โอสถสภาชี้ หลังรัฐบาลบริหารประเทศ 3 เดือนแรกกำลังซื้อยังทรงตัว ต้องรออีก 3 เดือนจึงจะประเมินได้ ยันตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคไม่เติบโตเลย แต่เผยสินค้าวัยรุ่นยังไปได้ดี ด้านทเวลฟ์พลัสลุยไม่หยุด ติดใจศิลปินนักร้องเกาหลีดึงเป็นพรีเซ็นเตอร์ต่ออีก
นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่ารัฐบาลจะเข้ามาบริหารประเทศแล้วระยะเวลาหนึ่ง แต่ยังไม่มีผลงานที่ชัดเจน คงต้องให้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนในการบริหารประเทศ จึงทำให้ภาพรวมของกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยรวมในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาปีนี้ยังอยู่ในภาวะที่ทรงตัวไม่กระเตื้องมากเท่าใดนัก และคาดว่าจะต่อเนื่องถึงไตรมาสที่สองด้วย จึงคงจะเห็นกำลังซื้อที่ฟื้นตัวขึ้น
ขณะที่ภาพรวมของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคคาดว่าไม่มีอัตราการเติบโตเลย เนื่องจากการแข่งขันของตลาดที่ค่อนข้างรุนแรงมาก โดยกลยุทธ์ราคายังคงเป็นปัจจัยหลักในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม สินค้าสำหรับวัยรุ่นยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแบรนด์ทเวลฟ์ พลัสของบริษัทฯมีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทฯใช้กลยุทธ์ ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง โดยการดึงศิลปินนักร้องชื่อดังจากเกาหลีมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในสินค้ากลุ่มต่างๆ เช่น โรลออน และแป้งเย็น ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้น 20-30% จากเดิมที่ยอดขายจะเติบโตเฉลี่ย 10% เท่านั้น
ส่วนผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายโดยเฉพาะโรลออนแม้ว่ายังมีอัตรการเติบโต 2-3% แต่ก็น้อยกว่าปีก่อนที่เติบโตถึง 5% ขณะที่ตลาดแป้งมีอัตราการเติบโตสูงสุด 3-4% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ตลาดรวมติดลบ เนื่องจากสภาวะอากาศที่ร้อนทำให้สินค้าขายดี
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯมียอดขายสินค้าเติบโตขึ้นประมาณ 10% เป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ เพราะกลยุทธ์การทำตลาดที่ต่อเนื่องของบริษัทฯและการออกสินค้าใหม่ลงสู่ตลาดเพื่อกระตุ้นตลาด รวมถึงการปรับขนาดบรรจุภัณฑ์ของสินค้าให้เล็กลงในกลุ่มโรลออน โฟมล้างหน้า แว็กซ์ใส่ผม และพ็อกเก็ตโคโลญจน์ ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง 12 - 20 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจแต่มีกำลังซื้อน้อย สามารถซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
นายวิเชียรกล่าวต่อว่า ปีนี้ได้ตั้งงบประมาณการจัดกิจกรรมการตลาดและประชาสัมพันธ์สินค้าภายใต้แบรนด์ทเวลฟ์ พลัสไว้ประมาณ 500 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วที่ใช้ 400 ล้านบาท เพื่อหวังกระตุ้นยอดขายภายในสิ้นปีนี้เติบโตได้ไม่น้อยกว่า 20% จากปี 2550 ที่มียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทฯได้เปิดตัว “ทเวลฟ์ พลัส โรลออน สูตร นาโน แอนไทแบคทีเรีย” โดใช้งบตลาดรวม 140 ล้านบาท พร้อมกับดึงศิลปินนักร้องชาวเกาหลีชื่อ ซอย ชี วอน และลี ทงเฮ จากวงซูเปอร์จูเนียร์ และศิลปินไทย โฟร์-มด มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ร่วมกัน ซึ่งคาดว่า กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้ยอดขายทเวลฟ์ พลัส โรลออนเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มอีก 2 - 3% จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 23% เป็นอันดับที่ 2 ของตลาดรวมโรลออน รองจากนีเวียผู้นำตลาด ที่ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 40% ขณะที่ตลาดรวมโรลออนมีมูลค่า 1,014 ล้านบาท
นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด เปิดเผยว่า แม้ว่ารัฐบาลจะเข้ามาบริหารประเทศแล้วระยะเวลาหนึ่ง แต่ยังไม่มีผลงานที่ชัดเจน คงต้องให้เวลาอย่างน้อย 6 เดือนในการบริหารประเทศ จึงทำให้ภาพรวมของกำลังซื้อของผู้บริโภคโดยรวมในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาปีนี้ยังอยู่ในภาวะที่ทรงตัวไม่กระเตื้องมากเท่าใดนัก และคาดว่าจะต่อเนื่องถึงไตรมาสที่สองด้วย จึงคงจะเห็นกำลังซื้อที่ฟื้นตัวขึ้น
ขณะที่ภาพรวมของตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคคาดว่าไม่มีอัตราการเติบโตเลย เนื่องจากการแข่งขันของตลาดที่ค่อนข้างรุนแรงมาก โดยกลยุทธ์ราคายังคงเป็นปัจจัยหลักในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม สินค้าสำหรับวัยรุ่นยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแบรนด์ทเวลฟ์ พลัสของบริษัทฯมีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทฯใช้กลยุทธ์ ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง โดยการดึงศิลปินนักร้องชื่อดังจากเกาหลีมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในสินค้ากลุ่มต่างๆ เช่น โรลออน และแป้งเย็น ทำให้ยอดขายเติบโตขึ้น 20-30% จากเดิมที่ยอดขายจะเติบโตเฉลี่ย 10% เท่านั้น
ส่วนผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายโดยเฉพาะโรลออนแม้ว่ายังมีอัตรการเติบโต 2-3% แต่ก็น้อยกว่าปีก่อนที่เติบโตถึง 5% ขณะที่ตลาดแป้งมีอัตราการเติบโตสูงสุด 3-4% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ตลาดรวมติดลบ เนื่องจากสภาวะอากาศที่ร้อนทำให้สินค้าขายดี
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทฯมียอดขายสินค้าเติบโตขึ้นประมาณ 10% เป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ เพราะกลยุทธ์การทำตลาดที่ต่อเนื่องของบริษัทฯและการออกสินค้าใหม่ลงสู่ตลาดเพื่อกระตุ้นตลาด รวมถึงการปรับขนาดบรรจุภัณฑ์ของสินค้าให้เล็กลงในกลุ่มโรลออน โฟมล้างหน้า แว็กซ์ใส่ผม และพ็อกเก็ตโคโลญจน์ ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าที่เป็นวัยรุ่นอายุระหว่าง 12 - 20 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่น่าสนใจแต่มีกำลังซื้อน้อย สามารถซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น
นายวิเชียรกล่าวต่อว่า ปีนี้ได้ตั้งงบประมาณการจัดกิจกรรมการตลาดและประชาสัมพันธ์สินค้าภายใต้แบรนด์ทเวลฟ์ พลัสไว้ประมาณ 500 ล้านบาท มากกว่าปีที่แล้วที่ใช้ 400 ล้านบาท เพื่อหวังกระตุ้นยอดขายภายในสิ้นปีนี้เติบโตได้ไม่น้อยกว่า 20% จากปี 2550 ที่มียอดขายประมาณ 1,000 ล้านบาท
ล่าสุด บริษัทฯได้เปิดตัว “ทเวลฟ์ พลัส โรลออน สูตร นาโน แอนไทแบคทีเรีย” โดใช้งบตลาดรวม 140 ล้านบาท พร้อมกับดึงศิลปินนักร้องชาวเกาหลีชื่อ ซอย ชี วอน และลี ทงเฮ จากวงซูเปอร์จูเนียร์ และศิลปินไทย โฟร์-มด มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ร่วมกัน ซึ่งคาดว่า กลยุทธ์ดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้ยอดขายทเวลฟ์ พลัส โรลออนเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% และมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มอีก 2 - 3% จากปัจจุบันที่มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ 23% เป็นอันดับที่ 2 ของตลาดรวมโรลออน รองจากนีเวียผู้นำตลาด ที่ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 40% ขณะที่ตลาดรวมโรลออนมีมูลค่า 1,014 ล้านบาท