ฮาบิแทต เชื่อตลาดอสังหาฯปี51แนวโน้มขาขึ้น พร้อมเร่งขยายสาขาเพิ่มช่องทางตลาด ขยายทีมการขายตรง เจาะกลุ่มโครงการจัดสรรทั้งแนวราบและอาคารสูง หวังดันสัดส่วนยอดขายเฟอร์เพิ่มเป็น60% แจงค่าบาทแข็งส่งผลบวกต่อบริษัท ได้กำไรจากอัตราการแลกเปลี่ยน เล็งลดราคาขายลงอีก14% เอาใจลูกค้าหวังดันตัวเลขยอดขายรวมโต2หลัก
นาย เบรนท์ ดี สมิธ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ฮาร์เวสท์ เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านจากประเทศอังกฤษ ภายใต้แบรนด์ "ฮาบิแทต" เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี2551 ว่า ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นจากปี 2550 เป็นตัวเลข2 หลักจากเดิมที่ในช่วงไตรมาส4ปี50 บริษัทมียอดขายเติบโตถึง 6% โดยรายได้หลักของปีนี้จะมาจาก2ส่วนคือ กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ และสิ้นค้าเด็ก 60% และกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้าน 40%
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มรายได้ในกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ บริษัทได้ขยายทีมขายโครงการ เพื่อเน้นขยายตลาดโครงการมากขึ้น เนื่องจากโครงการจัดสรรจะเป็นตลาดสำคัญในอนาคต โดยจะเข้าไปจับมือกับผู้ประกอบการอสังหาฯ ทั้งในส่วนของตลาดแนวราบและแนวสูงโดยเฉพาะตลาดแนวสูง โดยในปีนี้ จะมีโครงการทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จจำนวนมาก ทำให้แนวโน้มอัตราการเติบโตของเฟอร์นิเจอร์ปรับตัวสูงขึ้นตามธุรกิจอสังหาฯ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กว้างขึ้น คาดภายในเดือนเม.ย.นี้จะเปิดตัวได้ ซึ่งจะเน้นสินค้าเฟอร์นิเจอร์เป็นหลัก โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
“ในปีนี้บริษัทยังมีการจัดโปรโมชันในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ซึ่งสามารถกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดีเหมือนในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จากการแข็งค่าของค่าเงินบาท ทำให้บริษัทมีส่วนต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนและมีกำไรมากขึ้น ดังนั้น ทางบริษัทจึงมีแผนที่จะปรับลดราคาขายลงมาอีก14% เพื่อให้เหมาะกับกำลังซื้อของลูกค้าในประเทศไทย และคาดว่าการปรับลดราคาดังกล่าวจะทำให้บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นตามเป้าที่วางไว้ด้วย”
นาย เบรนท์ ดี สมิธ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ฮาร์เวสท์ เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์ตกแต่งบ้านจากประเทศอังกฤษ ภายใต้แบรนด์ "ฮาบิแทต" เปิดเผยถึงแผนธุรกิจในปี2551 ว่า ปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมีอัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นจากปี 2550 เป็นตัวเลข2 หลักจากเดิมที่ในช่วงไตรมาส4ปี50 บริษัทมียอดขายเติบโตถึง 6% โดยรายได้หลักของปีนี้จะมาจาก2ส่วนคือ กลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ และสิ้นค้าเด็ก 60% และกลุ่มสินค้าตกแต่งบ้าน 40%
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มรายได้ในกลุ่มสินค้าเฟอร์นิเจอร์ บริษัทได้ขยายทีมขายโครงการ เพื่อเน้นขยายตลาดโครงการมากขึ้น เนื่องจากโครงการจัดสรรจะเป็นตลาดสำคัญในอนาคต โดยจะเข้าไปจับมือกับผู้ประกอบการอสังหาฯ ทั้งในส่วนของตลาดแนวราบและแนวสูงโดยเฉพาะตลาดแนวสูง โดยในปีนี้ จะมีโครงการทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จจำนวนมาก ทำให้แนวโน้มอัตราการเติบโตของเฟอร์นิเจอร์ปรับตัวสูงขึ้นตามธุรกิจอสังหาฯ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ในห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้กว้างขึ้น คาดภายในเดือนเม.ย.นี้จะเปิดตัวได้ ซึ่งจะเน้นสินค้าเฟอร์นิเจอร์เป็นหลัก โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าโครงการคอนโดมิเนียมที่อยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
“ในปีนี้บริษัทยังมีการจัดโปรโมชันในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ซึ่งสามารถกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดีเหมือนในปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม จากการแข็งค่าของค่าเงินบาท ทำให้บริษัทมีส่วนต่างจากอัตราแลกเปลี่ยนและมีกำไรมากขึ้น ดังนั้น ทางบริษัทจึงมีแผนที่จะปรับลดราคาขายลงมาอีก14% เพื่อให้เหมาะกับกำลังซื้อของลูกค้าในประเทศไทย และคาดว่าการปรับลดราคาดังกล่าวจะทำให้บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นตามเป้าที่วางไว้ด้วย”