xs
xsm
sm
md
lg

แห่ปลูกพืชพลังงาน เมล็ดกาแฟขาดตลาด-เนสกาแฟพลาดส่งออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เนสกาแฟ พลาดโอกาสส่งออกกาแฟแปรรูป หลังเจอปัญหาวัตถุดิบรุมเร้า เมล็ดกาแฟไม่เพียงพอต่อความต้องการ  วอนรัฐลดกำแพงภาษีนำเข้า อัดฉีด 200 ล้านบาท  เปิดตัวเนสกาแฟเรดคัพใหม่  พร้อมส่ง “ซูซี่” พรีเซ็นเตอร์คนใหม่สร้างสีสันตลสด  หวังรับมือตลาดแข่งดุ

นายประสพสุข สุทธาภิรมย์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์กาแฟ บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเนสกาแฟ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯประสบกับปัญหาวัตถุดิบเมล็ดกาแฟที่ปลูกขึ้นในประเทศไทยที่มีประมาณ 4 หมื่นตันต่อปี ไม่เพียงพอกับความต้องการบริโภคภายในประเทศ ทั้งนี้เป็นเพราะพฤติกรรมของคนไทยมีการดื่มกาแฟเพิ่มขึ้น และพื้นที่การปลูกไร่กาแฟลดลงเนื่องจากการแย่งชิงพื้นที่ปลูกพืชพลังงาน ทำให้ขณะนี้บริษัทฯมีต้นทุนในการรับซื้อเมล็ดกาแฟเพิ่มขึ้นเป็น 70 บาทต่อกิโลกรัมจากเดิมประมาณ 50 บาทต่อกิโลกรัม

ภาวะดังกล่าวบริษัทฯต้องการให้ภาครัฐนำเข้าวัตถุดิบเมล็ดกาแฟจากต่างประเทศ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการภายในประเทศ โดยอาจจะมีการนำเข้าเมล็ดกาแฟจากประเทศอินโดนีเซียและเวียดนาม  อีกทั้งยังอยากให้ภาครัฐลดภาษีนำเข้าเมล็ดกาแฟ เนื่องจากปัจจุบันต้องการนำเข้าเมล็ดกาแฟต้องเสียภาษีนำเข้า 90% ซึ่งนับว่าเป็นฐานภาษีที่สูงมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภาครัฐต้องการปกป้องเกษตรกร แต่ปัจจุบันสถานการณ์ของตลาดเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

นายประสพสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า จากปัญหาเรื่องผลผลิต ส่งผลให้เนสท์เล่ (ไทย) ต้องสูญเสียโอกาสในการทำตลาดส่งออกไปส่วนหนึ่ง เช่น ตลาดตุรกี ซึ่งหากภาครัฐอนุญาตให้มีการนำเข้าและลดภาษี บริษัทก็พร้อมที่จะหาตลาดส่งออกใหม่ๆ เพิ่มเติม

“กำลังการผลิตที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ จึงอยากให้รัฐอนุญาติให้นำเข้าเมล็ดกาแฟพร้อมกับลดภาษี เพื่อนำเมล็ดกาแฟมาแปรรูปเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมารัฐอนุญาติให้เราส่งออกกาแฟทรีอินวันไปต่างประเทศได้แล้ว และขนาดนี้อยู่ระหว่างการอนุมัติให้ส่งออกกาแฟผงสำเร็จรูป หากรัฐยอมลดภาษีจริงจะช่วยให้เราสามารถส่งออกได้มากขึ้น”

สำหรับงบการตลาดปีนี้วางไว้ 600-700 ล้านบาท ล่าสุดได้ทุ่มงบ 200 ล้านบาท เปิดตัวกาแฟเรดคัพ ที่ได้รับการพัฒนาทั้งกลิ่นและรสชาติให้มีความใกล้เคียงกับกาแฟคั่วบด ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกๆ ที่มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ พร้อมกับเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชุด “เบ็ทเทอร์ อโรม่า แบทเทอร์ มอร์นิ่ง” โดยนำ ซูซี่ มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ ทั้งนี้เพื่อรับมือกับการแข่งขันในตลาดกาแฟที่ โดยมีคู่แข่งรายใหม่ๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลให้ตลาดกาแฟในปีนี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 20% จากตลาดรวมปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น