กรมการค้าภายในจัดสัมมนาตั้งสมัชชาตลาดสดฯ โดยมีผู้บริหารตลาดสดกว่า 500 คนเข้ารวมงาน หวังกระตุ้นการรวมตัวลดต้นทุนตลาดสดกว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศ และปกป้องมูลค่าตลาดรวมกว่าปีละ 1.2 ล้านล้านบาท พร้อมเดินหน้าผลักดันกฎหมายคุมค้าปลีกให้ทันปีนี้
กรมการค้าภายใน (คน.) จัดงานสัมมนาที่โรมแรมริชมอนด์ โดยมีผู้บริหารตลาดสดกว่า 500 คน ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัดเข้าร่วม โดยนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า การหารือกับผู้ประกอบการตลาดสดในวันนี้ เพื่อมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการตื่นตัวกัน เพื่อร่วมตัวกันจัดตั้งสมัชชา มีการทำงานร่วมกัน เป็นลักษณะกลุ่มธุรกิจเชื่อมโยง หรือคลัสเตอร์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งสามารถแข่งขันได้กับการขยายตัวของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ที่เป็นเสมือนภัยคุกคามธุรกิจตลาดสด หากผู้ประกอบการตลาดสดไม่ปรับตัวก็จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันกับธุรกิจร้านโชว์ห่วย ซึ่งขณะนี้ลดน้อยลงทุกวัน
สำหรับรูปแบบการรวมตัวกันนั้น ผู้ประกอบการตลาดสดต้องสร้างจุดแข็งที่มีอยู่บางส่วน เช่น การซื้อของตลาดสดสามารถซื้อปลีกได้จำนวนน้อย และต่อรองราคาสินค้าได้ ขณะเดียวกัน การรวมตัวกันของกลุ่มธุรกิจสามารถลดตนทุนในการสั่งซื้อได้ เพราะมีการรวมตัวกันสั่งซื้อสินค้าเป็นล็อตใหญ่มากขึ้น และลดความสูญเสียจากต้นทุนการขนส่งได้ โดยทั้งหมดจะช่วยให้ผู้ประกอบการตลาดสดลดต้นทุนสินค้าลง และสามารถขายสินค้าในราคาที่ถูกลง สามารถแข่งขันกับห้างค้าปลีกที่มีการขายสินค้าในราคาถูกเหมือนขณะนี้
ส่วนบทบาทของกรมการค้าภายใน หลังจากที่ผู้ประกอบการตลาดสดได้มีการลงนามในปฏิญญาจัดตั้งสมัชชาตลาดสดแห่งประเทศไทย กรมการค้าภายในจะมีบทบาทเป็นที่ปรึกษา เพื่อประสานงานหาแหล่งสินค้าราคาถูกมาสนับสนุนผู้ค้าในตลาดสด เนื่องจากกรมการค้าภายใน ทราบแหล่งผลิตสินค้าจากแหล่งผลิตที่มีราคาต่ำเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมการค้าภายในปัจจุบันพบว่า ธุรกิจค้าปลีกทั้งหมดในประเทศ รวมทั้งห้างค้าปลีก และตลาดสดมีมากกว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศ มีมูลค่าการตลาดรวมมากกว่าปีละ 1.2 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการตลาดสด จำนวน 2,847 ราย มีมูลค่าตลาดรวม 50,000-60,000 ล้านบาทเท่านั้น
ส่วนการผลักดันร่างพระราชบัญญัติค้าปลีกที่ตกไป ไม่ได้รับการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติในรัฐบาลที่ผ่านมา กรมการค้าภายในจะพยายามผลักดันเสนอให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน สามารถผลักดันกฎหมายดังกล่าวได้อีกครั้งภายในปีนี้
สำหรับการลงนามในปฏิญญาจัดตั้งสมัชชาตลาดสดแห่งประเทศไทย วันนี้ ประกอบด้วย ตัวแทนสมาคมตลาดสดไทย สมาคมข้าวถุง ผู้ประกอบการตลาดสดทุกภาค กรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมปศุสัตว์ กรมวิชาการเกษตร สถาบันการเงิน และตลาด
กรมการค้าภายใน (คน.) จัดงานสัมมนาที่โรมแรมริชมอนด์ โดยมีผู้บริหารตลาดสดกว่า 500 คน ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัดเข้าร่วม โดยนายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า การหารือกับผู้ประกอบการตลาดสดในวันนี้ เพื่อมุ่งหวังให้ผู้ประกอบการตื่นตัวกัน เพื่อร่วมตัวกันจัดตั้งสมัชชา มีการทำงานร่วมกัน เป็นลักษณะกลุ่มธุรกิจเชื่อมโยง หรือคลัสเตอร์ เพื่อสร้างความเข้มแข็งสามารถแข่งขันได้กับการขยายตัวของห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ ที่เป็นเสมือนภัยคุกคามธุรกิจตลาดสด หากผู้ประกอบการตลาดสดไม่ปรับตัวก็จะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันกับธุรกิจร้านโชว์ห่วย ซึ่งขณะนี้ลดน้อยลงทุกวัน
สำหรับรูปแบบการรวมตัวกันนั้น ผู้ประกอบการตลาดสดต้องสร้างจุดแข็งที่มีอยู่บางส่วน เช่น การซื้อของตลาดสดสามารถซื้อปลีกได้จำนวนน้อย และต่อรองราคาสินค้าได้ ขณะเดียวกัน การรวมตัวกันของกลุ่มธุรกิจสามารถลดตนทุนในการสั่งซื้อได้ เพราะมีการรวมตัวกันสั่งซื้อสินค้าเป็นล็อตใหญ่มากขึ้น และลดความสูญเสียจากต้นทุนการขนส่งได้ โดยทั้งหมดจะช่วยให้ผู้ประกอบการตลาดสดลดต้นทุนสินค้าลง และสามารถขายสินค้าในราคาที่ถูกลง สามารถแข่งขันกับห้างค้าปลีกที่มีการขายสินค้าในราคาถูกเหมือนขณะนี้
ส่วนบทบาทของกรมการค้าภายใน หลังจากที่ผู้ประกอบการตลาดสดได้มีการลงนามในปฏิญญาจัดตั้งสมัชชาตลาดสดแห่งประเทศไทย กรมการค้าภายในจะมีบทบาทเป็นที่ปรึกษา เพื่อประสานงานหาแหล่งสินค้าราคาถูกมาสนับสนุนผู้ค้าในตลาดสด เนื่องจากกรมการค้าภายใน ทราบแหล่งผลิตสินค้าจากแหล่งผลิตที่มีราคาต่ำเป็นอย่างดี
ทั้งนี้ จากข้อมูลของกรมการค้าภายในปัจจุบันพบว่า ธุรกิจค้าปลีกทั้งหมดในประเทศ รวมทั้งห้างค้าปลีก และตลาดสดมีมากกว่า 6,000 แห่งทั่วประเทศ มีมูลค่าการตลาดรวมมากกว่าปีละ 1.2 ล้านล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการตลาดสด จำนวน 2,847 ราย มีมูลค่าตลาดรวม 50,000-60,000 ล้านบาทเท่านั้น
ส่วนการผลักดันร่างพระราชบัญญัติค้าปลีกที่ตกไป ไม่ได้รับการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติในรัฐบาลที่ผ่านมา กรมการค้าภายในจะพยายามผลักดันเสนอให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน สามารถผลักดันกฎหมายดังกล่าวได้อีกครั้งภายในปีนี้
สำหรับการลงนามในปฏิญญาจัดตั้งสมัชชาตลาดสดแห่งประเทศไทย วันนี้ ประกอบด้วย ตัวแทนสมาคมตลาดสดไทย สมาคมข้าวถุง ผู้ประกอบการตลาดสดทุกภาค กรมการส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น กรมปศุสัตว์ กรมวิชาการเกษตร สถาบันการเงิน และตลาด
