พาณิชย์ ยอมไฟเขียวน้ำมันปาล์มชนิดขวด ปรับราคาอีก 4 บาท/ขวดลิตร โดยมีผลตั้งแต่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาขยับขึ้นจากขวดละ 43.50 บาท เป็นขวดละ 47.50 บาท ในทันที "พาณิชย์" ยอมรับสุดอั้น ผู้ผลิตแบกต้นทุนอ่วม ขอปรับขึ้น 8.50 บาท แต่ยอมให้แค่ครึ่งเดียว
วันนี้ (28 ม.ค.) นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวยอมรับว่า ตนเองได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการน้ำมันปาล์มชนิดบรรจุขวด 1 ลิตร ปรับราคาเพิ่มขึ้นอีก 4 บาท ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา จากที่ยื่นขอปรับราคาเพิ่มขึ้นขวดละ 8.50 บาท เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตปรับตัวสูงขึ้น
“กรมฯ อนุมัติให้ผู้ประกอบการน้ำมันปาล์มบรรจุขวดปรับขึ้นราคาเพิ่มขึ้นอีกลิตรละ 4 บาท หรือจากขวดละ 43.50 บาท เป็นขวดละ 47.50 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา”
เนื่องจากพบว่า น้ำมันปาล์มดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 34 บาท โดยการปรับขึ้นราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 จากที่ก่อนหน้านี้กรมการค้าภายในเคยอนุมัติให้ขึ้นราคาไปแล้วถึงขวดละ 5.50 บาท ตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค.2550 ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดสูงกว่าราคาน้ำมันถั่วเหลืองซึ่งอยู่ที่ขวดละ 45.50 บาทเป็นครั้งแรก จากปกติน้ำมันถั่วเหลืองจะแพงกว่าน้ำมันปาล์มขวดละ 2-3 บาท
“ตอนนี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้นมาก ที่ผ่านมาขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 37 บาท หากกรมฯไม่อนุญาตให้นำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ 30,000 ตัน คาดว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศคงทะลุ 39-40 บาทไปแล้ว” นายยรรยง กล่าว
นอกจากน้ำมันปาล์มแล้ว กรมการค้าภายในยังไม่ได้อนุมัติให้สินค้าใดปรับขึ้นราคา โดยสินค้าที่อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับราคา ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นม วัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็ก ซึ่งขณะนี้ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าขาดแคลน ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าออกไปตรวจสอบสตอกปูนซีเมนต์ และเหล็ก เพื่อไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้า จากการรอพิจารณาปรับขึ้นราคาใหม่เพื่อเก็งกำไร
สำหรับมาตรการดูแลค่าครองชีพขณะนี้ กรมการค้าภายในได้ร่วมกับห้างค้าปลีก โดยล่าสุดร่วมมือกับบิ๊กซีจัดเทศกาลตรุษจีนธงฟ้าราคาประหยัด ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-6 ก.พ.นี้ เพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและเครื่องใช้จำเป็นในเทศกาลตรุษจีนในราคาถูกกว่าท้องตลาด 5-30% ส่วนราคาอาหารสำเร็จรูปในฟู้ดคอร์ท พบว่า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลได้ให้ความร่วมมือลดราคาอาหารในฟู้ดคอร์ท ลงมาไม่เกินจานละ 30 บาทแล้ว
ด้าน นายเศรษฐสรร เศรษฐการุณย์ นายกสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว กล่าวว่า สมาคมได้ยื่นหนังสือขอปรับราคาขายน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดเช่นกัน เพราะได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาถั่วเหลือที่เพิ่มขึ้นจากต้นปี 2550 มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาท เป็นกิโลกรัมละ 19 บาท แต่ราคาเพดานขายน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดยังเป็นเท่าเดิม จึงจำเป็นต้องปรับราคาขาย แต่ขณะนี้กรมการค้าภายในอยู่ระหว่างการพิจารณา
“แม้ราคาน้ำมันปาล์มดิบจะสูงกว่าน้ำมันถั่วเหลือง จนอาจทำให้น้ำมันถั่วเหลืองมียอดขายเพิ่มขึ้น แต่ในความเป็นจริง ผู้ประกอบการยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งราคาวัตถุดิบมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามทิศทางความต้องการพืชน้ำมันที่เพิ่มขึ้น แต่ปริมาณผลผลิตไม่ได้เพิ่มในสัดส่วนเดียวกับความต้องการ”
วันนี้ (28 ม.ค.) นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กล่าวยอมรับว่า ตนเองได้อนุมัติให้ผู้ประกอบการน้ำมันปาล์มชนิดบรรจุขวด 1 ลิตร ปรับราคาเพิ่มขึ้นอีก 4 บาท ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา จากที่ยื่นขอปรับราคาเพิ่มขึ้นขวดละ 8.50 บาท เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตปรับตัวสูงขึ้น
“กรมฯ อนุมัติให้ผู้ประกอบการน้ำมันปาล์มบรรจุขวดปรับขึ้นราคาเพิ่มขึ้นอีกลิตรละ 4 บาท หรือจากขวดละ 43.50 บาท เป็นขวดละ 47.50 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.ที่ผ่านมา”
เนื่องจากพบว่า น้ำมันปาล์มดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 34 บาท โดยการปรับขึ้นราคาครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 2 จากที่ก่อนหน้านี้กรมการค้าภายในเคยอนุมัติให้ขึ้นราคาไปแล้วถึงขวดละ 5.50 บาท ตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค.2550 ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มขวดสูงกว่าราคาน้ำมันถั่วเหลืองซึ่งอยู่ที่ขวดละ 45.50 บาทเป็นครั้งแรก จากปกติน้ำมันถั่วเหลืองจะแพงกว่าน้ำมันปาล์มขวดละ 2-3 บาท
“ตอนนี้ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้นมาก ที่ผ่านมาขึ้นไปถึงกิโลกรัมละ 37 บาท หากกรมฯไม่อนุญาตให้นำเข้าน้ำมันปาล์มกึ่งบริสุทธิ์ 30,000 ตัน คาดว่า ราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศคงทะลุ 39-40 บาทไปแล้ว” นายยรรยง กล่าว
นอกจากน้ำมันปาล์มแล้ว กรมการค้าภายในยังไม่ได้อนุมัติให้สินค้าใดปรับขึ้นราคา โดยสินค้าที่อยู่ระหว่างการพิจารณาปรับราคา ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นม วัสดุก่อสร้าง เช่น ปูนซีเมนต์ เหล็ก ซึ่งขณะนี้ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าขาดแคลน ซึ่งจะส่งเจ้าหน้าออกไปตรวจสอบสตอกปูนซีเมนต์ และเหล็ก เพื่อไม่ให้เกิดการกักตุนสินค้า จากการรอพิจารณาปรับขึ้นราคาใหม่เพื่อเก็งกำไร
สำหรับมาตรการดูแลค่าครองชีพขณะนี้ กรมการค้าภายในได้ร่วมกับห้างค้าปลีก โดยล่าสุดร่วมมือกับบิ๊กซีจัดเทศกาลตรุษจีนธงฟ้าราคาประหยัด ระหว่างวันที่ 31 ม.ค.-6 ก.พ.นี้ เพื่อจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคและเครื่องใช้จำเป็นในเทศกาลตรุษจีนในราคาถูกกว่าท้องตลาด 5-30% ส่วนราคาอาหารสำเร็จรูปในฟู้ดคอร์ท พบว่า ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลได้ให้ความร่วมมือลดราคาอาหารในฟู้ดคอร์ท ลงมาไม่เกินจานละ 30 บาทแล้ว
ด้าน นายเศรษฐสรร เศรษฐการุณย์ นายกสมาคมผู้ผลิตน้ำมันถั่วเหลืองและรำข้าว กล่าวว่า สมาคมได้ยื่นหนังสือขอปรับราคาขายน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดเช่นกัน เพราะได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น โดยเฉพาะราคาถั่วเหลือที่เพิ่มขึ้นจากต้นปี 2550 มาอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาท เป็นกิโลกรัมละ 19 บาท แต่ราคาเพดานขายน้ำมันถั่วเหลืองบรรจุขวดยังเป็นเท่าเดิม จึงจำเป็นต้องปรับราคาขาย แต่ขณะนี้กรมการค้าภายในอยู่ระหว่างการพิจารณา
“แม้ราคาน้ำมันปาล์มดิบจะสูงกว่าน้ำมันถั่วเหลือง จนอาจทำให้น้ำมันถั่วเหลืองมียอดขายเพิ่มขึ้น แต่ในความเป็นจริง ผู้ประกอบการยังได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งราคาวัตถุดิบมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามทิศทางความต้องการพืชน้ำมันที่เพิ่มขึ้น แต่ปริมาณผลผลิตไม่ได้เพิ่มในสัดส่วนเดียวกับความต้องการ”