การเมืองเริ่มนิ่ง นักลงทุนมั่นใจ “โปรดักส์ คอนซัลแตนท์” หนึ่งในกลุ่มศิวดลกรุ๊ป ดึงลำโพงระดับพรีเมียมแบรนด์ “เอ็กซ์ซิส” รุกตลาดในไทย เตรียมจับกลุ่มตลาด MICE เหตุมองเห็นการผลักดันเรื่องเมกะโปรเจกต์มากขึ้น ปีแรกเน้นการแนะนำสินค้า คาดน่าจะมีรายได้จาก “เอ็กซ์ซิส” ประมาณ 50 ล้านบาท
นายสมทบ สีบุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรดักส์ คอนซัลแต้นท์ จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัท ศิวดลกรุ๊ป ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า เจาะกลุ่มตลาดโปรเจกต์เป็นหลัก เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มนิ่งขึ้น บวกกับมองเห็นการผลักดันเกี่ยวกับเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ของรัฐบาล ทางบริษัทจึงพร้อมที่จะนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องเสียงแบรนด์ “เอ็กซ์ซิส” (AXYS) ซึ่งได้มีการเตรียมนำเข้ามาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว โดยจะมุ่งเจาะกลุ่มเมกะโปรเจกต์ รวมถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มตลาดไมซ์ ที่มีความต้องการเครื่องเสียงที่มีคุณภาพ
เบื้องต้นมองว่ากลุ่มเป้าหมายจะอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นหลัก ทั้งในแง่ของหอประชุมต่างๆ โดยขณะนี้มีการเจรจากับลูกค้าแล้วประมาณ 5 ราย โดยหนึ่งในนั้น คือ วัดธรรมกาย ซึ่งเมื่อรวมทั้ง 5 รายแล้ว คาดว่า น่าจะมีรายได้ต่อรายประมาณ 5-10 ล้านบาท
ส่วนแผนการทำตลาดปีนี้เตรียมงบประมาณไว้ 10 ล้านบาท สำหรับการประชาสัมพันธ์ให้ตลาดได้รับรู้และจะเน้นเรื่องของการแนะนำสินค้า ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายจะเป็นการนำเข้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ทั้งหมด โดยจะมีการเก็บสต๊อกสินค้า เนื่องจากสินค้ามีราคาสูง ตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท ต่อ 1 ลำโพง มั่นใจว่าปีแรกน่าจะมีรายได้ของแบรนด์ “เอ็กซ์ซิส” (AXYS) อยู่ที่ 50 ล้านบาท
นายสมทบ กล่าวว่า เดิมบริษัทฯมีการดำเนินธุรกิจในรูปแบบเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังเกือบทุกแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น โซนี่ พานาโซนิค ชาร์ป หรือ ซัมซุง ซึ่งทั้งหมดจะเน้นทำตลาดโปรเจกต์เป็นหลักทั้งบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ซึ่งในปีที่ผ่านมามีรายได้เติบโตขึ้น 12% คิดเป็นมูลค่าถึง 400 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของบริษัทฯในกลุ่มศิวดลที่มีอยู่กว่า 8 บริษัท โดยปีก่อนรวมแล้วมีรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท
นายสมทบ สีบุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรดักส์ คอนซัลแต้นท์ จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัท ศิวดลกรุ๊ป ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า เจาะกลุ่มตลาดโปรเจกต์เป็นหลัก เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ จากสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มนิ่งขึ้น บวกกับมองเห็นการผลักดันเกี่ยวกับเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ของรัฐบาล ทางบริษัทจึงพร้อมที่จะนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องเสียงแบรนด์ “เอ็กซ์ซิส” (AXYS) ซึ่งได้มีการเตรียมนำเข้ามาตั้งแต่ปีก่อนแล้ว โดยจะมุ่งเจาะกลุ่มเมกะโปรเจกต์ รวมถึงโครงการอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มตลาดไมซ์ ที่มีความต้องการเครื่องเสียงที่มีคุณภาพ
เบื้องต้นมองว่ากลุ่มเป้าหมายจะอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นหลัก ทั้งในแง่ของหอประชุมต่างๆ โดยขณะนี้มีการเจรจากับลูกค้าแล้วประมาณ 5 ราย โดยหนึ่งในนั้น คือ วัดธรรมกาย ซึ่งเมื่อรวมทั้ง 5 รายแล้ว คาดว่า น่าจะมีรายได้ต่อรายประมาณ 5-10 ล้านบาท
ส่วนแผนการทำตลาดปีนี้เตรียมงบประมาณไว้ 10 ล้านบาท สำหรับการประชาสัมพันธ์ให้ตลาดได้รับรู้และจะเน้นเรื่องของการแนะนำสินค้า ซึ่งสินค้าที่จำหน่ายจะเป็นการนำเข้าจากประเทศเนเธอร์แลนด์ทั้งหมด โดยจะมีการเก็บสต๊อกสินค้า เนื่องจากสินค้ามีราคาสูง ตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลักล้านบาท ต่อ 1 ลำโพง มั่นใจว่าปีแรกน่าจะมีรายได้ของแบรนด์ “เอ็กซ์ซิส” (AXYS) อยู่ที่ 50 ล้านบาท
นายสมทบ กล่าวว่า เดิมบริษัทฯมีการดำเนินธุรกิจในรูปแบบเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ดังเกือบทุกแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็น โซนี่ พานาโซนิค ชาร์ป หรือ ซัมซุง ซึ่งทั้งหมดจะเน้นทำตลาดโปรเจกต์เป็นหลักทั้งบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ซึ่งในปีที่ผ่านมามีรายได้เติบโตขึ้น 12% คิดเป็นมูลค่าถึง 400 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรายได้หลักของบริษัทฯในกลุ่มศิวดลที่มีอยู่กว่า 8 บริษัท โดยปีก่อนรวมแล้วมีรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท
