xs
xsm
sm
md
lg

ซีเอ็มขุดบ่อทองอีเวนต์ซัปพลาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซีเอ็ม เดินหน้าทุ่ม 50 ล้านบาท พัฒนาธุรกิจด้านอีเวนต์ซัปพลายเป็นหลัก เสริมทัพการบุกตลาดอาเซียน ลุยเวียดนามเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากกัมพูชา กลางปีนี้โชว์ผลงานแรก เผย กลยุทธ์ทางธุรกิจรูปแบบ 4C สร้างอีเวนต์ของตัวเองอีก 4 งานปีนี้ มั่นใจรายได้พุ่งเป็น 750 ล้านบาท หลังปีก่อนผิดหวังทำได้เพียง 600 ล้านบาท

นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจาก 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้วางโมเดลธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ อีเวนต์ เอเยนซี, อีเวนต์ สเปเชียลลิส และ อีเวนท์ ซัปพลาย ส่งผลให้ง่ายต่อการขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปดำเนินธุรกิจที่ประเทศกัมพูชา กับการจัดการแสดงแสงสีเสียง The legend of Angkor Wat ให้กับนครวัด

ส่วนปีนี้บริษัทได้เข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศเวียดนาม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบริษัทได้ลงทุนกว่า 10 ล้านบาท ในการก่อตั้งออฟฟิศเพื่อรองรับงาน คาดว่า จะเรียบร้อยประมาณปลายปีนี้ ซึ่งการเข้าไปดำเนินธุรกิจครั้งนี้เป็นการร่วมทุนกับบริษัทโลคอล ล่าสุด บริษัทได้รับมอบหมายจาก อีเวนต์ เอเยนซี ในประเทศเวียดนาม ให้จัดงานลักษณะฟันแฟร์ระดับประเทศขึ้น ซึ่งจะมีขึ้นตั้งแต่เดือน มิ.ย.นี้ โดยขณะนี้ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้มากนัก

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทางบริษัทได้วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจภายในประเทศ ในรูปแบบ 4C คือ 1.Consumer กับการเข้าถึงผู้บริโภค 2.Creative การสร้างสรรค์ พัฒนาเทคโนโลยี 3.Communication การสื่อสารถึงผู้บริโภค และ 4.Community การสร้างความสัมพันธ์ให้เกิดขึ้น ซึ่งทั้ง 4C นี้ จะเน้นหนักในกลุ่มธุรกิจประเภท อีเวนต์ซัปพลาย โดยเฉพาะทางด้านการลงทุน ปีนี้ได้วางงบลงทุน 50 ล้านบาท สำหรับอุปกรณ์ในการจัดอีเวนต์ใหม่ๆ เช่น ระบบจอภาพ ที่สามารถฉายภาพให้ลอยอยู่บนอากาศได้ ซึ่งมองว่าเทคโนโลยีกลุ่มนี้เป็นที่ต้องการสำหรับลูกค้าอาเซียนในกลุ่มพิพิธภัณฑ์ค่อนข้างสูง

ส่วนในเรื่องของ Community จะเน้นหนักทางด้านของกลุ่มธุรกิจด้านอีเวนต์ สเปเชียลลิส โดยปีนี้ทางบริษัทเพิ่มจำนวนการจัดอีเว้นต์ของตนเองอีก 4 งาน คือ 1.The Glitz 2.Splashy Songkran Fest@CentralWorld ซึ่งได้เซ็นสัญญากับทางเซ็นทรัลเวิลด์เป็นเวลา 3 ปี 3.งานเทศกาลวัดอรุณ และ 4.ซี สแควร์ ทีน เฟส ทำให้ขณะนี้มีอีเวนต์ที่จัดเอง 7 งาน โดยอีก 3 งาน คือ Hua Hin Jazz Festival, The legend of Angkor Wat และ Hands Bangkok Countdown ซึ่งแต่ละงานจะทำให้มีการสร้างคอมมูนิตี้ทั้งในรูปแบบของซัปพลาย หรือพาร์ทเนอร์ที่จะเข้ามาร่วมจัดงาน และคอมมูนิตี้คอนซูเมอร์ที่จะตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น อันจะส่งผลให้แต่ละงานประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังส่งผลต่อลูกค้าเกิดความไว้วางใจให้ทางบริษัทเป็นผู้จัดงานให้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่า สิ้นปีนี้จะมีผลประกอบการสู่ 750 ล้านบาท ซึ่งเป็นเป้ารายได้เท่าปีที่ผ่านมา โดยมองว่ามีแนวโน้มเป็นไปได้สูง จากเดิมปีก่อนทำได้เพียง 600 กว่าล้านบาท ไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ส่วนภาพรวมของตลาดมูลค่า 12,000 ล้านบาท นั้น คาดว่า ปีนี้จะเติบโตขึ้นอีก 10% จากปีก่อนที่เติบโตลดลง 5% จากการที่รัฐบาลมุ่งสนับสนุนทางด้านการจัดอีเวนต์
กำลังโหลดความคิดเห็น