“วีระศักดิ์” ต่อยอดเตรียมโปรโมตลอยกระทง เร่งปั๊มวีซีดีแจกนักท่องเที่ยวขากลับที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังปลื้มตัวเลขนักท่องเที่ยวไทย-เทศ แห่เล่นสงกรานต์ล้นหลาม ธุรกิจโรงแรม สายการบิน ร้านอาหาร และบริษัททัวร์ โตพรวด 15% เงินสะพัดทะลุเป้ากว่า 5 พันล้านบาท พร้อมเดินหน้าจัดระเบียดไกด์ บริษัทนำเที่ยวเปิดตัวสำนักงานแห่งใหม่ เล็งขยายสาขาลงภูธรเร็วๆ นี้
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมจัดทำวีซีดีเทศกาลลอยกระทง โดยแปลเป็น 9 ภาษา เช่น อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น รัสเซีย เป็นต้น เพื่อไปแจกจ่ายแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางกลับในวันที่ 20 เมษายน ศกนี้ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ จุดประสงค์เพื่อโปรโมตให้นักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่ได้เข้ามาเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ที่ประเทศไทย ได้กลับมาเที่ยวในเทศกาลลอยกระทงช่วงสิ้นปีอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา นับว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประสบความสำเร็จในการจัดงานสูงมาก โดยสามารถกระตุ้นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ออกมาร่วมเล่นน้ำในช่วงระยะเวลาดังกล่าวได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้
มีรายงานจากธุรกิจสายการบิน ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว แจ้งตรงกันว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเฉลี่ย 10-15% โดยเฉพาะในจังหวัด ที่ ททท.เข้าไปสนับสนุนการจัดงาน รวม 13 พื้นที่ เช่น กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น เชียงใหม่ อุดรธานี อุบลราชธานี หาดใหญ่ และ ภูเก็ต เป็นต้น ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินสะพัดทั่วประเทศราว 5,000 ล้านบาท จากเดิมที่ ททท.ประมาณไว้ว่าจะมีเงินสะพัดที่ 4,100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลจากการโปรโมตเทศกาลสงกรานต์ที่ประเทศไทย การจัดสาธิตเทศกาลสงกรานต์ในต่างแดน ผ่านสถานทูตไทยในต่างประเทศ และสถานกงสุล เช่น ที่ประเทศ จีน เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลี ไต้หวัน อเมริกา แอฟริกาใต้ และ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ตลอดจนการนำเสนอข่าวเทศกาลสงกรานต์ของประเทศในกลุ่มลุ่มน้ำโขง จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของเทศกาลสงกรานต์ในเวทีโลกได้ในอีกไม่ช้า นอกจากนั้น ททท.ยังได้เชิญสื่อทีวี หนังสือพิมพ์ จาก เซี่ยงไฮ้ อเมริกา เวียดนาม และ เกาหลี มาถ่ายทำและร่วมเล่นน้ำเทศกาลสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร ก็จะยิ่งตอกย้ำให้สงกรานต์ เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก
“นอกจากวันมหาสงกรานต์ 13-15 เมษายนแล้ว เรายังโปรโมตด้วยว่า มีการจัดงานสงกรานต์ต่อเนื่องในอีกหลายพื้นที่ เช่น สงกรานต์มอญ พระประแดง และ วันไหล พัทยา เป็นต้น จะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปร่วมเล่นสงกรานต์ในพื้นที่ต่างๆ ได้หลากหลาย บรรยากาศก็จะคึกคักต่อเนื่อง”
เล็งขยายสาขาสำนักงานทะเบียนฯ
นายวีระศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงงานด้านบริการ ว่า ล่าสุด สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) ได้เปิดสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง ภายหลังจากการถ่ายโอนอำนาจหน้าที่มาจาก ททท.และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสำนักงานทะเบียนฯแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ชั้นล่างอาคาร สพท. สถานกีฬาแห่งชาติ โดย 4 วันที่เปิดให้บริการ สามารถออกใบอนุญาตให้แก่มัคคุเทศก์ไปแล้วกว่า 100 คน และออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวให้แก่ผู้ประกอบการไปแล้วกว่า 48 แห่ง ซึ่งสำนักงานแห่งใหม่นี้ ได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ออนไลน์มาใช้ ช่วยลดระยะเวลาดำเนินการ เหลือเพียง 16 นาที สำหรับใบอนุญาตมัคคุเทศก์ และ ภายใน 24 ชั่วโมง สำหรับ ใบอนุญาติประกอบธุรกิจนำเที่ยว
ดังนั้น จึงมีแนวคิดว่า ถ้ากระแสตอบรับดีก็จะขยายสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ในสาขาต่างจังหวัดเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นอาจใช้สำนักงาน ททท.ในประเทศ หรือ สำนักงานท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการจังหวัด เป็นออฟฟิศดำเนินการ แต่ก็ต้องดูความพร้อมด้านบุคคลากรด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสาขาของสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยว มีอยู่แล้ว 4 แห่ง คือ นครราชสีมา เชียงใหม่ ภูเก็ต และ สงขลา
นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้เตรียมจัดทำวีซีดีเทศกาลลอยกระทง โดยแปลเป็น 9 ภาษา เช่น อังกฤษ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น รัสเซีย เป็นต้น เพื่อไปแจกจ่ายแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางกลับในวันที่ 20 เมษายน ศกนี้ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ จุดประสงค์เพื่อโปรโมตให้นักท่องเที่ยวซึ่งส่วนใหญ่ได้เข้ามาเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ที่ประเทศไทย ได้กลับมาเที่ยวในเทศกาลลอยกระทงช่วงสิ้นปีอีกครั้งหนึ่ง
ทั้งนี้ เทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา นับว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ประสบความสำเร็จในการจัดงานสูงมาก โดยสามารถกระตุ้นนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ออกมาร่วมเล่นน้ำในช่วงระยะเวลาดังกล่าวได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้
มีรายงานจากธุรกิจสายการบิน ผู้ประกอบการโรงแรม ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว แจ้งตรงกันว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเฉลี่ย 10-15% โดยเฉพาะในจังหวัด ที่ ททท.เข้าไปสนับสนุนการจัดงาน รวม 13 พื้นที่ เช่น กรุงเทพมหานคร ขอนแก่น เชียงใหม่ อุดรธานี อุบลราชธานี หาดใหญ่ และ ภูเก็ต เป็นต้น ส่งผลให้เกิดเม็ดเงินสะพัดทั่วประเทศราว 5,000 ล้านบาท จากเดิมที่ ททท.ประมาณไว้ว่าจะมีเงินสะพัดที่ 4,100 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ผลจากการโปรโมตเทศกาลสงกรานต์ที่ประเทศไทย การจัดสาธิตเทศกาลสงกรานต์ในต่างแดน ผ่านสถานทูตไทยในต่างประเทศ และสถานกงสุล เช่น ที่ประเทศ จีน เยอรมัน ฝรั่งเศส เกาหลี ไต้หวัน อเมริกา แอฟริกาใต้ และ ฟิลิปปินส์ เป็นต้น ตลอดจนการนำเสนอข่าวเทศกาลสงกรานต์ของประเทศในกลุ่มลุ่มน้ำโขง จะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของเทศกาลสงกรานต์ในเวทีโลกได้ในอีกไม่ช้า นอกจากนั้น ททท.ยังได้เชิญสื่อทีวี หนังสือพิมพ์ จาก เซี่ยงไฮ้ อเมริกา เวียดนาม และ เกาหลี มาถ่ายทำและร่วมเล่นน้ำเทศกาลสงกรานต์ที่ถนนข้าวสาร ก็จะยิ่งตอกย้ำให้สงกรานต์ เป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก
“นอกจากวันมหาสงกรานต์ 13-15 เมษายนแล้ว เรายังโปรโมตด้วยว่า มีการจัดงานสงกรานต์ต่อเนื่องในอีกหลายพื้นที่ เช่น สงกรานต์มอญ พระประแดง และ วันไหล พัทยา เป็นต้น จะทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปร่วมเล่นสงกรานต์ในพื้นที่ต่างๆ ได้หลากหลาย บรรยากาศก็จะคึกคักต่อเนื่อง”
เล็งขยายสาขาสำนักงานทะเบียนฯ
นายวีระศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงงานด้านบริการ ว่า ล่าสุด สำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) ได้เปิดสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กลาง ภายหลังจากการถ่ายโอนอำนาจหน้าที่มาจาก ททท.และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยสำนักงานทะเบียนฯแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ชั้นล่างอาคาร สพท. สถานกีฬาแห่งชาติ โดย 4 วันที่เปิดให้บริการ สามารถออกใบอนุญาตให้แก่มัคคุเทศก์ไปแล้วกว่า 100 คน และออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวให้แก่ผู้ประกอบการไปแล้วกว่า 48 แห่ง ซึ่งสำนักงานแห่งใหม่นี้ ได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ คอมพิวเตอร์ออนไลน์มาใช้ ช่วยลดระยะเวลาดำเนินการ เหลือเพียง 16 นาที สำหรับใบอนุญาตมัคคุเทศก์ และ ภายใน 24 ชั่วโมง สำหรับ ใบอนุญาติประกอบธุรกิจนำเที่ยว
ดังนั้น จึงมีแนวคิดว่า ถ้ากระแสตอบรับดีก็จะขยายสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ในสาขาต่างจังหวัดเพิ่มเติม โดยเบื้องต้นอาจใช้สำนักงาน ททท.ในประเทศ หรือ สำนักงานท่องเที่ยว กีฬาและนันทนาการจังหวัด เป็นออฟฟิศดำเนินการ แต่ก็ต้องดูความพร้อมด้านบุคคลากรด้วย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสาขาของสำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยว มีอยู่แล้ว 4 แห่ง คือ นครราชสีมา เชียงใหม่ ภูเก็ต และ สงขลา