xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ค้าชี้ 5 ปัจจัยหนุนราคาทองพุ่ง คาดหลังตรุษจีนทะลุบาทละ 15,000 บ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผู้ค้าทองคำ ระบุ 5 ปัจจัยหลัก หนุนราคาทองคำปีนี้ พุ่งถึง 1,090 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ หลังดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง นายกสมาคม ชี้ บาทแข็ง-กำลังซื้อหด ส่งผลให้ราคาทองช่วงตรุษจีนปรับลงเล็กน้อย คาดหลังเทศกาลทะยานสูงขึ้นอีกรอบ แนวโน้มแตะบาทละ 15,000 บาท

นายธนสิน กลีบลำเจียก หัวหน้าผู้ค้าทองคำ บริษัท ออสสิริส จำกัด ระบุว่า ตลอดปี 2551 ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น แต่จะมีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยคาดว่า ราคาทองคำสูงสุดในปีนี้จะถึงระดับ 1,090 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ จากปัจจุบันอยู่ที่ 908 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ และเคยมีราคาต่ำสุดที่ 743 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ โดยปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น เพราะตลาดซื้อทองคำล่วงหน้าขยายตัวมาเอเชีย โดยเฉพาะที่จีนที่ได้รับความนิยม

นอกจากนี้ ยังมีอีก 5 ปัจจัยที่สนับสนุนราคาทองคำ ได้แก่ 1.เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง ทำให้คนมาซื้อทองคำกดดันให้ราคาพุ่งขึ้น 2.ผลจากดอกเบี้ยที่ปรับลดลง ทำให้คนเลือกลงทุนทองคำมากขึ้น 3.ทองคำเป็นหนึ่งในสินค้าโภคภัณฑ์ที่ราคาทำสถิติสูงสุด 4.ความไม่แน่นอนทางการเมือง และการก่อการร้าย ทำให้คนซื้อทองคำเก็บมากขึ้น และ 5.กองทุนส่วนบุคคล ก็สนใจลงทุนในทองคำมากขึ้นกว่าเดิม

นายสุวรรณ วลัยเสถียร ประธานชมรมคนออมเงิน กล่าวว่า ราคาทองคำปีนี้น่าจะสูงสุดที่ 975 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ หากคิดอัตราแลกเปลี่ยน 33 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ราคาทองคำในประเทศจะถึง 15,000 บาท ซึ่งการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯลดดอกเบี้ย ยิ่งทำให้ราคาทองคำแกว่งตัวขึ้น ซึ่งหากผู้สนใจลงทุนสามารถลงทุนในทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากราคายังไปได้ดี

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมผู้ค้าทองคำ กล่าวถึงสถานการณ์ราคาทองคำในตลาดโลกว่า ในไตรมาสแรกของปีนี้ราคาทองคำยังมีความผันผวน โดยคาดว่าจะปรับสูงขึ้นไปถึงราว 845-945 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ อย่างไรก็ตาม จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าทำให้ราคาทองคำในประเทศปรับขึ้นตามไม่มากนัก แต่ยังถือว่าราคาสูงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนถึง 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนลดลงกว่าร้อยละ 40 อย่างไรก็ตาม สำหรับราคาทองคำในวันนี้ได้ปรับลดลงมาบาทละ 250 บาท ซึ่งมองว่าราคาทองคำจะมีทิศทางลดลงเช่นนี้ในช่วง 1-2 วัน ก่อนเทศกาลตรุษจีน หลังจากนั้น คาดว่า จะปรับสูงขึ้นอีกรอบ ผู้ลงทุนควรติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด
กำลังโหลดความคิดเห็น