รองอธิบดีกรมสวัสดิการฯระบุปิดโรงงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพาราย่านบางปะกงลอยแพ 270 คนงาน เนื่องจากค่าเงินบาทแข็ง ส่งผลกระทบบริษัทขาดทุน ที่ทำการผลิตส่งออกไปสหรัฐอเมริกา
นายอาทิตย์ อิสโม รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่าได้รับแจ้งจากนางกัลยาลักษณ์ โอภาสานนท์ สวัสดิการและ คุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา บริษัท บางปะกงวู้ด จำกัด ซึ่งประกอบกิจการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ตั้งอยู่เลขที่ 9/1 ต.ขวาง อ.บานโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีลูกจ้าง จำนวน 270 คนได้ทำการผละงาน
ทั้งนี้ สาเหตุเกิดความไม่มั่นใจว่านายจ้างจะดำเนินกิจการต่อไปหรือไม่ โดยได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงจากนายจ้าง พบว่าประสบภาวะขาดทุน จนไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
เนื่องจากปัญหาภาวะ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา(ซับไพรม์) เพราะบริษัทได้ทำการผลิตส่งออกไปตลาดสหรัฐฯมากถึง 80% บวกกับปัญหาเงินบาทแข็งค่า โดยยินดีที่จะจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกจ้างคนละ 1 เดือน และหางานใหม่ให้ทำ ซึ่งในขณะนี้มีลูกจ้างรับข้อเสนอของนายจ้างไปแล้วจำนวน 150 คน ส่วนที่เหลือนั้นอยู่ระหว่างการเจรจาซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ก็จะน่าคลี่คลายได้
นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า กสร.ยังได้กำชับให้ เจ้าหน้าที่จับตาดูและเข้าช่วยเจรจาอย่างไกล้ชิด และประสานกับหน่วยงานของกระทรวงแรงงานทั้ง 4 หน่วยงาน คือ จัดหางาน ประกันสังคม พัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อให้ช่วยเหลือแล้ว ส่วนสถานการณ์การเลิกจ้างขณะนี้ยังถือว่าทรงตัวแต่อนาคตอาจจะมีการเลิกจ้างเพิ่มขึ้น ขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจของไทยว่าเงินบาทจะแข็งค่าอย่างต่อเนื่องหรือไม่ รวมไปถึงปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตซับไพรม์ ของสหรัฐอเมริกา ดังนั้นนายจ้าง สถานประกอบการเองก็เฝ้าติดตามและปรับตัวอย่างไกล้ชิด
นายอาทิตย์ อิสโม รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่าได้รับแจ้งจากนางกัลยาลักษณ์ โอภาสานนท์ สวัสดิการและ คุ้มครองแรงงานจังหวัดฉะเชิงเทรา บริษัท บางปะกงวู้ด จำกัด ซึ่งประกอบกิจการผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา ตั้งอยู่เลขที่ 9/1 ต.ขวาง อ.บานโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มีลูกจ้าง จำนวน 270 คนได้ทำการผละงาน
ทั้งนี้ สาเหตุเกิดความไม่มั่นใจว่านายจ้างจะดำเนินกิจการต่อไปหรือไม่ โดยได้สั่งให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงจากนายจ้าง พบว่าประสบภาวะขาดทุน จนไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
เนื่องจากปัญหาภาวะ เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา(ซับไพรม์) เพราะบริษัทได้ทำการผลิตส่งออกไปตลาดสหรัฐฯมากถึง 80% บวกกับปัญหาเงินบาทแข็งค่า โดยยินดีที่จะจ่ายค่าชดเชยให้กับลูกจ้างคนละ 1 เดือน และหางานใหม่ให้ทำ ซึ่งในขณะนี้มีลูกจ้างรับข้อเสนอของนายจ้างไปแล้วจำนวน 150 คน ส่วนที่เหลือนั้นอยู่ระหว่างการเจรจาซึ่งคาดว่าภายใน 1-2 วันนี้ก็จะน่าคลี่คลายได้
นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า กสร.ยังได้กำชับให้ เจ้าหน้าที่จับตาดูและเข้าช่วยเจรจาอย่างไกล้ชิด และประสานกับหน่วยงานของกระทรวงแรงงานทั้ง 4 หน่วยงาน คือ จัดหางาน ประกันสังคม พัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อให้ช่วยเหลือแล้ว ส่วนสถานการณ์การเลิกจ้างขณะนี้ยังถือว่าทรงตัวแต่อนาคตอาจจะมีการเลิกจ้างเพิ่มขึ้น ขึ้นอยู่กับสภาวะเศรษฐกิจของไทยว่าเงินบาทจะแข็งค่าอย่างต่อเนื่องหรือไม่ รวมไปถึงปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตซับไพรม์ ของสหรัฐอเมริกา ดังนั้นนายจ้าง สถานประกอบการเองก็เฝ้าติดตามและปรับตัวอย่างไกล้ชิด
