ศูนย์ข่าวศรีราชา –คาดนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ หลบลมร้อนเที่ยวทะเลภาคตะวันออก ร่วมล้านคน และจะใช้จ่ายเงินไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท ชลบุรีจังหวัดเดียวน่าจะถึง 1.5 พันล้าน ชี้จุดขายสำคัญนอกจากการมีหมู่เกาะทางธรรมชาติและทะเลที่สวยงามแล้ว วัฒนธรรมการเล่นน้ำที่สนุกสนานและระยะทางซึ่งไม่ไกลกรุงเทพฯ ยังเป็นจุดดึงดูดสำคัญที่ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นในทุกปี
ร.ต.ชัยวัฒน์ เจริญสุข ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลาง เขต 3(พัทยา) เผยว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้จังหวัดชลบุรี น่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและเล่นน้ำสงกรานต์ ตั้งแต่วันที่ 13-21 เมษายน รวม 9 วัน ซึ่งจะมีการจัดกิจกรรมประเพณีสงกรานต์ในพื้นที่ต่างๆ และเทศกาลวันไหลบางแสนระหว่างวันที่16- 17 เมษายน วันไหลพัทยา 19 เมษายนรวมจำนวนไม่น้อยกว่า 7 แสนคน และคาดจะมีเงินสะพัดจากการเข้าพัก ทั้งในเขตเมืองพัทยาและบางแสน รวมทั้งการใช้จ่ายต่างๆ ประมาณ 1.5 พันล้านบาท โดยรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าวคาดว่าจะสูงกว่าปีก่อนประมาณ 15% ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นและการปรับราคาค่าที่พักของผู้ประกอบการ
สำหรับปัจจัยที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามายังชายหาดบางแสน และพัทยามากขึ้นทุกปี นอกจากจะเป็นระยะการเดินทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯแล้ว วัฒนธรรมการเล่นน้ำที่มีความสนุกสนาน จนสามารถสร้างสีสันทางการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดชลบุรียังถือเป็นไฮไลต์สำคัญ
ส่วนมาตรการด้านความปลอด ภัยจังหวัดชลบุรีโดยนายประชา เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ด้วยการประสานงานระหว่างตำรวจ ทหารและอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ส่วนการ จราจรแม้จะยากต่อการควบคุมไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเนื่องจากจำนวนรถยนต์อาจมีมากกว่าถนน แต่หน่วยงานต่างๆ ก็จะดูแลให้ดีที่สุด
“ในส่วนของการเล่นน้ำสงกรานต์ที่ชายหาดพัทยา ปีนี้เราจะปิดถนนสายชาย หาดที่มีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เล่นน้ำสงกรานต์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์และวันไหลพัทยา และหาที่จอดรถยนต์ให้แก่นักท่องเที่ยว เพื่อลดปริมาณรถยนต์ที่จะเข้าสู่ถนนสายที่จะมีการเล่นน้ำในเมืองพัทยา ส่วนจำนวนห้องพักที่จดทะเบียนถูกต้องและไม่ถูกต้องที่มีประมาณ 8 หมื่นห้องและ 80% อยู่ในพื้นที่เมืองพัทยามีการจองแล้วประมาณ 80-90%” ร.ต.ชัยวัฒน์ กล่าว
ด้านนายชูชาติ อ่อนเจริญ ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลาง เขต 5 (ตราด) เผยว่าเทศกาลสงกรานต์ของจังหวัดตราด ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 12-16 เมษายน คาดจะมีนักท่องเที่ยวซึ่งประมาณ 80% เป็นคนไทยและ 20% เป็นชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังหมู่เกาะต่างๆ และในเขตตัวเมืองไม่น้อยกว่า 7 หมื่นคนและจะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนน่าจะสูงกว่าถึง 100 ล้านบาท และยังมีการคาดการณ์ว่าจำนวนห้องพักบนเกาะช้าง ที่มีประมาณ 5 พันกว่าห้อง เกาะกูด 700 กว่าห้อง และเกาะหมาก 760 ห้อง รวมทั้งจำนวนห้องพักที่อยู่บนฝั่งอีกจำนวนหนึ่งจะถูกจองจนเกือบเต็ม
“ความปลอดภัยทางการท่องเที่ยว ทั้งทางบกและทางน้ำ หน่วยงานต่างๆ ให้ความสนใจเป็นอันดับแรก โดยตั้งแต่วันที่ 12เมษายน จะมีการตั้งจุดตรวจวัดแอลกอฮอล์ ตั้งแต่เส้นทางที่จะเข้าสู่จังหวัดและเมื่อเข้าสู่จังหวัดตราดแล้วก็จะมีการตั้งจุดตรวจอย่างต่อเนื่อง ส่วนการดูแลความปลอดภัยทางน้ำ เราประสานตำรวจน้ำดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และประสานไปยังผู้ประกอบการที่พักบนเกาะไม่ให้มีการบริการเรือกล้วยหรือเจ็ตสกี เพื่อรักษาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ” นายชูชาติ กล่าว
นายทรงพล เศวตรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลาง เขต 4 (ระยอง-จันทบุรี) เผยถึงการท่องเที่ยวของจังหวัดระยองนับตั้ง แต่ต้นปีเรื่อยมาว่ามีทิศทางสดใส เห็นได้จากยอดนักท่องเที่ยวรวมในปี 2550 ที่มีมากถึง 3.9 ล้านคน เติบโตจากปี 2549 ที่มีนักท่องเที่ยวรวม 3.3 ล้านคนถึง 16% ขณะที่เม็ดเงินจากการท่องเที่ยวในปี 2550 มีมากถึง 1.3 หมื่นล้านบาท มากกว่าปีก่อนที่มีประมาณ 9 พันล้านบาทถึง 35%
ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในปี 2551 ตัวเลขนักท่องเที่ยวรวมจะขยายตัวจากปี 2550 ไม่น้อยกว่า 5% โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดมากเช่นกัน
ททท.ระยอง ยังคาดอีกว่าในช่วงปิดภาคเรียนการเข้ามาของนักท่องเที่ยวชาวไทยกลุ่มครอบครัวและต่างชาติที่หนีอากาศหนาวจากยุโรป จะเดินทางเข้ามาพักผ่อนทั้งบริเวณชายหาดและเกาะเสม็ด เพิ่มจากช่วงปกติ5-10% และจะมีเงินสะพัดจากการท่องเที่ยวและการเข้าพัก รวมทั้งการจับจ่ายผลไม้อีกไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวของจังหวัดระยอง ซึ่งกว่า 80% เป็นกลุ่มครอบครัวชาวไทยและเกือบ 20%เป็นต่างชาติ นิยมเดินทางเข้ามาพักผ่อนยังเกาะเสม็ดเพิ่มขึ้นในทุกปี นอกจากจะอยู่ที่ระยะทางซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แล้ว การเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ไม่ไกลจากพัทยา ยังทำให้นักท่องเที่ยวที่นิยมพักผ่อนแบบธรรม ชาติหันเป้าหมายการท่องเที่ยวมายังจังหวัดระยองแทน ขณะที่การเดินทางไปเปิดตลาดท่องเที่ยวในต่างประเทศรวมทั้งการเปิดตลาดใหม่อย่างประเทศแถบแอฟริกา สหรัฐฯ ยุโรป ยังทำให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติของระยองเติบโตขึ้นเรื่อยๆ