รับเหมาเมินงานรัฐ เหตุตั้งราคากลางถูกกว่าความเป็นจริง ระบุ 4 เดือนวัสดุก่อสร้างพุ่งเฉลี่ย 20% โดยเฉพาะเหล็กขึ้นกว่า 100% วอนรัฐคิดราคากลางใหม่ตามต้นทุนจริง ด้าน “บิ๊กชิโน-ไทย” เผยซื้อแบบแต่ไม่ร่วมประมูล 5-6 โครงการมูลค่ารวมเกือบ 5,000 ล้านบาท พร้อมปรับพอร์ตงานภาครัฐภายในปี 52 เหลือ 50% เปรยได้รับงานสร้างหลังคาวัดพระธรรมกาย1พันล้าน
จากภาวะราคาวัสดุก่อสร้างในปัจจุบันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับขึ้นเฉลี่ย 20% โดยเฉพาะราคาเหล็กจากได้ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2550 ตันละ 18,000 – 19,000 บาท เป็นตันละ 35,000-38,000 บาท รวมไปถึงราคาทองแดง สายไฟฟ้า จนเป็นเหตุให้ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ได้ประมูลงานไปในช่วงปีที่แล้วไปรับผลกระทบอย่างมากจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นกว่าที่ประมาณการณ์ไว้มาก
ปัญหาดังกล่าว ทำให้สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ได้รวมตัวเพื่อเรียกร้องและยื่นหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อหาทางช่วยเหลือโดยด่วน โดยเฉพาะการปรับสูตรการคิดคำนวณค่าเคใหม่ เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะสูตรที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นสูตรที่คิดขึ้นตั้งแต่ปี 2532 นอกจากนี้ประเด็นสำคัญอีกข้อ คือ การตั้งราคากลางของโครงการภาครัฐ ที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก เมื่อเทียบกับราคาในปัจจุบัน จนไม่สามารถประมูลงานได้
นายวัลลภ รุ่งกิจวรเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงปัญหาดังกล่าวว่า ปัญหาของผู้รับเหมาในปัจจุบันคือต้นทุนก่อสร้างที่เพิ่มสูงมาก บางรายรับงานมาเมื่อปีที่แล้ว แต่มาก่อสร้างในปัจจุบันที่ราคาวัสดุก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้นสูงมาก รวมไปถึงการประมูลงานในราคาที่ต่ำ แต่เมื่อถึงเวลาก่อสร้างจริงไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้ ส่งผลให้ขาดทุนและทิ้งงานในที่สุด
ส่วนประเด็นการตั้งราคากลางของภาครัฐก็เป็นปัญหาสำคัญเช่นกัน เพราะใช้ราคาเก่า ทำให้ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ผู้รับเหมาหลายรายซื้อซองประมูลมาแล้ว เมื่อถอดราคากลับก่อสร้างไม่ได้ก็ไม่รวมประมูล ซึ่งที่ผ่านมามีหลายโครงการไม่มีผู้รับเหมาเข้าประมูล หรือมีน้อยรายมาก
“ล่าสุดโครงการก่อสร้างอาคารของโรงพยาบาลมหิดล ไม่มีผู้รับเหมายื่นซองประมูล ชิโน-ไทยก็เช่นกัน เพราะเมื่อเราซื้อซองมาแล้วไปถอดราคา เป็นราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ใครได้งานนี้ไปมีแต่ขาดทุนทั้งนั้น เพราะเป็นราคาเก่า ซึ่งในส่วนของ ชิโน-ไทยเองซื้อซองแล้วไม่เข้าประมูลตั้งแต่ต้นปีมามีกว่า 5-6โครงการ มูลค่าเกือบ 5,000 ล้านบาท” นายวัลลภกล่าว
นายวัลลภ กล่าวต่อว่า แนวทางการแก้ปัญหาของผู้รับเหมา ส่วนใหญ่จะซื้อซองประมูลแล้วมาดูว่าราคากลางที่ตั้งไว้ เริ่มเมื่อใด หลังจากนั้นผู้รับเหมาจะตรวจสอบราคาวัสดุก่อสร้างในปัจจุบัน หากใกล้เคียงกันหรือมีความเป็นไปได้จึงจะเข้าประมูล ซึ่งรัฐบาลควรแก้ไขด้วยการตั้งราคากลางที่ไม่แตกต่างจากราคาในปัจจุบันมากนักหรือใช้ราคา ณ วันทำสัญญาจึงจะสามารถแก้ปัญหาในภาวะที่ราคาวัสดุผันผวนอย่างมากเช่นนี้ได้
สำหรับการรับงานของ ชิโน-ไทย ในปัจจุบันเน้นที่การรับงานก่อสร้างที่สร้างกำไรมากกว่าแทนงานที่สร้างชื่อเสียง นอกจากนี้ ยังลดสัดส่วนการรับงานภาครัฐลงจาก 70% ในปี 2550 ให้เหลือ 60% ในปีนี้ และเหลือ 50% ในปี 2552 เนื่องจากการรับงานภาครัฐได้กำไรน้อย
“ตอนนี้เรารับงานก่อสร้างโครงหลังคาให้แก่วัดธรรมกาย มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเค้าใจดีมาก ให้เงินมาก่อนบางส่วนเราจึงนำเงินไปซื้อเหล็กตุนไว้ได้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนงได้มาก แต่สำหรับโครงการอื่นก็ไม่ได้ตุนไว้เพราะต้องใช้เงินทุนสูงมาก”
จากภาวะราคาวัสดุก่อสร้างในปัจจุบันที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ซึ่งตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันปรับขึ้นเฉลี่ย 20% โดยเฉพาะราคาเหล็กจากได้ปรับตัวสูงขึ้นจากเดือนสิงหาคม 2550 ตันละ 18,000 – 19,000 บาท เป็นตันละ 35,000-38,000 บาท รวมไปถึงราคาทองแดง สายไฟฟ้า จนเป็นเหตุให้ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ได้ประมูลงานไปในช่วงปีที่แล้วไปรับผลกระทบอย่างมากจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นกว่าที่ประมาณการณ์ไว้มาก
ปัญหาดังกล่าว ทำให้สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยฯ ได้รวมตัวเพื่อเรียกร้องและยื่นหนังสือถึงรัฐบาลเพื่อหาทางช่วยเหลือโดยด่วน โดยเฉพาะการปรับสูตรการคิดคำนวณค่าเคใหม่ เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ในปัจจุบัน เพราะสูตรที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นสูตรที่คิดขึ้นตั้งแต่ปี 2532 นอกจากนี้ประเด็นสำคัญอีกข้อ คือ การตั้งราคากลางของโครงการภาครัฐ ที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก เมื่อเทียบกับราคาในปัจจุบัน จนไม่สามารถประมูลงานได้
นายวัลลภ รุ่งกิจวรเสถียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงปัญหาดังกล่าวว่า ปัญหาของผู้รับเหมาในปัจจุบันคือต้นทุนก่อสร้างที่เพิ่มสูงมาก บางรายรับงานมาเมื่อปีที่แล้ว แต่มาก่อสร้างในปัจจุบันที่ราคาวัสดุก่อสร้างปรับเพิ่มขึ้นสูงมาก รวมไปถึงการประมูลงานในราคาที่ต่ำ แต่เมื่อถึงเวลาก่อสร้างจริงไม่สามารถควบคุมต้นทุนได้ ส่งผลให้ขาดทุนและทิ้งงานในที่สุด
ส่วนประเด็นการตั้งราคากลางของภาครัฐก็เป็นปัญหาสำคัญเช่นกัน เพราะใช้ราคาเก่า ทำให้ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ผู้รับเหมาหลายรายซื้อซองประมูลมาแล้ว เมื่อถอดราคากลับก่อสร้างไม่ได้ก็ไม่รวมประมูล ซึ่งที่ผ่านมามีหลายโครงการไม่มีผู้รับเหมาเข้าประมูล หรือมีน้อยรายมาก
“ล่าสุดโครงการก่อสร้างอาคารของโรงพยาบาลมหิดล ไม่มีผู้รับเหมายื่นซองประมูล ชิโน-ไทยก็เช่นกัน เพราะเมื่อเราซื้อซองมาแล้วไปถอดราคา เป็นราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริงมาก ใครได้งานนี้ไปมีแต่ขาดทุนทั้งนั้น เพราะเป็นราคาเก่า ซึ่งในส่วนของ ชิโน-ไทยเองซื้อซองแล้วไม่เข้าประมูลตั้งแต่ต้นปีมามีกว่า 5-6โครงการ มูลค่าเกือบ 5,000 ล้านบาท” นายวัลลภกล่าว
นายวัลลภ กล่าวต่อว่า แนวทางการแก้ปัญหาของผู้รับเหมา ส่วนใหญ่จะซื้อซองประมูลแล้วมาดูว่าราคากลางที่ตั้งไว้ เริ่มเมื่อใด หลังจากนั้นผู้รับเหมาจะตรวจสอบราคาวัสดุก่อสร้างในปัจจุบัน หากใกล้เคียงกันหรือมีความเป็นไปได้จึงจะเข้าประมูล ซึ่งรัฐบาลควรแก้ไขด้วยการตั้งราคากลางที่ไม่แตกต่างจากราคาในปัจจุบันมากนักหรือใช้ราคา ณ วันทำสัญญาจึงจะสามารถแก้ปัญหาในภาวะที่ราคาวัสดุผันผวนอย่างมากเช่นนี้ได้
สำหรับการรับงานของ ชิโน-ไทย ในปัจจุบันเน้นที่การรับงานก่อสร้างที่สร้างกำไรมากกว่าแทนงานที่สร้างชื่อเสียง นอกจากนี้ ยังลดสัดส่วนการรับงานภาครัฐลงจาก 70% ในปี 2550 ให้เหลือ 60% ในปีนี้ และเหลือ 50% ในปี 2552 เนื่องจากการรับงานภาครัฐได้กำไรน้อย
“ตอนนี้เรารับงานก่อสร้างโครงหลังคาให้แก่วัดธรรมกาย มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเค้าใจดีมาก ให้เงินมาก่อนบางส่วนเราจึงนำเงินไปซื้อเหล็กตุนไว้ได้ ซึ่งช่วยลดต้นทุนงได้มาก แต่สำหรับโครงการอื่นก็ไม่ได้ตุนไว้เพราะต้องใช้เงินทุนสูงมาก”
