“เฉลิมพล อินทรโชติ” ดันไทยศูนย์กลางแข่งรถดริ๊ฟท์เอเชีย

“ผมมีความหวังสูงสุดที่ต้องการจะให้แบรนด์ Drift Competition หรือการแข่งรถแบบไม่ธรรมดา ที่ตั้งขึ้นมาผลักดันให้เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมระดับโลก ภายใน 10 ปีจากนี้” คือคำกล่าวอย่างมุ่งมั่นของ “เฉลิมพล อินทรโชติ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอลี่ ออน คอร์เปอเรชั่น จำกัด

Drift Competition หรือชื่อเต็มๆคือ M-150 Slide Night Drift Competition คือชื่อที่เฉลิมพล ตั้งใจสร้างให้เป็นแบรนด์หลักของการแข่งขันรถแบบดริ๊ฟท์ หรือการแข่งขันรถเลี้ยวแบบไม่ธรรมดา ที่เริ่มได้รับความนิยมในเมืองไทยมาไม่กี่ปี แต่ยังจำกัดอยู่ในวงแคบเท่านั้น ซึ่งในเมืองไทยมีรถที่แข่งประเภทนี้ไม่เกิน 100 คัน จากแรกเริ่มที่มีต่ำ 10 คันเท่านั้นเอง ในขณะที่ในญี่ปุ่นนั้นมีการแข่งขันรถแบบนี้ในชื่อว่า “D1/ดีวัน” ส่วนในอเมริกาใช้ชื่อว่า ดีวัน เหมือนกัน แต่ที่ยุโรปใช้คำว่า FD/เอฟดี

ด้วยการร่วมมือกับผู้จัดแข่งรถดริ๊ฟท์ในต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น มาเลเซีย สิงค์โปร์ ฟิลิปปินส์ ร่วมกันสร้างกฎเกณฑ์ กติกา และสร้างให้แบรนด์นี้เป็นที่ยอมรับในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในเอเชียก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากที่แต่ละประเทศก็ต่างคนต่างจัดกันไป ทำให้ไม่เป็นเอกภาพ โดยที่ตัวเขาเองได้จัดแข่งในไทยมานานกว่า 4-5 ปีแล้ว และได้รับความนิยมอย่างมาก

โดยที่เขาเตรียมที่จะจัดแข่งขันขึ้นในประเทศไทยก่อน ในฐานะที่เป็นตัวตั้งตัวตี ต่อจากนั้นก็จะตระเวนไปจัดแข่งในประเทศที่เป็นพันธมิตร โดยมีสปอนเซอร์หลักคือ เครื่องดื่มเอ็ม-150 ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ขายในต่างประเทศด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจว่าจะช่วยทำให้แบรนด์แข่งขันที่ตั้งขึ้นมานี้ ได้รับการยอมรับได้ง่ายขึ้นอีก

ในปีหน้าจะเริ่มไปจัดแข่งขันในต่างประเทศในรูปแบบอินเตอร์เนชันแนลทัวร์นาเม้นท์ โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแข่งขันรถดริ๊ฟท์ ในภูมิภาคเอเชีย

นอกจากนั้นก็จะมีกลยุทธ์การตลาด พีอาร์ ผสมโรงด้วย เช่น การปั้นนักแข่งดริ๊ฟท์ที่มีความสามารถให้เป็นเสมือนดาราของกีฬาประเภทนี้ขึ้นมา เหมือนกับการปั้นดาราทางทีวี เพื่อสร้างความสนใจ เป็นแม็กเน็ต มีการสร้างแฟนคลับให้กับกลุ่มคนที่มาเล่นและกลุ่มคนที่สนใจ ซึ่งเราจะมองตลาดต่างกับคนอื่น เราจะเก็บค่าสมัครให้น้อยที่สุด ส่วนคนดูให้ดูฟรี เพื่อให้คนมาแข่ง มาดูมากๆ

“ก่อนที่ผมจะตั้งแบรนด์นี้ขึ้นมา ผมเคยได้รับการติดต่อจากต่างประเทศเหมือนกัน เป็นตัวแทนจาก เจ้าของลิขสิทธิ์ ดีวัน (D1) ของญี่ปุ่น เพื่อให้เราซื้อลิขสิทธิ์ ดีวัน เพื่อบริหารจัดการแข่งขันในไทย แต่เมื่อเรามาพิจารณาในรายละเอียดแล้วทั้งเงื่อนไข ค่าลิขสิทธิ์ ต่างๆ ค่อนข้างเข้มงวดและมากเกินไป เราเลยคิดว่าทำเองจะดีกว่า และเราเองก็มีประสบการณ์ทางด้านนี้อยู่แล้วด้วย” เฉลิมพลย้อนความหลังก่อนคิดแบรนด์ขึ้นมาเองให้ฟัง

เฉลิมพลเองก็เหมือนเด็กผู้ชายหลายๆคนทั่วไป ที่ในวัยเด็กมักชอบกีฬาที่ท้าทาย หรือพวกประเภทความเร็ว ซึ่งการแข่งขันรถก็เป็นหนึ่งอย่างที่เขาชอบมาก เมื่อตอนเป็นเด็ก เคยขับรถแข่งกับเพื่อนบนท้องถนนมาแล้ว แต่เป็นการแข่งความเร็วไม่ได้แข่งหวาดเสียวหรือขับอันตราย

เขาให้เหตุผลกว่า ตอนเป็นเด็ก ไม่มีเงินมากพอที่จะไปเสียค่าสมัครแข่งรถกับเขาได้ และอายุก็ยังไม่ถึงด้วย จึงต้องใช้การแข่งรถบนถนนแทน แต่เมื่อโตขึ้นมา ก็มานั่งคุยกับเพื่อนๆกันว่า ในเมื่อพวกเราชอบการแข่งขันรถอยู่แล้วทำไมไม่มารวมตัวกันเพื่อจัดแข่งขันรถขึ้นมาเลย ซึ่งตอนนั้นอายุไม่ถึง 25 ปีเลย จึงร่วมกันตั้งบริษัท โอลี่ ออน คอร์เปอเรชั่น จำกัด ขึ้นมา เพื่อรับงานทางด้านมอเตอร์สปอร์ตเอนเตอร์เทนเม้นท์ การรับจัดกิจกรรมการตลาด

โดยยึดหลักการทำงานที่ว่า “ทำวันนี้ให้ดีที่สุด”