ภาคเอกชนสินค้าอุปโภคบริโภค ระบุหากการเมืองคลี่คลาย ไตรมาส 4 กำลังซื้อ-ความมั่นใจ ผู้บริโภคฟื้น "ไลอ้อน" ชี้ ปีนี้กำลังซื้อรากหญ้าดี แต่ชะลอการใช้เงิน พร้อมจ่อคิวปรับแผนการตลาด รับมือสถานการณ์ยืดเยื้อ ด้าน"โอสถสภา" มั่นใจกำลังซื้อไตรมาส 4 ฟื้นไม่ทัน
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4 ความมั่นใจของผู้บริโภค รวมทั้งกำลังการซื้อของผู้บริโภคจะฟื้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองว่ายุติโดยเร็วหรือว่าช้า ซึ่งหากสถานการณ์การเมืองยืดเยื้อ จะกระทบด้านจิตวิทยาของผู้บริโภค ทำให้มีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แต่กรณีที่สถานการณ์ทางการเมืองยุติโดยเร็ว มั่นใจว่ากำลังการซื้อของผู้บริโภคจะกลับมาคึกคักทันในช่วงไฮซีซันอย่างแน่นอน ทั้งนี้เป็นเพราะนิสัยคนไทยส่วนใหญ่ลืมง่าย
"หากพิจารณาในแง่กำลังการซื้อของผู้บริโภค ผมมองว่าปีนี้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ดีกว่าปีที่ผ่านมาอีก โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคระดับรากหญ้า หรือกลุ่มเกษตรกร เพราะราคาพืชผล พืชไร่ อาทิ ข้าว ยางพารา มีราคาที่ดี ทำให้กลุ่มดังกล่าวมีรายได้เพิ่มมากขึ้น"
ส่วนการทำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงไตรมาส 4 ต้องปรับแผนการตลาดหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง เพราะขณะนี้ปัญหาต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันเริ่มคลี่คลายไปแล้วระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามในช่วงโค้งสุดท้ายในแง่ของการทำโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คาดว่าปีนี้คงไม่ได้มีการทำเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
สำหรับผลประกอบการของบริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10% หรือมีรายได้กว่า 8,000 ล้านบาท โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทมีอัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย
นายเพชร พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า เปิดเผยว่า ขณะนี้คงต้องรอความชัดเจนทางการเมือง ซึ่งหากสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อ คาดว่ากำลังการซื้อของผู้บริโภคจะกลับมามีความคึกคัก แต่ถ้าไม่จบและยืดเยื้อ การทำตลาดในช่วงปลายปีนี้จะต้องมีการปรับแผน เช่น การทำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในช่วงเทศกาลกินเจที่จังหวัดภูเก็ต อาจจะต้องพับแผนไป อย่างไรก็ตามสำหรับผลประกอบการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัท มีอัตราการเติบโตที่ดีมาก เพราะกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจึงเป็นสินค้าทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค
**'โอสถสภา'ชี้กำลังซื้อฟื้นต้องใช้เวลา**
นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงไตรมาส 4 ไม่ค่อยมีอัตราการเติบโตมากนัก แม้ว่าในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี หรือระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม จะเป็นฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งอยู่ระหว่างการเฉลิมฉลองส่งท้ายปลายปีและต้อนรับปีใหม่ก็ตาม โดยมั่นใจว่าแม้ว่าการสถานการณ์ทางการเมืองจะจบเร็วหรือช้า ความมั่นใจของผู้บริโภคก็ยังไม่กลับคืนมา เนื่องจากคงรอความชัดเจนทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา
สำหรับการตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค คงมีบ้างที่ผู้ประกอบการจัดทำโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้าย แต่สำหรับบริษัทจะทำโปรโมชันในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า เพราะเป็นช่วงฤดูกาลขายสินค้าเพอร์ซันนัลแคร์ของบริษัท ส่วนผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 8-10% หรือมีรายได้ 6,000 ล้านบาท
นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน ประเทศไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 4 ความมั่นใจของผู้บริโภค รวมทั้งกำลังการซื้อของผู้บริโภคจะฟื้นหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองว่ายุติโดยเร็วหรือว่าช้า ซึ่งหากสถานการณ์การเมืองยืดเยื้อ จะกระทบด้านจิตวิทยาของผู้บริโภค ทำให้มีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แต่กรณีที่สถานการณ์ทางการเมืองยุติโดยเร็ว มั่นใจว่ากำลังการซื้อของผู้บริโภคจะกลับมาคึกคักทันในช่วงไฮซีซันอย่างแน่นอน ทั้งนี้เป็นเพราะนิสัยคนไทยส่วนใหญ่ลืมง่าย
"หากพิจารณาในแง่กำลังการซื้อของผู้บริโภค ผมมองว่าปีนี้ผู้บริโภคมีกำลังซื้อที่ดีกว่าปีที่ผ่านมาอีก โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคระดับรากหญ้า หรือกลุ่มเกษตรกร เพราะราคาพืชผล พืชไร่ อาทิ ข้าว ยางพารา มีราคาที่ดี ทำให้กลุ่มดังกล่าวมีรายได้เพิ่มมากขึ้น"
ส่วนการทำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงไตรมาส 4 ต้องปรับแผนการตลาดหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมือง เพราะขณะนี้ปัญหาต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นจากราคาน้ำมันเริ่มคลี่คลายไปแล้วระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตามในช่วงโค้งสุดท้ายในแง่ของการทำโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ คาดว่าปีนี้คงไม่ได้มีการทำเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
สำหรับผลประกอบการของบริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10% หรือมีรายได้กว่า 8,000 ล้านบาท โดยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทมีอัตราการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมาย
นายเพชร พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า เปิดเผยว่า ขณะนี้คงต้องรอความชัดเจนทางการเมือง ซึ่งหากสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อ คาดว่ากำลังการซื้อของผู้บริโภคจะกลับมามีความคึกคัก แต่ถ้าไม่จบและยืดเยื้อ การทำตลาดในช่วงปลายปีนี้จะต้องมีการปรับแผน เช่น การทำตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในช่วงเทศกาลกินเจที่จังหวัดภูเก็ต อาจจะต้องพับแผนไป อย่างไรก็ตามสำหรับผลประกอบการบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของบริษัท มีอัตราการเติบโตที่ดีมาก เพราะกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ลดลง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจึงเป็นสินค้าทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภค
**'โอสถสภา'ชี้กำลังซื้อฟื้นต้องใช้เวลา**
นายวิเชียร สันติมหกุลเลิศ ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โอสถสภา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภค เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงไตรมาส 4 ไม่ค่อยมีอัตราการเติบโตมากนัก แม้ว่าในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี หรือระหว่างเดือนตุลาคม-ธันวาคม จะเป็นฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค โดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งอยู่ระหว่างการเฉลิมฉลองส่งท้ายปลายปีและต้อนรับปีใหม่ก็ตาม โดยมั่นใจว่าแม้ว่าการสถานการณ์ทางการเมืองจะจบเร็วหรือช้า ความมั่นใจของผู้บริโภคก็ยังไม่กลับคืนมา เนื่องจากคงรอความชัดเจนทางการเมือง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา
สำหรับการตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค คงมีบ้างที่ผู้ประกอบการจัดทำโปรโมชัน ลด แลก แจก แถม เพื่อกระตุ้นยอดขายในช่วงโค้งสุดท้าย แต่สำหรับบริษัทจะทำโปรโมชันในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า เพราะเป็นช่วงฤดูกาลขายสินค้าเพอร์ซันนัลแคร์ของบริษัท ส่วนผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 8-10% หรือมีรายได้ 6,000 ล้านบาท