ทอยส์อาร์อัส เล็งเปิดอีก 1 สาขาในปีนี้ มั่นใจตลาดยังไร้คู่แข่งโดยตรง ชี้แนวโน้มตลาดของเล่นยังสดใส แนวโน้มพ่อแม่ยอมควักเงินก้อนโตซื้อของเล่นเสริมทักษะมากขึ้น ส่งผลดีต่อตลาดร้านขายของเล่นคึกคัก
นางสาวปวีณา แซ่กุ่ย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท ทอยส์ รีเทลลิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือลีแอนด์ฟุง กรุ๊ป ผู้บริหารร้านทอยส์ อาร์ อัส ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาร้านทอยส์อาร์อัสเพิ่มอีก 1 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเปิดในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ดี ซึ่งในต่างจังหวัดยังมีเพียงสาขาเดียวเท่านั้น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับทำเลที่ได้มาด้วยว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งจากการเปิดดำเนินการในไทยมาตั้งแต่ปี 2548 พบว่า ธุรกิจมีการเติบโตและขยายตัวต่อเนื่อง
ตลาดของเล่นในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แต่ก็มีหลายประเภท ซึ่งถ้าเป็นตลาดของเล่นที่เสริมทักษะ เสริมความรู้ แล้วจะเติบโตได้ดี เพราะผู้ปกครองสมัยนี้ยอมที่จะใช้จ่ายเพื่อซื้อของเล่นที่มีประโยชน์ให้กับลูกมากขึ้น ซึ่งในร้านทอยส์ อาร์ อัส ของเราเองก็มีของเล่นนี้จำนวนมาก
ขณะที่ร้านขายของเล่นที่เป็นสเปเชียลตี้สโตร์ในไทยแบบทอยส์อาร์อัสนั้นยังไม่มีโดยตรง เพราะส่วนใหญ่ก็จะเป็นแผนกของเล่นตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ หรือไม่ก็เป็นร้านค้าขายส่ง นอกนั้นก็เป็นร้านขายของเล่นทั่วไปที่คนละรูปแบบกับทอยส์อาร์อัส ของเราเองก็เจาะกลุ่มระดับบน ซึ่งสินค้าของเล่นของเรามีทั้งนำเข้าและผลิตในไทยสัดส่วนเท่ากัน 50%
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีสาขาเปิดดำเนินการแล้วในไทยรวม 6 สาขา คือ ที่ เซ็นทรัลบางนา, คาร์ฟูร์พระราม 4, เซ็นทรัลเวิลด์, คาร์ฟูร์ลาดพร้าว, เซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยา และแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา โดยมีรูปแบบร้านทั้งหมด 3 โมเดล คือ 1.แฟลกชิบสโตร์ เป็นร้านขนาดใหญ่ พื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร ซึ่งมีเพียงแห่งเดียว คือ ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ สินค้ามากกว่า 10,000 เอสเคยู 2.แซทเทิลไลต์ พื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางเมตร เป็นร้านขนาดกลาง และ 3.เอ็กซ์เพรส เป็นร้านขนาดเล็ก ประมาณ 500-1,000 ตารางเมตร จะมีชนิดและปริมาณสินค้าที่น้อยที่สุด
นางสาวปวีณา กล่าวต่อว่า ด้านแผนการตลาดนั้นปีนี้ก็จะมีการทำต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรม โรดโชว์ โปรโมชั่นต่างๆ โดยเฉพาะทำกับสมาชิก ซึ่งจะมีการทำโปรโมชันใหญ่ๆ ประมาณ 4-5 ครั้งต่อปี รวมทั้งการร่วมมือกับซัปพลายเออร์ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของเล่นใหม่ๆต่อเนื่องที่ร้านของเรา ซึ่งล่าสุด ก็คือ ร่วมมือกับบริษัท คิดโด แปซิฟิค จำกัด เปิดตัวสื่อการเรียนการสอนอิเล็กทรอนิกส์แนวใหม่ V.SMILE PLUS ภายใต้แบรนด์ Vtech
โดยคาดว่า การเปิดตัวของเล่นใหม่ในกลุ่มเอดดูเคชันทอยส์นี้ จะช่วยผลักดันให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งปัจจุบันของเล่นกลุ่มนี้มีสัดส่วนรายได้มากกว่า 15% ของรายได้บริษัท จากจำนวนกลุ่มสินค้าที่มี 7 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ของเล่นเด็กหญิง เด็กชาย 2.ของเล่นกีฬา 3.ของเล่นสื่อการศึกษา 4.กลุ่มแฟมิลี่ฟัน 5.กลุ่มวัยเรียน 6.กลุ่มเครื่องใช้ของเด็ก 7.กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนบัตรสมาชิกหลังเปิดตัวมาครบ 1 ปี มีฐานสมาชิกรวมแล้ว 70,000 ราย ซึ่งสามารถนำไปใช้พร้อมสะสมแต้มที่ร้านทอยส์อาร์อัสใน 6 ประเทศในเอเชีย คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน จีนและไทย โดยทั้ง 6 ประเทศนี้มีสมาชิกรวมมากกว่า 1 ล้านรายแล้ว
นางสาวปวีณา แซ่กุ่ย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท ทอยส์ รีเทลลิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือลีแอนด์ฟุง กรุ๊ป ผู้บริหารร้านทอยส์ อาร์ อัส ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนที่จะเปิดสาขาร้านทอยส์อาร์อัสเพิ่มอีก 1 แห่ง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะเปิดในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด ดี ซึ่งในต่างจังหวัดยังมีเพียงสาขาเดียวเท่านั้น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับทำเลที่ได้มาด้วยว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งจากการเปิดดำเนินการในไทยมาตั้งแต่ปี 2548 พบว่า ธุรกิจมีการเติบโตและขยายตัวต่อเนื่อง
ตลาดของเล่นในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก แต่ก็มีหลายประเภท ซึ่งถ้าเป็นตลาดของเล่นที่เสริมทักษะ เสริมความรู้ แล้วจะเติบโตได้ดี เพราะผู้ปกครองสมัยนี้ยอมที่จะใช้จ่ายเพื่อซื้อของเล่นที่มีประโยชน์ให้กับลูกมากขึ้น ซึ่งในร้านทอยส์ อาร์ อัส ของเราเองก็มีของเล่นนี้จำนวนมาก
ขณะที่ร้านขายของเล่นที่เป็นสเปเชียลตี้สโตร์ในไทยแบบทอยส์อาร์อัสนั้นยังไม่มีโดยตรง เพราะส่วนใหญ่ก็จะเป็นแผนกของเล่นตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ หรือไม่ก็เป็นร้านค้าขายส่ง นอกนั้นก็เป็นร้านขายของเล่นทั่วไปที่คนละรูปแบบกับทอยส์อาร์อัส ของเราเองก็เจาะกลุ่มระดับบน ซึ่งสินค้าของเล่นของเรามีทั้งนำเข้าและผลิตในไทยสัดส่วนเท่ากัน 50%
ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีสาขาเปิดดำเนินการแล้วในไทยรวม 6 สาขา คือ ที่ เซ็นทรัลบางนา, คาร์ฟูร์พระราม 4, เซ็นทรัลเวิลด์, คาร์ฟูร์ลาดพร้าว, เซ็นทรัลเฟสติวัลพัทยา และแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา โดยมีรูปแบบร้านทั้งหมด 3 โมเดล คือ 1.แฟลกชิบสโตร์ เป็นร้านขนาดใหญ่ พื้นที่มากกว่า 2,000 ตารางเมตร ซึ่งมีเพียงแห่งเดียว คือ ที่ เซ็นทรัลเวิลด์ สินค้ามากกว่า 10,000 เอสเคยู 2.แซทเทิลไลต์ พื้นที่ประมาณ 1,000 ตารางเมตร เป็นร้านขนาดกลาง และ 3.เอ็กซ์เพรส เป็นร้านขนาดเล็ก ประมาณ 500-1,000 ตารางเมตร จะมีชนิดและปริมาณสินค้าที่น้อยที่สุด
นางสาวปวีณา กล่าวต่อว่า ด้านแผนการตลาดนั้นปีนี้ก็จะมีการทำต่อเนื่อง ทั้งการจัดกิจกรรม โรดโชว์ โปรโมชั่นต่างๆ โดยเฉพาะทำกับสมาชิก ซึ่งจะมีการทำโปรโมชันใหญ่ๆ ประมาณ 4-5 ครั้งต่อปี รวมทั้งการร่วมมือกับซัปพลายเออร์ในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของเล่นใหม่ๆต่อเนื่องที่ร้านของเรา ซึ่งล่าสุด ก็คือ ร่วมมือกับบริษัท คิดโด แปซิฟิค จำกัด เปิดตัวสื่อการเรียนการสอนอิเล็กทรอนิกส์แนวใหม่ V.SMILE PLUS ภายใต้แบรนด์ Vtech
โดยคาดว่า การเปิดตัวของเล่นใหม่ในกลุ่มเอดดูเคชันทอยส์นี้ จะช่วยผลักดันให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งปัจจุบันของเล่นกลุ่มนี้มีสัดส่วนรายได้มากกว่า 15% ของรายได้บริษัท จากจำนวนกลุ่มสินค้าที่มี 7 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.ของเล่นเด็กหญิง เด็กชาย 2.ของเล่นกีฬา 3.ของเล่นสื่อการศึกษา 4.กลุ่มแฟมิลี่ฟัน 5.กลุ่มวัยเรียน 6.กลุ่มเครื่องใช้ของเด็ก 7.กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
ส่วนบัตรสมาชิกหลังเปิดตัวมาครบ 1 ปี มีฐานสมาชิกรวมแล้ว 70,000 ราย ซึ่งสามารถนำไปใช้พร้อมสะสมแต้มที่ร้านทอยส์อาร์อัสใน 6 ประเทศในเอเชีย คือ ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน จีนและไทย โดยทั้ง 6 ประเทศนี้มีสมาชิกรวมมากกว่า 1 ล้านรายแล้ว