“โอลี่ออน” ปรับกลยุทธ์รุกธุรกิจอีเวนต์ มอเตอร์สปอร์ต เอนเตอร์เทนเมนต์ ผลักดันงานสร้างเองกับรับจ้างงาน สัดส่วนเท่ากัน จากเดิมที่เน้นงานสร้างเอง พร้อมทั้งเล็งปั้นแบรนด์ ดีเอฟ บุกตลาดอาเซียน ปะทะ ดีวัน ของญี่ปุ่น ตั้งเป้าหมายรายได้ปีนี้ที่ 40 ล้านบาท
นายเฉลิมพล อินทรโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอลี่ ออน คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการออแกไนเซอร์มอเตอร์สปอร์ต เปิดเผยว่า ตลาดรวมของการจัดงาน หรืออีเวนต์ ในปีที่แล้วอยู่ในเกณฑ์ที่ทรงตัว ยังมีการจัดอีเวนต์เกิดขึ้นตลอดทั้งปี ขณะที่ในส่วนของตลาดอีเวนต์ด้านรถยนต์ หรือมอเตอร์สปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์นั้น ก็มีการเติบโตเช่นกัน และคาดว่า ในปีนี้ตลาดรวมก็ยังคงเติบโตดีอยู่
ทั้งนี้ ตลาดรวมของอีเวนต์ประเภทมอเตอร์สปอร์ตในไทย มีมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี จากปริมาณการจัดงานที่ไม่น่าจะต่ำกว่า 100 ครั้งต่อปี จากผู้ประกอบการที่เป็นรายหลักในตลาดประเภทนี้ที่มีอยู่ประมาณ 5-6 รายเท่านั้น โดยปัจจุบันบริษัท โอลี่ออน เป็นผู้นำตลาดเซ็กเมนต์นี้ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 20% จากปริมาณการจัดงานของบริษัทที่เกี่ยวกับมอเตอร์สปอร์ตประมาณ 12-15 ครั้งต่อปี ที่เป็นงานใหญ่
สำหรับในปีนี้มองว่า ตลาดรวมยังมีการเติบโตที่ดี ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ที่พยายามจะเข้าตลาดนี้ก็มีอยู่เช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่ายนัก เพราะเป็นตลาดนิชมาร์เก็ต ต้องมีประสบการณ์ มีสายสัมพันธ์ และมีฐานตลาดพอสมควร ดังนั้น จึงเชื่อว่า การแข่งขันคงยังกระจุกอยู่ที่ผู้ประกอบการรายเดิม ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ เพื่อเป็นการรักษาฐานตลาดเดิม พร้อมกับการขยายฐานธุรกิจออกไปอีกด้วย
โดยที่ผ่านมา บริษัทเน้นหนักในส่วนของการเป็นผู้สร้างสรรค์กิจกรรมงานของบริษัทเอง ซึ่งเป็นรายได้หลักมากกว่า 80% ส่วนอีก 20% เป็นรายได้ที่มาจากการรับจ้างบริหาร และจัดงานอีเวนต์ให้กับลูกค้าทั้งหลาย จากรายได้รวมปีที่แล้วที่มีประมาณ 15 ล้านบาท
แผนงานในปีนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ของการรับจ้างจัดงานให้กับลูกค้าเพิ่มเป็น 50% ขณะที่สัดส่วนรายได้ของการสร้างสรรค์งานเองจะอยู่ที่ 50% เท่ากัน พร้อมกับการขยายฐานในการจัดงานรูปแบบอื่นด้วยเพื่อเข้ามาเติมเต็มความหลากหลายให้กับบริษัท โดย ตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้จะเติบโตขึ้นเป็น 40 ล้านบาท และคาดหวังกำไรประมาณ 20%
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน โดยการจัดการแข่งขันรถยนต์ประเภทดริฟต์ (Drift) หรือการแข่งขับรถฝืนธรรมชาติ ด้วยการสร้างแบรนด์ขึ้นมาเองคือ “M-150 Slide Night Drift Competition” ขึ้นมา โดยมีเครื่องดื่ม เอ็ม-150 เป็นสปอนเซอร์หลัก เพื่อแข่งกับแบรนด์ ดีวันของญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทจะจับมือกับผู้ประกอบการในประเทศอื่น เพื่อช่วยกันสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมา ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเจรจาไปแล้วและมีแนวโน้มเป็นไปได้สูง เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเตรียมเจรจาเพิ่มเติมในรายละเอียดกับประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย
“เรามั่นใจว่า จะทำได้สำเร็จ เพราะมีประสบการณ์จัดแข่งรถดริฟต์ไทยนานกว่า 5 ปี เพียงรายเดียวในไทยได้รับความสนใจมากขึ้นทุกปี โดยแต่ละสนามมีผู้เข้าชมมากกว่า 10,000 คน ทั้งเยาวชน คนรุ่นใหม่ นักแข่งรถมืออาชีพ มือสมัครเล่น ดารา นางแบบ และมีแผนที่จะจัดขึ้นในประเทศไทยก่อน ด้วยงบประมาณไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท และหมุนเวียนไปจัดในต่างประเทศบ้างที่เป็นพันธมิตรกับเรา คาดว่า ต้องใช้งบประมาณในการจัดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อครั้ง”
นายเฉลิมพล กล่าวต่อว่า ปริมาณการจัดงานในปีนี้ของบริษัทที่เป็นการสร้างสรรค์เองจะมีประมาณ 4 รายการใหญ่ หรือไตรมาสละ 1 รายการ เช่น ไตรมาสแรกจะมี M-150 Slide Night Drift Competition ในรูปแบบทัวร์นาเมนต์ทั่วทุกภูมิภาคของไทย สนามแรกจัดวันที่ 19 มกราคม ที่ เซ็นทรัลแอร์พอร์ต เชียงใหม่ (เลื่อนจากวันที่ 12 มกราคม) เป็นต้น ส่วนงานที่รับจ้างจัดงานให้กับลูกค้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา 4 งาน แบ่งเป็นงานที่เกี่ยวกับสินค้ารถยนต์ 2 งาน และงานทางด้านคอนซูเมอร์โปรดักต์ 2 งาน ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นสินค้าของบริษัท โอสถสภา จำกัด
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทได้ทำการปรับราคาค่าสปอนเซอร์และพื้นที่โฆษณาด้วยประมาณ 20% โดยเมนสปอนเซอร์อยู่ที่ 6 ล้านบาท ส่วนโคสปอนเซอร์อยู่ที่ 1-2 ล้านบาท
นายเฉลิมพล อินทรโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โอลี่ ออน คอร์เปอเรชั่น จำกัด ผู้ให้บริการออแกไนเซอร์มอเตอร์สปอร์ต เปิดเผยว่า ตลาดรวมของการจัดงาน หรืออีเวนต์ ในปีที่แล้วอยู่ในเกณฑ์ที่ทรงตัว ยังมีการจัดอีเวนต์เกิดขึ้นตลอดทั้งปี ขณะที่ในส่วนของตลาดอีเวนต์ด้านรถยนต์ หรือมอเตอร์สปอร์ตเอนเตอร์เทนเมนต์นั้น ก็มีการเติบโตเช่นกัน และคาดว่า ในปีนี้ตลาดรวมก็ยังคงเติบโตดีอยู่
ทั้งนี้ ตลาดรวมของอีเวนต์ประเภทมอเตอร์สปอร์ตในไทย มีมูลค่าประมาณ 500 ล้านบาทต่อปี จากปริมาณการจัดงานที่ไม่น่าจะต่ำกว่า 100 ครั้งต่อปี จากผู้ประกอบการที่เป็นรายหลักในตลาดประเภทนี้ที่มีอยู่ประมาณ 5-6 รายเท่านั้น โดยปัจจุบันบริษัท โอลี่ออน เป็นผู้นำตลาดเซ็กเมนต์นี้ โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 20% จากปริมาณการจัดงานของบริษัทที่เกี่ยวกับมอเตอร์สปอร์ตประมาณ 12-15 ครั้งต่อปี ที่เป็นงานใหญ่
สำหรับในปีนี้มองว่า ตลาดรวมยังมีการเติบโตที่ดี ขณะที่ผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ที่พยายามจะเข้าตลาดนี้ก็มีอยู่เช่นกัน แต่ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่ายนัก เพราะเป็นตลาดนิชมาร์เก็ต ต้องมีประสบการณ์ มีสายสัมพันธ์ และมีฐานตลาดพอสมควร ดังนั้น จึงเชื่อว่า การแข่งขันคงยังกระจุกอยู่ที่ผู้ประกอบการรายเดิม ดังนั้น ในปีนี้บริษัทจึงได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจใหม่ เพื่อเป็นการรักษาฐานตลาดเดิม พร้อมกับการขยายฐานธุรกิจออกไปอีกด้วย
โดยที่ผ่านมา บริษัทเน้นหนักในส่วนของการเป็นผู้สร้างสรรค์กิจกรรมงานของบริษัทเอง ซึ่งเป็นรายได้หลักมากกว่า 80% ส่วนอีก 20% เป็นรายได้ที่มาจากการรับจ้างบริหาร และจัดงานอีเวนต์ให้กับลูกค้าทั้งหลาย จากรายได้รวมปีที่แล้วที่มีประมาณ 15 ล้านบาท
แผนงานในปีนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้ของการรับจ้างจัดงานให้กับลูกค้าเพิ่มเป็น 50% ขณะที่สัดส่วนรายได้ของการสร้างสรรค์งานเองจะอยู่ที่ 50% เท่ากัน พร้อมกับการขยายฐานในการจัดงานรูปแบบอื่นด้วยเพื่อเข้ามาเติมเต็มความหลากหลายให้กับบริษัท โดย ตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้จะเติบโตขึ้นเป็น 40 ล้านบาท และคาดหวังกำไรประมาณ 20%
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน โดยการจัดการแข่งขันรถยนต์ประเภทดริฟต์ (Drift) หรือการแข่งขับรถฝืนธรรมชาติ ด้วยการสร้างแบรนด์ขึ้นมาเองคือ “M-150 Slide Night Drift Competition” ขึ้นมา โดยมีเครื่องดื่ม เอ็ม-150 เป็นสปอนเซอร์หลัก เพื่อแข่งกับแบรนด์ ดีวันของญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทจะจับมือกับผู้ประกอบการในประเทศอื่น เพื่อช่วยกันสร้างแบรนด์นี้ขึ้นมา ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเจรจาไปแล้วและมีแนวโน้มเป็นไปได้สูง เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และเตรียมเจรจาเพิ่มเติมในรายละเอียดกับประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย
“เรามั่นใจว่า จะทำได้สำเร็จ เพราะมีประสบการณ์จัดแข่งรถดริฟต์ไทยนานกว่า 5 ปี เพียงรายเดียวในไทยได้รับความสนใจมากขึ้นทุกปี โดยแต่ละสนามมีผู้เข้าชมมากกว่า 10,000 คน ทั้งเยาวชน คนรุ่นใหม่ นักแข่งรถมืออาชีพ มือสมัครเล่น ดารา นางแบบ และมีแผนที่จะจัดขึ้นในประเทศไทยก่อน ด้วยงบประมาณไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท และหมุนเวียนไปจัดในต่างประเทศบ้างที่เป็นพันธมิตรกับเรา คาดว่า ต้องใช้งบประมาณในการจัดไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทต่อครั้ง”
นายเฉลิมพล กล่าวต่อว่า ปริมาณการจัดงานในปีนี้ของบริษัทที่เป็นการสร้างสรรค์เองจะมีประมาณ 4 รายการใหญ่ หรือไตรมาสละ 1 รายการ เช่น ไตรมาสแรกจะมี M-150 Slide Night Drift Competition ในรูปแบบทัวร์นาเมนต์ทั่วทุกภูมิภาคของไทย สนามแรกจัดวันที่ 19 มกราคม ที่ เซ็นทรัลแอร์พอร์ต เชียงใหม่ (เลื่อนจากวันที่ 12 มกราคม) เป็นต้น ส่วนงานที่รับจ้างจัดงานให้กับลูกค้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา 4 งาน แบ่งเป็นงานที่เกี่ยวกับสินค้ารถยนต์ 2 งาน และงานทางด้านคอนซูเมอร์โปรดักต์ 2 งาน ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นสินค้าของบริษัท โอสถสภา จำกัด
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทได้ทำการปรับราคาค่าสปอนเซอร์และพื้นที่โฆษณาด้วยประมาณ 20% โดยเมนสปอนเซอร์อยู่ที่ 6 ล้านบาท ส่วนโคสปอนเซอร์อยู่ที่ 1-2 ล้านบาท
