สหพัฒนพิบูล แจงกระทรวงพาณิชย์ ควักข้อมูลบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปทั่วเอเชีย ปรับราคาขึ้น 10-20% หลังกัดฟันแบกรับต้นทุนวัตถุดิบแป้งสาลี-น้ำมันปาล์ม พุ่งไม่ไหว ย้ำไม่เดินเกมสวนกระแสโลกอย่างแน่นอน อัดฉีด 300 ล้านบาท ชงกลยุทธ์สื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต ระเบิดแคมเปญโฆษณารสชาติหมูสับ เจาะกลุ่มวัยรุ่น สิ้นปีตอกย้ำผู้นำครองแชร์เพิ่มจาก 52.5% เป็น 55%
นางเพ็ญนภา ธนาสารศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า เปิดเผยว่า จากราคาต้นทุนวัตถุดิบน้ำมันปาล์ม และแป้งสาลี ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบให้ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่สำเร็จรูปในทุกประเทศในเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 10-20% เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการไทยได้ปรับราคาขึ้นใกล้เคียงกัน คือ 20% หรือเพิ่มขึ้น 1 บาท จาก 5 บาท เป็น 6 บาท
ทั้งนี้ การที่กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายให้สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาลดลงนั้น ในส่วนของมาม่าคงไม่สามารถทำได้ อีกทั้งบริษัทเองก็ไม่มีนโยบายที่จะออกสินค้าราคาถูกเข้ามาทำตลาด โดยการนำวัตถุดิบแป้งสาลีมีหลายเกรด หากนำแป้งสาลีที่มีคุณภาพต่ำ ที่นำไปใช้เลี้ยงหมูนำมาผลิตสินค้าก็จะด้อยคุณภาพ บริษัทจึงไม่ต้องการทำ เพราะต้องการรักษาคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า
สำหรับเป้าหมายของบริษัทในปีนี้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่นิ่ง รายได้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า โต 7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโต 10% หรือมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 52.5% เป็น 55% ส่วน ไวไว 25.8% และ ยำยำ 19.7% อื่นๆ 2% โดยจะเร่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้า เน้นการออกนวัตกรรมใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บะหมี่ถ้วย และบะหมี่แบบชาม ที่มีราคาจำหน่ายสูงกว่าแบบซอง และเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงถึงปีละ 30% แม้ว่าสัดส่วนตลาดจะมีคิดเป็น 10% ส่วนซองสัดส่วน 90%
ล่าสุด ทุ่ม 300 ล้านบาท เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่จะมีการใช้สื่ออินเทอร์แอกทีฟผ่านเว็บไซต์ www.mamalover.com นำร่องต้นปีรุกตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับ เนื่องจากพบว่าเป็นรสชาติยอดนิยม อันดับสอง รสต้มยำ และอันดับสาม ต้มยำน้ำข้น และในปีที่ผ่านมา รสหมูสับมีการเติบโต 10% โดยได้ทุ่มงบ 70-80 ล้านบาท เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่ นำครูเป็ด-มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร และสมาชิกวงออกัส ทั้งนี้ จากการรุกตลาดคาดผลักดันส่วนแบ่งตลาดมาม่ารสหมูสับเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากเดิมที่มีส่วนแบ่ง 15%
สำหรับตลาดรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 10,500 ล้านบาท ในปีนี้ คาดว่า มีการเติบโต 5% เมื่อเทียบช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เติบโต 2-3% แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดเติบโต 8-9% สำหรับผลประกอบการปีที่ผ่านมาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเติบโตในแง่มูลค่า 9% และปริมาณโต 8%
นางเพ็ญนภา ธนาสารศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ผู้จัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า เปิดเผยว่า จากราคาต้นทุนวัตถุดิบน้ำมันปาล์ม และแป้งสาลี ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลกระทบให้ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่สำเร็จรูปในทุกประเทศในเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 10-20% เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการไทยได้ปรับราคาขึ้นใกล้เคียงกัน คือ 20% หรือเพิ่มขึ้น 1 บาท จาก 5 บาท เป็น 6 บาท
ทั้งนี้ การที่กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายให้สินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาลดลงนั้น ในส่วนของมาม่าคงไม่สามารถทำได้ อีกทั้งบริษัทเองก็ไม่มีนโยบายที่จะออกสินค้าราคาถูกเข้ามาทำตลาด โดยการนำวัตถุดิบแป้งสาลีมีหลายเกรด หากนำแป้งสาลีที่มีคุณภาพต่ำ ที่นำไปใช้เลี้ยงหมูนำมาผลิตสินค้าก็จะด้อยคุณภาพ บริษัทจึงไม่ต้องการทำ เพราะต้องการรักษาคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า
สำหรับเป้าหมายของบริษัทในปีนี้ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่นิ่ง รายได้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า โต 7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาโต 10% หรือมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 52.5% เป็น 55% ส่วน ไวไว 25.8% และ ยำยำ 19.7% อื่นๆ 2% โดยจะเร่งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวสินค้า เน้นการออกนวัตกรรมใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์บะหมี่ถ้วย และบะหมี่แบบชาม ที่มีราคาจำหน่ายสูงกว่าแบบซอง และเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงถึงปีละ 30% แม้ว่าสัดส่วนตลาดจะมีคิดเป็น 10% ส่วนซองสัดส่วน 90%
ล่าสุด ทุ่ม 300 ล้านบาท เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ที่จะมีการใช้สื่ออินเทอร์แอกทีฟผ่านเว็บไซต์ www.mamalover.com นำร่องต้นปีรุกตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสหมูสับ เนื่องจากพบว่าเป็นรสชาติยอดนิยม อันดับสอง รสต้มยำ และอันดับสาม ต้มยำน้ำข้น และในปีที่ผ่านมา รสหมูสับมีการเติบโต 10% โดยได้ทุ่มงบ 70-80 ล้านบาท เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาใหม่ นำครูเป็ด-มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร และสมาชิกวงออกัส ทั้งนี้ จากการรุกตลาดคาดผลักดันส่วนแบ่งตลาดมาม่ารสหมูสับเพิ่มขึ้นเป็น 20% จากเดิมที่มีส่วนแบ่ง 15%
สำหรับตลาดรวมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 10,500 ล้านบาท ในปีนี้ คาดว่า มีการเติบโต 5% เมื่อเทียบช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เติบโต 2-3% แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ตลาดเติบโต 8-9% สำหรับผลประกอบการปีที่ผ่านมาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเติบโตในแง่มูลค่า 9% และปริมาณโต 8%
