พีแอนด์จี งัดกลยุทธ์ไซส์ซิ่งทะลวงสาวไทย ปั้นโอเลย์ โททัล เอฟเฟ็คส์ ขนาดเล็ก รับกำลังซื้อหด พร้อมขยายฐานลูกค้าใหม่ ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญ “เลิฟ ยู สกิน, เซย์ โอเลย์” ต้อนรับเทศกาลแห่งความรัก ส่ง 2 สูตรใหม่เสริมทัพ อัดคอนซูเมอร์ อีเวนต์หนัก สิ้นปียอดขายโต 8-10% ตอกย้ำความผู้นำตลาดครองแชร์ 30%
นายเมธี จารุมณีโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดและองค์กร บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทวางแผนปรับลดขนาดสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าในกลุ่มของโอเลย์ โททัล เอฟเฟ็คส์ ให้มีขนาดเล็กลง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ให้หันมาใช้สินค้าของโอเลย์
“หลังจากที่บริษัทได้ทดลองปรับขนาดสินค้าให้เล็กลงในช่วงปีที่ผ่านมา ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแพนทีน และรีจอยส์ ปรากฎว่าได่รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากกลุ่มสินค้าขนาดดังกล่าวสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น”
ล่าสุดบริษัทเปิดตัวแคมเปญ เลิฟ ยู สกิน, เซย์ โอเลย์ เพื่อทำกิจกรรมทางการตลาดร่วมกันของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 2 กลุ่ม คือ โอเลย์ โททัล เอฟเอเฟ็คส์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ช่วยลดริ้วรอย และโอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวขาว ในขณะเดียวกันบริษัทยังได้ทำการเปิดตัวสินค้าใหม่คือ โอเลย์ เอฟเฟ็คส์ แอนตี้ เอจจิ้ง เฟเชี่ยล สเตรช มาส์ก หรือมาส์กช่วยลดเลื่อนริ้วรอย และ โอเลย์ ไวท์ เรเดี้ยน อาย ไบร์ทเทนนิ่ง ซีรั่ม หรือผลิตภัณฑ์ช่วยลด 5 ปัญหาผิวหมองคล้ำ เข้าทำตลาด เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่ม
อีกทั้งยังมีแผนทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบกิจกรรมเพื่อผู้บริโภค เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ร่วมสัมผัสประสยการณ์ประทับใจของผิวดูอ่อนวัย ซึ่งภายหลังจากที่บริษัทได้เดินหน้าทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปีผลักดันยอดขายโอเลย์มีอัตราการเติบโต 8-10% ใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตของภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เติบโตอยู่ที่ประมาณ 11% หรือมีมูลค่า 7,000 ล้านบาท
ปัจจุบันโอเลย์ มีส่วนแบ่งในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า 30.7% ลดลงจากปี 2549 ซึ่งมีส่วนแบ่ง 30.9% เนื่องจากภาพรวมของตลาดเติบโตชะลอตัวลง โดยในส่วนของคู่แข่งอย่างพอนดส์มีส่วนแบ่งลดลงจาก 25.6% เหลือ 22.2% สำหรับในส่วนของโอเลย์ แบ่งเป็น โอเลย์ โททัล เอฟเฟ็คส์ 13.9% โอเลย์ รีเจนเนอริส 1.5% โอเลย์ โททัล ไวท์ 6.1% และโอเลย์ ไวท์ เรเดียน 6.9%
นายเมธี จารุมณีโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารการตลาดและองค์กร บริษัท พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทวางแผนปรับลดขนาดสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าในกลุ่มของโอเลย์ โททัล เอฟเฟ็คส์ ให้มีขนาดเล็กลง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่าและขยายฐานลูกค้าใหม่ที่ยังไม่เคยใช้ให้หันมาใช้สินค้าของโอเลย์
“หลังจากที่บริษัทได้ทดลองปรับขนาดสินค้าให้เล็กลงในช่วงปีที่ผ่านมา ในกลุ่มของผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมแพนทีน และรีจอยส์ ปรากฎว่าได่รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากกลุ่มสินค้าขนาดดังกล่าวสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น”
ล่าสุดบริษัทเปิดตัวแคมเปญ เลิฟ ยู สกิน, เซย์ โอเลย์ เพื่อทำกิจกรรมทางการตลาดร่วมกันของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว 2 กลุ่ม คือ โอเลย์ โททัล เอฟเอเฟ็คส์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ช่วยลดริ้วรอย และโอเลย์ ไวท์ เรเดียนซ์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวขาว ในขณะเดียวกันบริษัทยังได้ทำการเปิดตัวสินค้าใหม่คือ โอเลย์ เอฟเฟ็คส์ แอนตี้ เอจจิ้ง เฟเชี่ยล สเตรช มาส์ก หรือมาส์กช่วยลดเลื่อนริ้วรอย และ โอเลย์ ไวท์ เรเดี้ยน อาย ไบร์ทเทนนิ่ง ซีรั่ม หรือผลิตภัณฑ์ช่วยลด 5 ปัญหาผิวหมองคล้ำ เข้าทำตลาด เพื่อขยายฐานลูกค้าเพิ่ม
อีกทั้งยังมีแผนทำกิจกรรมส่งเสริมการขายในรูปแบบกิจกรรมเพื่อผู้บริโภค เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ร่วมสัมผัสประสยการณ์ประทับใจของผิวดูอ่อนวัย ซึ่งภายหลังจากที่บริษัทได้เดินหน้าทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง คาดว่าสิ้นปีผลักดันยอดขายโอเลย์มีอัตราการเติบโต 8-10% ใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตของภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่เติบโตอยู่ที่ประมาณ 11% หรือมีมูลค่า 7,000 ล้านบาท
ปัจจุบันโอเลย์ มีส่วนแบ่งในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า 30.7% ลดลงจากปี 2549 ซึ่งมีส่วนแบ่ง 30.9% เนื่องจากภาพรวมของตลาดเติบโตชะลอตัวลง โดยในส่วนของคู่แข่งอย่างพอนดส์มีส่วนแบ่งลดลงจาก 25.6% เหลือ 22.2% สำหรับในส่วนของโอเลย์ แบ่งเป็น โอเลย์ โททัล เอฟเฟ็คส์ 13.9% โอเลย์ รีเจนเนอริส 1.5% โอเลย์ โททัล ไวท์ 6.1% และโอเลย์ ไวท์ เรเดียน 6.9%