xs
xsm
sm
md
lg

ครม.หมักใจป้ำ ไฟเขียวค่าแรงขั้นต่ำ 2.9% ลั่นตั้งงบปี 52 เต็มเพดาน 2.5% ของจีดีพี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รองโฆษกฯ “ณัฐวุฒิ” อดีตแกนนำไข่แม้วถล่มบ้านป๋า แถลงผลประชุม ครม.ไฟเขียวปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 2.9-6.9% พร้อมอนุมัติกรอบงบประมาณรายจ่ายปี 52 วงเงิน 1.83 ล้าน ลบ.เป็นงบขาดดุล 2.495 แสน ลบ.หรือ 2.5% เพิ่มขึ้นจากปี 51 ที่ขาดดุล 1.75 แสนลบ.หรือ 10.5% โดยใช้สมมติฐานจีดีพีปี 52 โต 5.5% และเงินเฟ้อ 3.5%

วันนี้ (18 มี.ค.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยระบุว่า ครม.มีมติเห็นชอบแนวทางการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 แก่ภาคเอกชนของคณะกรรมการค่าจ้างเพื่อให้บริษัทเอกชนและสถานประกอบการที่จะมีการปรับค่าจ้างให้พนักงานตามผลการปฏิบัติงานประจำปีในช่วงเดือน ม.ค.และ เม.ย.ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ โดยให้แบ่งกลุ่มพนักงานที่จะได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนประจำปี 2550/2551 ออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย

1.พนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานในรอบปีการทำงาน 2550 ระดับดีเด่นควรได้รับการปรับค่าจ้างประจำปี 2550/2551 ในอัตราเฉลี่ย 6.9%

2.พนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานในรอบปี 2550 ระดับดี ควรได้รับการปรับค่าจ้างปี 2550/2551 ในอัตราเฉลี่ย 4.9% และ

3.พนักงานที่มีผลการปฏิบัติงานในรอบปี 2550 ระดับปกติ ควรได้รับการปรับค่าจ้างปี 2550/2551 ในอัตราเฉลี่ย 2.9%

ทั้งนี้ เพื่อเป็นแนวทางการปรับอัตราค่าจ้างให้พนักงานในบริษัทเอกชน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน และลดช่องว่างขององค์กรระดับล่าง และระดับสูงให้แคบลงจากเดิม และจะช่วยส่งเสริมให้การกระจายรายได้ของประเทศเป็นไปอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมมากขึ้น

**ไฟเขียวงบปี 52 ขาดดุล 2.5 แสนล.เต็มเพดาน 2.5%

นายสุวิทย์ คุณกิตติ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบการปรับปรุงงบประมาณประจำปี 2551 ในการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อทดแทนการตั้งงบกลางปี

นอกจากนี้ ยังเห็นชอบกรอบการจัดทำงบประมาณประจำปี 2552 เป็นงบขาดดุล 2.495 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 2.5% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2251 ที่ขาดดุล 1.8% ของจีดีพี โดยมีประมาณการรายรับอยู่ที่ 1.8395 ล้านล้านบาท และประมาณการรายจ่ายอยู่ที่ 2.089 ล้านล้านบาท

ด้าน นางสาวศุภรัตน์ นาคบุญนำ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลได้คาดการณ์ถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2552 ว่า จะมีการขยายตัวประมาณ 5.5% อัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ประมาณ 3.5% ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศดีขึ้น การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มฟื้นตัวจากปี 2551 จากความเชื่อมั่นในเสถียรภาพและทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล อัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำและการฟื้นตัวของการใช้จ่ายภาคครัวเรือน

จึงคาดว่า ในปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลจะสามารถจัดเก็บรายได้รวมจำนวน 1,899,000 ล้านบาท และเมื่อหากภาษีจะคงเหลือรายได้สุทธิจำนวน 1,585,500 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการรายได้สุทธิในปีงบประมาณ 2551 ซึ่งประมาณไว้ที่ 1,480,000 ล้านบาท หรือมากกว่าที่ประมาณการไว้ 7.1% ขณะที่วงเงินงบประมาณรายจ่ายในปีงบประมาณ 2552 กำหนดวงเงินไว้จำนวน 1,835,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2551 จำนวน 1.75 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.5% ดังนั้นงบประมาณปี 2552 จะขาดดุลงบประมาณจำนวน 249,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ รายจ่ายลงทุนมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2551 เนื่องจากการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่รัฐบาลจะใช้แหล่งเงินทุนที่เป็นนอกงบประมาณ และเป็นการร่วมลงทุนกับภาคเอกชน นอกจากนี้ภาระงบประมาณรายจ่ายประจำตามกฏหมายเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เช่น รายจ่ายชดใช้เงินคงคลัง จำนวน 30,000 ล้านบาทและสำรองงบประมาณในการคืนเงินต้นเงินกู้จำนวนกว่า 10,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ นโยบายกรอบความยั่งยืนทางการคลังจะควบคุมสัดส่วนหนี้สาธารณะคงค้างต่อจีดีพีเบื้องต้นไม่เกิน 50% และสัดส่วนภาระหนี้ต่อวงเงินงบประมาณรายจ่ายไม่เกิน 15%
กำลังโหลดความคิดเห็น