ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ห้างค้าส่งท้องถิ่นใน อ.เมืองสงขลา นำข้าวสารถุง 5 กิโลกรัมราคาเก่าออกมาจากสต๊อกจำหน่ายให้กับประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงข้าวสารแพง ส่วนร้านค้าปลีกประสบปัญหาราคาข้าวสารแพงไม่กล้าสั่งข้าวเข้ามาขาย ยอมรับสงสารลูกค้าไม่คิดว่าข้าวจะขึ้นราคาถึง 50%
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ห้างลีวิวัฒน์ค้าส่ง 7 ถนนพัทลุง เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งมีสาขาในเขตเทศบาลนครสงขลาถึง 7 สาขา และเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ในเขตเทศบาลนครสงขลา ได้นำข้าวสารบรรจุถุง 5 กิโลกรัมทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวคัดพิเศษ 100% และข้าวพื้นเมืองชัยนาท ที่มีอยู่ในสต๊อคและเป็นราคาเก่าที่ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาออกมาจำหน่ายให้กับประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่ข้าวมีราคาแพงขึ้น
โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวต่างทยอยกันซื้อข้าวสารถุงคนละ 2-3 ถุง โดยทางห้างบอกว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาข้าวสารที่มีอยู่ในสต๊อคทั้งหมด โดยจะขายตามราคาที่พิมพ์ติดอยู่ที่ถุงและมีบาร์โค้ดกำกับอยู่ทุกถุง หลังหมดสต๊อกชุดนี้แล้วก็จะนำข้าวที่สั่งมาล็อตใหม่ออกมาจำหน่ายในราคาใหม่ต่อไป
ส่วนบรรยากาศตามร้านขายของชำ หรือโชวห่วย หลังจากที่ข้าวสารได้มีการปรับราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัวส่งผลให้ไม่กล้าสั่งข้าวสารเข้ามาขาย โดยผู้ค้าอ้างว่าขอรอดูท่าทีลูกค้าและรอดูราคาอีกครั้งว่า หากสั่งข้าวสารเข้ามาแล้วจะขายให้กับลูกค้า กก.ละเท่าไหร่ เพราะราคามันปรับขึ้นสูงมากกลัวว่าลูกค้าจะรับไม่ได้
นางอารีย์ พุฒด้วง อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 130 ถนนเตาอิฐ เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา เจ้าของร้านโชว์ห่วย กล่าวว่า ณ วันนี้ราคาข้าวสารแพงร้านค้าปลีก จึงไม่กล้าสั่งเข้ามาขาย ทางร้านจะสั่งข้าวสารเป็นกระสอบๆละ 49 กิโลกรัมมาขาย เนื่องจากพบว่าราคาข้าวสารปรับราคาขึ้นสูงมาก ข้าวหอมมะลิ กระสอบ 49 กก.จากเดิม ราคา950 บาท ขึ้นเป็น ราคา 1,550 บาท ข้าวคัดพิเศษ 100% จากเดิม 840 บาท ขึ้นเป็น 1,300 บาท ข้าวพื้นเมืองชัยนาท จากเดิม 570 บาท ขึ้นเป็น 1,100 บาท ทางร้านจึงยังไม่สั่งข้าวสารเข้ามา เนื่องจากหากสั่งเข้ามาแล้วยังไม่รู้ว่าจะตั้งราคาขายให้กับลูกค้าอย่างไร เราเองก็สงสารลูกค้าเหมือนกัน หากขายแพงไปก็ไม่ได้ลูกค้าหายหมดและข้าวสารมันก็ไม่น่าจะแพงถึงขนาดนี้ คนที่แบกภาระก็คือประชาชนผู้บริโภค
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่ห้างลีวิวัฒน์ค้าส่ง 7 ถนนพัทลุง เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งมีสาขาในเขตเทศบาลนครสงขลาถึง 7 สาขา และเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ในเขตเทศบาลนครสงขลา ได้นำข้าวสารบรรจุถุง 5 กิโลกรัมทั้งข้าวหอมมะลิ ข้าวคัดพิเศษ 100% และข้าวพื้นเมืองชัยนาท ที่มีอยู่ในสต๊อคและเป็นราคาเก่าที่ยังไม่มีการปรับขึ้นราคาออกมาจำหน่ายให้กับประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนที่ข้าวมีราคาแพงขึ้น
โดยมีประชาชนที่ทราบข่าวต่างทยอยกันซื้อข้าวสารถุงคนละ 2-3 ถุง โดยทางห้างบอกว่าจะยังไม่มีการปรับขึ้นราคาข้าวสารที่มีอยู่ในสต๊อคทั้งหมด โดยจะขายตามราคาที่พิมพ์ติดอยู่ที่ถุงและมีบาร์โค้ดกำกับอยู่ทุกถุง หลังหมดสต๊อกชุดนี้แล้วก็จะนำข้าวที่สั่งมาล็อตใหม่ออกมาจำหน่ายในราคาใหม่ต่อไป
ส่วนบรรยากาศตามร้านขายของชำ หรือโชวห่วย หลังจากที่ข้าวสารได้มีการปรับราคาสูงขึ้นเกือบเท่าตัวส่งผลให้ไม่กล้าสั่งข้าวสารเข้ามาขาย โดยผู้ค้าอ้างว่าขอรอดูท่าทีลูกค้าและรอดูราคาอีกครั้งว่า หากสั่งข้าวสารเข้ามาแล้วจะขายให้กับลูกค้า กก.ละเท่าไหร่ เพราะราคามันปรับขึ้นสูงมากกลัวว่าลูกค้าจะรับไม่ได้
นางอารีย์ พุฒด้วง อายุ 45 ปี บ้านเลขที่ 130 ถนนเตาอิฐ เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา เจ้าของร้านโชว์ห่วย กล่าวว่า ณ วันนี้ราคาข้าวสารแพงร้านค้าปลีก จึงไม่กล้าสั่งเข้ามาขาย ทางร้านจะสั่งข้าวสารเป็นกระสอบๆละ 49 กิโลกรัมมาขาย เนื่องจากพบว่าราคาข้าวสารปรับราคาขึ้นสูงมาก ข้าวหอมมะลิ กระสอบ 49 กก.จากเดิม ราคา950 บาท ขึ้นเป็น ราคา 1,550 บาท ข้าวคัดพิเศษ 100% จากเดิม 840 บาท ขึ้นเป็น 1,300 บาท ข้าวพื้นเมืองชัยนาท จากเดิม 570 บาท ขึ้นเป็น 1,100 บาท ทางร้านจึงยังไม่สั่งข้าวสารเข้ามา เนื่องจากหากสั่งเข้ามาแล้วยังไม่รู้ว่าจะตั้งราคาขายให้กับลูกค้าอย่างไร เราเองก็สงสารลูกค้าเหมือนกัน หากขายแพงไปก็ไม่ได้ลูกค้าหายหมดและข้าวสารมันก็ไม่น่าจะแพงถึงขนาดนี้ คนที่แบกภาระก็คือประชาชนผู้บริโภค