xs
xsm
sm
md
lg

สมาพันธ์ขายตรงโลกมองตลาดจีนโต อัด 332 ล้านเหรียญล้างภาพแชร์ลูกโซ่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมาพันธ์การขายตรงโลก ระบุ จีน-อินเดีย เป็นขุมทองธุรกิจขายตรง มั่นใจ 5-10 ปี มูลค่าธุรกิจแดนมังกรพุ่งกว่า 2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ซิวเจ้าตลาดขายตรงอันดับ 2 แทนแดนปลาดิบ ชู 4 ยุทธศาสตร์ พัฒนาอุตสาหกรรมก้าวกระโดด ระบุ ปัญหาแชร์ลูกโซ่ลามทั่วโลก จีนมีปัญหามากที่สุด ผู้ประกอบการแห่อัดงบ 332 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำซีเอสอาร์ล้างภาพลักษณ์แชร์ลูกโซ่ตลอด 5 ปี

นายทรูแมน ฮันท์ ประธานสมาพันธ์การขายตรงโลก World Federation of Direct Selling Associations (WFDSA) และประธานเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส จำกัด กล่าวในงานสัมมนา “เปิดยุทธศาสตร์ขายตรงโลก ปี 2008” ว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา มีการเติบโต 5-6% ขณะที่ในประเทศไทยเติบโต 7-9% เมื่อเทียบกับธุรกิจค้าปลีกเติบโตถึง 2 เท่าตัว โดยปีที่ผ่านมาโต 7% มีมูลค่าเพิ่มจาก 4 หมื่นล้านบาท เป็น 4.3 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม คาดว่า ประเทศจีน อินเดีย เป็นตลาดที่มีศักยภาพที่จะดำเนินธุรกิจขายตรง ล่าสุดในปีนี้จีนกำลังเข้ามาเป็นสมาชิกสมาพันธ์การขายตรงโลก จากปัจจุบันมีสมาชิก 82 ประเทศ

ทั้งนี้ 5-10 ปีข้างหน้านี้ ธุรกิจขายตรงในจีนจะเป็นอันดับ 2 แทนที่ญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่า 28,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่จีนจะมีมูลค่าเพิ่มจาก 4,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นมากกว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากพบว่าคนในประเทศจีนในจำนวน 10 คน สนใจธุรกิจขายตรง 5 คน เมื่อเทียบกับไทย 2 ใน 10 คนสนใจทำธุรกิจขายตรง ส่วนอันดับ 1 ในปัจจุบันเป็นสหรัฐอเมริกา มีมูลค่า 33,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่วนอันดับ 3 เป็นเยอรมนี ตามด้วยเกาหลี และประเทศที่มีการเติบโตของธุรกิจขายตรงอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ ไต้หวัน ฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย

นายฮันท์ กล่าวถึงยุทธศาสตร์ในอุตสาหกรรมขายตรงนานาชาติจะพัฒนาก้าวกระโดด ประกอบด้วย 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่สมาคมขายแต่ละแห่งทั่วโลก การเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านจรรยาบรรณในการทำธุรกิจ การความเข้าใจผิดกับผู้บริโภคและกลุ่มเป้าหมาย และร่วมมือกันทำธุรกิจเพื่อผลประโยชน์ของผู้บริโภค ภายใต้และข้อบังคับจากทางภาครัฐ นอกจากนี้ ยังต้องปรับปรุงนโยบายการคืนเงินหลังการขาย ความโปร่งใสของรายได้ของตัวแทนจำหน่าย การปฏิบัติตามกฎหมายในการบริโภคสินค้าของตัวแทนจำหน่าย และการควบคุมการส่งเสริมการขายของตัวแทนจำหน่าย

จากปัจจุบันธุรกิจขายตรงทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายทั้งจากผู้บริโภค ตลอดจนหน่วยงานที่ควบคุมดูแลกฎระเบียบ หรือกฎหมายขายตรง ทำให้ธุรกิจขายตรงถูกนำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย หรือผิดศีลธรรม เช่น ปัญหาแชร์ลูกโซ่ซึ่งเกิดขึ้นในประเทศไทยหลากหลายรูปแบบ โดยพบว่าในประเทศจีนมีปัญหาเกี่ยวกับการทำธุรกิจขายตรงแอบแฝงมากที่สุด ดังนั้นตั้งแต่ 2545 -2549 ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงทั่วโลกใช้งบมูลค่า 332 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเป็นเม็ดเงินที่เพิ่มขึ้นถึง 85% ในการสนับสนุนด้านการทำตลาดอย่างรับผิดชอบสังคม ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเพื่อลบภาพลักษณ์ที่ดีในธุรกิจขายตรง

ท่านรัศมี วิศทเวทย์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กล่าวว่า ปัจจุบันกฎหมายที่ใช้ควบคุมธุรกิจขายตรงเป็นกฎหมายเดียวกับทางทวีปตะวันตก ซึ่งใช้คุ้มครองสำหรับกลุ่มผู้ที่มีจริยธรรม แต่สำหรับประเทศไทยจะต้องมีการผลักดันให้มี พ.ร.บ.ธุรกิจขายตรงออกมาควบคุม
กำลังโหลดความคิดเห็น