ในภาวะที่แนวโน้มของธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ทรุดตัว เพราะว่าแผ่นผีซีดีเถื่อนยังหาญกล้าวางขายตีคู่แผ่นลิขสิทธิ์อยู่แบบนี้ ทั้งๆที่ราคาก็ทิ้งห่างกันไม่กี่มากน้อย
แต่เมื่อชั่งใจดูแล้ว ก็คงไม่คุ้มกันเท่าไหร่ เพราะเม็ดเงินที่ได้จากธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ เริ่มไม่เป็นกอบไม่กำเหมือนเดิม ว่าแล้วหัวเรือใหญ่ ผู้กุมบังเหียน บริษัท ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่ชื่อ แคทลีน มาลีนนท์ กิจโอธาน กรรมการบริหาร ซึ่งมองเห็นการณ์ไกล จึงได้วางยุทธศาสตร์ในการดำเนินธุรกิจใหม่ ทันทีที่รู้ตัว
“ที่ผ่านมาเป็นที่ทราบกันว่าแผ่นละเมิดลิขสิทธิ์มีมากแค่ไหน ซึ่งถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้ธุรกิจโฮมเอ็นเตอร์เทนเม้นต์แย่ลง” แคทลีนให้เหตุผลแรก ก่อนที่จะว่าต่อด้วยเหตุผลข้อที่สอง
“อีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือ ลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ที่เราได้มาแต่ละครั้ง ค่อนข้างมีราคาที่สูง เมื่อนำมาคำนวณดูแล้ว รายได้ที่กลับเข้ามาก็ยังสู้กับปัญหาแผ่นผีไม่ได้ และนับวันค่าลิขสิทธิ์ก็สูงขึ้นเรื่อยๆด้วย”
อันที่จริงแล้วการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ของซีวีดีก็เริ่มมีให้เห็นมาแล้วนับตั้งแต่ที่เธอเข้ามาบริหารเมื่อหลายปีที่ผ่านมา แต่ ณ วันนี้ คือ ความชัดเจนที่ปรากฎ
จากผู้ถือลิขสิทธิ์หนังค่ายเมเจอร์ในรูปแบบโฮมเอนเตอร์เทนเม้นต์ ที่เป็นรายใหญ่ในอดีตของซีวีดี ก็สู่การสวมบทบาทใหม่ตามแนวความคิดของแคทลีนที่เธอคิดว่าน่าจะดีและเหมาะสมกว่าการซื้อลิขสิทธิ์เหมือนเมื่อก่อน คือ การตั้ง 2 หน่วยธุรกิจขึ้นมาใหม่คือ ซีวีดี อี โปรดักชันส์และซีวีดี ออร์แกไนเซอร์ ภายใต้การดำเนินธุรกิจของทาง ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เช่นเดิม
ซีวีดี อี โปรดักชันส์ จะเป็นการดำเนินธุรกิจในกลุ่มผลิตรายการป้อนให้กับสื่อโทรทัศน์ ล่าสุดผุดละครซิทคอม เรื่อง มหาชนชาวแฟลต และรายการเกมส์โชว์ 44 21 4 ป้อนช่อง3 ออนแอร์ เดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งไม่ได้มองเพียงช่อง 3 เท่านั้น ยังรวมถึงฟรีทีวีช่องอื่นๆ รวมทั้งเคเบิลทีวีอื่นๆด้วย ขณะที่ซีวีดีออร์แกไนเซอร์นั้นก็จะลุยหนักกับงานอีเว้นต์ต่างๆ ภายใต้เงินทุนกว่า 400 ล้านบาท คาดว่าทั้ง 2 ธุรกิจจะสร้างรายได้ให้บริษัทฯที่ 50%เท่าๆกัน
“เราได้ทำการศึกษารายละเอียดต่างๆ จนได้ข้อสรุปออกมาว่า จะหยุดธุรกิจด้านโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนท์ มาเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนท์กับรูปแบบรายการโทรทัศน์แทน ซึ่งไม่ขัดกับแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ไป เพราะยังคงเป็นธุรกิจเอ้นเตอร์เทนเมนท์” แคทลีนเผยถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ให้ฟัง
แคทลีนเองก็มั่นใจและมีความหวังว่า การก้าวเดินใหม่ในครั้งนี้ จะช่วยสร้างให้ซีวีดีเติบใหญ่ขึ้นมาได้อีกครั้ง เหมือนที่เป็นยักษ์ใหญ่ด้านลิขสิทธิ์โฮมเอนเตอร์เทนเม้นต์หนังค่ายเมเจอร์มาแล้ว