ช่อง 3 ปฎิเสธยังไม่ได้เจรจากับ อสมท เรื่องการปรับสัญญาสัมปทาน ลั่นพร้อมลุยทีวีดาวเทียม-เคเบิ้ลทีวี มั่นใจเป็นค่ายที่มีคอนเท้นต์ใหญ่ที่สุดในไทย เดินหน้าเพิ่มเวลาข่าว ยอมรับยังขาดประเภทเกมส์โชว์และซิทคอม
นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย บริษัทฯยังไม่ได้มีการเจรจากับทาง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน ) ในเรื่องของการแก้ไขปรับสัญญาสัมปทานแต่อย่างใด คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการเจรจากัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีความพร้อมที่จะทำทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ลทีวี เพราะเป็นธุรกิจที่ต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยสนใจทั้งการเป็นผู้ให้บริการและการเป็นผู้ผลิตคอนเท้นต์ป้อนให้ ทั้งการออกอากาศเองและการขายต่างปะเทศ แต่ทั้งนี้คงต้องรอดูถึงความเหมาะสมของสถานการณ์ของตลาดด้วยว่าเป็นอย่างไร รวมทั้ง ต้องรอความพร้อมและความชัดเจนของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ก่อน
นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายการเงิน กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตคอนเท้นต์รายใหญ่สุดในไทยในเวลานี้ ซึ่งจะเป็นการสร้างความได้เปรียบในการทำธุรกิจเคเบิ้ลและทีวีดาวเทียม
นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า ปีนี้คาดว่าจะมีผลประกอบการที่ดีกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น ความมั่นใจของผู้บริโภคมีมากขึ้น โดยปีที่แล้วรายได้รวมของบริษัทฯเติบโตขึ้น 15% จากปี 2549 ขณะที่กำไรนั้นเติบโต 37% หรือคิดเป็น 2,700 ล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มว่าบริษัทฯจะปรับราคาค่าโฆษณาขึ้นอีกด้วย ที่ผ่านมาได้ปรับโฆษณาละครหลังข่าวไปแล้ว 7%
ล่าสุดได้ทำการปรับผังรายการใหม่โดยเพิ่มรายการข่าวมากขึ้นซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีเวลารายการข่าวรวม 12 ชั่วโมง หรือประมาณ 50% ของผังรายการ ซึ่งล่าสุดจะ เพิ่มข่าวภาคเที่ยงข่าวทันเหตุการณ์ จากเดิม 1 ชั่วโมง เป็น 1 ชั่วโมง 25 นาที และยังมีแผนที่จะปรับเพิ่มเวลารายการข่าวอื่นๆอีกด้วย รวมประมาณ 10-15 นาที ซึ่งจะต้องลดเวลารายการอื่นแทน รวมทั้งแผนการเพิ่มทีมข่าวด้วย แต่รายการที่ยังขาดอยู่คือ รายการประเภทซิทคอมและเกมส์โชว์ ซึ่งเปิดกว้างสำหรับผู้จัดที่จะเสนอรายการเข้ามาให้พิจารณา
นายประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย บริษัทฯยังไม่ได้มีการเจรจากับทาง บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน ) ในเรื่องของการแก้ไขปรับสัญญาสัมปทานแต่อย่างใด คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการเจรจากัน
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯมีความพร้อมที่จะทำทีวีดาวเทียมและเคเบิ้ลทีวี เพราะเป็นธุรกิจที่ต่อเนื่องอยู่แล้ว โดยสนใจทั้งการเป็นผู้ให้บริการและการเป็นผู้ผลิตคอนเท้นต์ป้อนให้ ทั้งการออกอากาศเองและการขายต่างปะเทศ แต่ทั้งนี้คงต้องรอดูถึงความเหมาะสมของสถานการณ์ของตลาดด้วยว่าเป็นอย่างไร รวมทั้ง ต้องรอความพร้อมและความชัดเจนของ พ.ร.บ.การประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ก่อน
นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายการเงิน กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯถือได้ว่าเป็นผู้ผลิตคอนเท้นต์รายใหญ่สุดในไทยในเวลานี้ ซึ่งจะเป็นการสร้างความได้เปรียบในการทำธุรกิจเคเบิ้ลและทีวีดาวเทียม
นายฉัตรชัยกล่าวต่อว่า ปีนี้คาดว่าจะมีผลประกอบการที่ดีกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากเศรษฐกิจในภาพรวมดีขึ้น ความมั่นใจของผู้บริโภคมีมากขึ้น โดยปีที่แล้วรายได้รวมของบริษัทฯเติบโตขึ้น 15% จากปี 2549 ขณะที่กำไรนั้นเติบโต 37% หรือคิดเป็น 2,700 ล้านบาท ซึ่งมีแนวโน้มว่าบริษัทฯจะปรับราคาค่าโฆษณาขึ้นอีกด้วย ที่ผ่านมาได้ปรับโฆษณาละครหลังข่าวไปแล้ว 7%
ล่าสุดได้ทำการปรับผังรายการใหม่โดยเพิ่มรายการข่าวมากขึ้นซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีเวลารายการข่าวรวม 12 ชั่วโมง หรือประมาณ 50% ของผังรายการ ซึ่งล่าสุดจะ เพิ่มข่าวภาคเที่ยงข่าวทันเหตุการณ์ จากเดิม 1 ชั่วโมง เป็น 1 ชั่วโมง 25 นาที และยังมีแผนที่จะปรับเพิ่มเวลารายการข่าวอื่นๆอีกด้วย รวมประมาณ 10-15 นาที ซึ่งจะต้องลดเวลารายการอื่นแทน รวมทั้งแผนการเพิ่มทีมข่าวด้วย แต่รายการที่ยังขาดอยู่คือ รายการประเภทซิทคอมและเกมส์โชว์ ซึ่งเปิดกว้างสำหรับผู้จัดที่จะเสนอรายการเข้ามาให้พิจารณา
