รอยัล พารากอน ฮอลล์ เดินหน้าเฟ้นหาลูกค้าต่างประเทศเจับมือ สสปน. จับกลุ่มตลาดไมซ์เสริมทัพ คาดปี 52-54 จะมีสัดส่วนลูกค้าตปท.มากขึ้นจากเดิม 40%
นายอรุณ เทง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท รอยัล เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ผู้บริหารรอยัล พารากอน ฮอลล์ เปิดเผยว่า หลังจากที่เข้าสู่ธุรกิจให้บริหารพื้นที่รับจัดงานมากว่า 2 ปี พบว่า กลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบที่จะเข้ามาชมงานที่จัดในรอยัล พารากอน ฮอลล์ คือ ระดับกลางถึงบน เนื่องจากมองว่าเป็นสถานที่ที่สะดวกในการเดินทาง และสยามพารากอนเองถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งแบบวันสต็อปชอปปิ้ง ส่วนงานที่มองว่าเหมาะสมกับรอยัล พารากอน ฮอลล์แห่งนี้ มองว่าควรจะเป็นงานที่ไม่เคยจัดขึ้นในประเทศไทย หรือเป็นประเภทนีชมาร์เก็ต เช่น งานเดอะ กริทซ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมีทั้งในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40% ซึ่งสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศกลับสร้างรายได้มากที่สุดกว่า 60-70% จึงทำให้บริษัทฯมีแผนที่จะขยายกลุ่มลูกค้าระดับต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในแถบเอเชีย ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ และในกลุ่มยุโรป ทั้งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือแม้แต่อิตาลี ที่กำลังเจรจากันอยู่
โดยการบุกตลาดต่างประเทศ ทางบริษัทฯร่วมกับทาง สสปน. จัดโรดโชว์จัดบูทประชาสัมพันธ์ในประเทศเหล่านี้ให้รับรู้ว่าประเทศไทยมีสถานที่จัดงานดังกล่าวอยู่ เบื้องต้นมองว่ากลุ่มตลาดไมซ์จะเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ คาดว่าภายในปี 2552-2554 บริษัทฯจะมีรายได้จากลูกค้าต่างประเทศเพิ่มมากจากเดิม 40% ในปีนี้
สำหรับปีนี้บริษัทฯมั่นใจว่าจะมีรายได้เติบโต 30% คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าจองพื้นที่รับจัดงานแล้วไม่ต่ำกว่า 80% ในระยะเวลาตั้งแต่เดือนมี.ค.-ธ.ค.นี้
นายอรุณ เทง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท รอยัล เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด ผู้บริหารรอยัล พารากอน ฮอลล์ เปิดเผยว่า หลังจากที่เข้าสู่ธุรกิจให้บริหารพื้นที่รับจัดงานมากว่า 2 ปี พบว่า กลุ่มเป้าหมายที่ชื่นชอบที่จะเข้ามาชมงานที่จัดในรอยัล พารากอน ฮอลล์ คือ ระดับกลางถึงบน เนื่องจากมองว่าเป็นสถานที่ที่สะดวกในการเดินทาง และสยามพารากอนเองถือเป็นแหล่งช้อปปิ้งแบบวันสต็อปชอปปิ้ง ส่วนงานที่มองว่าเหมาะสมกับรอยัล พารากอน ฮอลล์แห่งนี้ มองว่าควรจะเป็นงานที่ไม่เคยจัดขึ้นในประเทศไทย หรือเป็นประเภทนีชมาร์เก็ต เช่น งานเดอะ กริทซ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการมีทั้งในประเทศ 60% และต่างประเทศ 40% ซึ่งสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศกลับสร้างรายได้มากที่สุดกว่า 60-70% จึงทำให้บริษัทฯมีแผนที่จะขยายกลุ่มลูกค้าระดับต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในแถบเอเชีย ทั้งมาเลเซีย สิงคโปร์ และในกลุ่มยุโรป ทั้งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ หรือแม้แต่อิตาลี ที่กำลังเจรจากันอยู่
โดยการบุกตลาดต่างประเทศ ทางบริษัทฯร่วมกับทาง สสปน. จัดโรดโชว์จัดบูทประชาสัมพันธ์ในประเทศเหล่านี้ให้รับรู้ว่าประเทศไทยมีสถานที่จัดงานดังกล่าวอยู่ เบื้องต้นมองว่ากลุ่มตลาดไมซ์จะเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญ คาดว่าภายในปี 2552-2554 บริษัทฯจะมีรายได้จากลูกค้าต่างประเทศเพิ่มมากจากเดิม 40% ในปีนี้
สำหรับปีนี้บริษัทฯมั่นใจว่าจะมีรายได้เติบโต 30% คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้มีลูกค้าจองพื้นที่รับจัดงานแล้วไม่ต่ำกว่า 80% ในระยะเวลาตั้งแต่เดือนมี.ค.-ธ.ค.นี้
