ซีวีดี ปรับโมเดลธุรกิจใหม่ ตัดใจทิ้งธุรกิจโฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ หลังสู้ศึกแผ่นผีและราคาลิขสิทธิ์หนังที่สูงขึ้นไม่ไหว ทุ่ม 400 ล้านบาท เบนเข็มรุกสื่อทีวีและรับจัดงาน จาก 2 ธุรกิจใหม่ คือ ซีวีดี อี โปรดักชันส์ และ ซีวีดี ออร์แกไนเซอร์ รองรับการทำงานในเครือบีอีซีเทโร ล่าสุด ผุดละครซิทคอม เรื่อง มหาชนชาวแฟลต และรายการเกมโชว์ 44 21 4 ป้อนช่อง 3 ออนแอร์ เดือนกุมภาพันธ์นี้
นางแคทลีน มาลีนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้มีการปรับโมเดลธุรกิจใหม่ จากเดิมที่มีอยู่ทั้งหมด 3 หน่วยธุรกิจ คือ ซีวีดี อินเตอร์เนชันแนล เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ที่ได้มา, ซีวีดี มีเดีย ยังพอมีช่องทางสร้างรายได้อยู่บ้างในปัจจุบัน และ ซีวีดี มิวสิค ที่ได้ปิดตัวลงไปนานแล้ว
โดยในปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ตรวจสอบถึงทิศทางของธุรกิจเกี่ยวกับ ซีวีดี อินเตอร์เนชันแนล ที่ถือเป็นกลุ่มรายได้หลักของบริษัทตลอดมา แต่พบว่าช่วงไตรมาส 3 เริ่มมีการขาดทุนเกิดขึ้น เนื่องจากตลาดรวมโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์หดตัว ราคาจำหน่ายลดลง ขณะที่แผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ยังมาแย่งยอดขายเพิ่มสูงขึ้นด้วย ดังนั้น ทางบริษัทจึงได้หยุดธุรกิจซีวีดี อินเตอร์เนชันแนลลง ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป หลังจากที่ลิขสิทธิ์ของภาพยนตร์ค่ายเมเจอร์ต่างประเทศที่มีอยู่หมดลงตั้งแต่เดือน ธ.ค.2550 ที่ผ่านมา โดยบริษัทได้ทำการโอนย้ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์บางส่วนไปยังซีวีดี มีเดีย แต่ทั้งนี้ บริษัทจะไม่สามารถผลิตภาพยนตร์แผ่นเพิ่มได้อีก แต่ยังคงสามารถจำหน่ายได้
ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับโมเดลธุรกิจขึ้นใหม่ เป็น 2 หน่วยธุรกิจ คือ ซีวีดี อี โปรดักชันส์ และ ซีวีดี ออร์แกไนเซอร์ ภายใต้การดำเนินธุรกิจของทาง ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เช่นเดิม ซึ่ง ซีวีดี อี โปรดักชันส์ จะเป็นการดำเนินธุรกิจในกลุ่มผลิตรายการป้อนให้กับสื่อโทรทัศน์ ซึ่งไม่ได้มองเพียงช่อง 3 เท่านั้น ยังรวมถึงฟรีทีวีช่องอื่นๆ รวมทั้งเคเบิลทีวีอื่นๆ ด้วย ภายใต้เงินทุนกว่า 400 ล้านบาท
ล่าสุด ได้เปิดตัว 2 รายการใหม่ที่จะออกอากาศทางช่อง 3 ในเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป คือ ละครซิทคอม เรื่อง “มหาชนชาวแฟลต” ที่ผลิตร่วมกับ บริษัท minds@work จำกัด และรายการเกมโชว์ ชื่อ “44 21 4” ทุกวันเสาร์ 16.30-17.00 น.เริ่ม 2 กุมภาพันธ์นี้
ขณะที่ ซีวีดี ออร์แกไนเซอร์ จะเป็นการรับจ้างผลิต ที่เติมเต็มในส่วนที่บีอีซี ยังขาดอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดคอนเสิร์ตในส่วนของอีเว้นต์บริเวณงาน ซึ่งทางบริษัทตั้งเป้าว่าจะต้องมีการจัดอีเวนต์ใหญ่ในแต่ละไตรมาสประมาณ 1-2 ครั้งเป็นอย่างน้อย ซึ่งในขณะนี้ได้มีการเจรจาพูดคุยกับลูกค้าบ้างแล้ว เช่น ยามาฮ่า และเจ้าของสินค้าคอนซูเมอร์ต่างๆ
นางแคทลีน กล่าวต่อว่า ปีที่ผ่านมาในไตรมาส 1-2 บริษัทยังมีผลประกอบการที่ดีอยู่ แต่ในไตรมาส 3 นั้น บริษัทเริ่มมีตัวเลขที่มีการขาดทุนเกิดขึ้น ขณะที่กลุ่มธุรกิจใหม่ที่จะดำเนินการในปีนี้ คาดว่าจะสร้างรายได้เป็น 50% เท่าๆ กัน ส่วนจะมีมูลค่ามากแค่ไหนในปีแรกนี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งยังต้องรอดูแผนการดำเนินธุรกิจที่จะมีการประชุมร่วมกับผู้ถือหุ้นอีกครั้ง
อนึ่ง บ.ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจไม่ต่ำกว่า 20 ปี ทางด้านรับลิขสิทธิ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ โดยในช่วง 10 ปีก่อน ทาง บีอีซี เวิลด์ ได้เข้าไปถือหุ้นประมาณ 19.7% และมีผู้บริหารอีกหลายคนของ บีอีซี เวิลด์ เข้าไปถือหุ้นอีกด้วย จึงทำให้ภาพรวมของบีอีซี เวิลด์ มีหุ้นใน ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ประมาณ 40%
นางแคทลีน มาลีนนท์ กรรมการบริหาร บริษัท ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้มีการปรับโมเดลธุรกิจใหม่ จากเดิมที่มีอยู่ทั้งหมด 3 หน่วยธุรกิจ คือ ซีวีดี อินเตอร์เนชันแนล เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ที่ได้มา, ซีวีดี มีเดีย ยังพอมีช่องทางสร้างรายได้อยู่บ้างในปัจจุบัน และ ซีวีดี มิวสิค ที่ได้ปิดตัวลงไปนานแล้ว
โดยในปีที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ตรวจสอบถึงทิศทางของธุรกิจเกี่ยวกับ ซีวีดี อินเตอร์เนชันแนล ที่ถือเป็นกลุ่มรายได้หลักของบริษัทตลอดมา แต่พบว่าช่วงไตรมาส 3 เริ่มมีการขาดทุนเกิดขึ้น เนื่องจากตลาดรวมโฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์หดตัว ราคาจำหน่ายลดลง ขณะที่แผ่นละเมิดลิขสิทธิ์ยังมาแย่งยอดขายเพิ่มสูงขึ้นด้วย ดังนั้น ทางบริษัทจึงได้หยุดธุรกิจซีวีดี อินเตอร์เนชันแนลลง ซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป หลังจากที่ลิขสิทธิ์ของภาพยนตร์ค่ายเมเจอร์ต่างประเทศที่มีอยู่หมดลงตั้งแต่เดือน ธ.ค.2550 ที่ผ่านมา โดยบริษัทได้ทำการโอนย้ายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์บางส่วนไปยังซีวีดี มีเดีย แต่ทั้งนี้ บริษัทจะไม่สามารถผลิตภาพยนตร์แผ่นเพิ่มได้อีก แต่ยังคงสามารถจำหน่ายได้
ทั้งนี้ บริษัทได้ปรับโมเดลธุรกิจขึ้นใหม่ เป็น 2 หน่วยธุรกิจ คือ ซีวีดี อี โปรดักชันส์ และ ซีวีดี ออร์แกไนเซอร์ ภายใต้การดำเนินธุรกิจของทาง ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ เช่นเดิม ซึ่ง ซีวีดี อี โปรดักชันส์ จะเป็นการดำเนินธุรกิจในกลุ่มผลิตรายการป้อนให้กับสื่อโทรทัศน์ ซึ่งไม่ได้มองเพียงช่อง 3 เท่านั้น ยังรวมถึงฟรีทีวีช่องอื่นๆ รวมทั้งเคเบิลทีวีอื่นๆ ด้วย ภายใต้เงินทุนกว่า 400 ล้านบาท
ล่าสุด ได้เปิดตัว 2 รายการใหม่ที่จะออกอากาศทางช่อง 3 ในเดือนกุมภาพันธ์นี้เป็นต้นไป คือ ละครซิทคอม เรื่อง “มหาชนชาวแฟลต” ที่ผลิตร่วมกับ บริษัท minds@work จำกัด และรายการเกมโชว์ ชื่อ “44 21 4” ทุกวันเสาร์ 16.30-17.00 น.เริ่ม 2 กุมภาพันธ์นี้
ขณะที่ ซีวีดี ออร์แกไนเซอร์ จะเป็นการรับจ้างผลิต ที่เติมเต็มในส่วนที่บีอีซี ยังขาดอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดคอนเสิร์ตในส่วนของอีเว้นต์บริเวณงาน ซึ่งทางบริษัทตั้งเป้าว่าจะต้องมีการจัดอีเวนต์ใหญ่ในแต่ละไตรมาสประมาณ 1-2 ครั้งเป็นอย่างน้อย ซึ่งในขณะนี้ได้มีการเจรจาพูดคุยกับลูกค้าบ้างแล้ว เช่น ยามาฮ่า และเจ้าของสินค้าคอนซูเมอร์ต่างๆ
นางแคทลีน กล่าวต่อว่า ปีที่ผ่านมาในไตรมาส 1-2 บริษัทยังมีผลประกอบการที่ดีอยู่ แต่ในไตรมาส 3 นั้น บริษัทเริ่มมีตัวเลขที่มีการขาดทุนเกิดขึ้น ขณะที่กลุ่มธุรกิจใหม่ที่จะดำเนินการในปีนี้ คาดว่าจะสร้างรายได้เป็น 50% เท่าๆ กัน ส่วนจะมีมูลค่ามากแค่ไหนในปีแรกนี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ อีกทั้งยังต้องรอดูแผนการดำเนินธุรกิจที่จะมีการประชุมร่วมกับผู้ถือหุ้นอีกครั้ง
อนึ่ง บ.ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจไม่ต่ำกว่า 20 ปี ทางด้านรับลิขสิทธิ์โฮมเอนเตอร์เทนเมนต์ โดยในช่วง 10 ปีก่อน ทาง บีอีซี เวิลด์ ได้เข้าไปถือหุ้นประมาณ 19.7% และมีผู้บริหารอีกหลายคนของ บีอีซี เวิลด์ เข้าไปถือหุ้นอีกด้วย จึงทำให้ภาพรวมของบีอีซี เวิลด์ มีหุ้นใน ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ประมาณ 40%