได้เปิดตัวสินค้าในกลุ่มโกรเซอรี่ ไลน์ของเราสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ สินค้าในกลุ่มนี้ของเราได้รับการตอบรับเกินความคาดหมาย โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีราว 100% และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 250% คิดเป็นมูลค่ารวมในกลุ่มโกรเซอรี่ ไลน์ทั้งสิ้นราว 100 ล้านบาท
"สินค้าในกลุ่มนี้ของเรา เวลานี้มีวางจำหน่ายอยู่ใน 14 ประเทศทั่วโลก อาทิ เบลเยียม ไซปรัส ฝรั่งเศส อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ มอลต้า ออสเตรเลีย สิงค์โปร ฮ่องกง ไต้หวัน อเมริกา แคนาดา ดูไบ ซาอุดิอาราเบีย และกำลังจะขยายเป็น 20 ประเทศภายในปีนี้" นางนูรอกล่าวเสริม โดยตลาดใหม่ๆที่เตรียมขยายออกไปนั้นอีก 6 ประเทศคือ นิวซีแลนด์ เยอรมนี อิตาลี รัสเซีย โปแลนด์ และญี่ปุ่นภายในปีนี้
สำหรับในประเทศไทยผลิตภัณฑ์กลุ่มโกรเซอรี่ ไลน์ มีวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำอย่าง เซ็นทรัล ฟู้ดฮอลล์ (ชิดลม และ เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า) สยามพารากอน เอ็มโพเรียม ห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เก็ต (มาร์เก็ตเพลส) รวมถึงคาร์ฟูร์ และร้านค้าปลอดภาษี King Power
ปัจจุบันสินค้าในกลุ่มโกรเซอรี่ไลน์ของบลูเอเลเฟ่นท์ประกอบด้วย กะทิกระป๋อง เครื่องแกงแดง เครื่องแกงเขียวหวาน เครื่องแกงมัสมั่น เครื่องแกงสำหรับทำต้มยำ ซ๊อสปรุงรส น้ำปลา น้ำสลัด รวมถึงเส้นจันทร์อบแห้ง ข้าวถุง และของขบเคี้ยว อาทิ ผลไม้อบแห้ง ถั่วรวมมิตรคั่วสมุนไพรไทย และช๊อคโกแล็ต
นายแอเว่ย์ โอรี่ย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บลูเอเลเฟ่นท์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ บลูเอเลเฟ่นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโกรเซอรี่ไลน์ กล่าวว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของเราจะเป็นชาวต่างชาติที่เคยได้ยินชื่อเสียงของบลูเอเลเฟ่นท์มาแล้ว รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่เคยรับประทานอาหารที่ร้านบลูเอเลเฟ่นท์ซึ่งมีอยู่ถึง 13 สาขา ที่ตั้งอยู่ในเมืองหลักๆเกือบทั่วโลก รวมถึงผู้ที่เคยมาเรียนทำอาหารที่โรงเรียนสอนทำอาหาร ซึ่งปัจจุบันมีอยู่สาขาเดียวเท่านั้นที่กรุงเทพฯ
"หัวใจสำคัญของการเติบโตอย่างรวดเร็วของสินค้าในกลุ่มนี้นั้นมาจากการที่ลูกค้าของเราได้รับทราบถึงชื่อเสียงของบลูเอเลเฟ่นท์ หรือเคยได้รับความประทับใจในอาหารของเรา รวมถึงตัวโรงเรียนสอนทำอาหาร ทำให้ลูกค้ารู้สึกเชื่อมั่นในคุณภาพของสินค้าของเรา"