ดัชนีความเชื่อมั่นทรุด! ปชช.กังวลราคาน้ำมัน-ค่าครองชีพพุ่ง

ม.หอการค้า เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย.อยู่ที่ 73.0 ลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ชี้ผู้บริโภคกังวลราคาน้ำมัน-ค่าครองชีพ

วันนี้ (15 พ.ค.) นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึง ผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคประจำเดือน เม.ย.51 โดยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจไทยโดยรวมอยู่ที่ 73.0 ลดลงจาก 73.8 ในเดือน มี.ค.2551

ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสการหางานทำอยู่ที่ 72.7 ลดลงจาก 73.5 ในเดือน มี.ค.2551 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 94.0 ลดลงจาก 94.6 ในเดือน มี.ค.2551 เช่นกัน

“ดัชนีความเชื่อมั่นทุกรายการปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2550 เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น”

ปัจจัยจากราคาน้ำมันแพงส่งผลให้ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องรายได้ในอนาคตที่ไม่สอดคล้องกับค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่มาจากปัญหาซับไพรม์ และความกังวลเกี่ยวกับสถียรภาพทางการเมืองในอนาคต

“ดัชนีความเชื่อมั่นทุกรายการยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 100 แสดงว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ การหางานทำ และรายได้ในอนาคต”

อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีทุกรายการในเดือน เม.ย.ปรับตัวลดลงนั้นไม่ได้หมายความว่า ดัชนีในเดือนต่อไปๆ จะปรับตัวลดลงไปอีก

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่ประชาชนด้วยการปรับเพิ่มค่าครองชีพเป็นเพียงแค่การพยุงภาวะเศรษฐกิจ โดยแนวทางการแก้ปัญหาที่แท้จริงนั้นรัฐบาลควรเข้าไปดูกลไกเรื่องราคาพลังงานไม่ให้ผันผวนอย่างรุนแรง แต่ไม่ใช่การเข้าไปแทรกแซง และหากในไตรมาสที่ 2-3 ราคาพลังงานไม่มีความผันผวนมากนัก ต้นทุนการผลิตลดลง และประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็เชื่อว่าเศรษฐกิจในปีนี้ยังสามารถขยายตัวได้ 5.5-6%