ถือได้ว่าเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ในแวดวงสื่อโฆษณายุคใหม่ก็ว่าได้สำหรับผู้ชายที่ชื่อ "ปรินทร์ โลจนะโกสินทร์"
เพราะว่าด้วยวัยเพียง 24 ปีเขาก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับสูงถึง 2 แห่งแล้วคือ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปรินทร์ โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ทำธุรกิจสื่อโฆษณาในสนามกอล์ฟ,ร้านอาหาร,ผับ และโรงภาพยนตร์ ฟิตเนส,ยิม,ห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นสื่อโฆษณาที่ไม่เหมือนใครนั่นคือ สื่อโฆษณาในห้องน้ำเป็นหลัก
และอีกบริษัทคือ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท เป็นบริษัทที่ทำการตลาดธุรกิจสื่อโฆษณารถยูโร ทู จำนว 1,220 คัน ของขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือขสมก.
ทั้งสองบริษัทนี้เกิดขึ้นภายใต้น้ำพักน้ำแรงของเขาเอง จากพื้นฐานที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการตลาด จากชิคาโก สหรัฐอเมริกา ตัวของเขาเองเป็นคนที่สนใจทางด้านสื่อโฆษณาอย่างมาก ชอบคิดและสร้างสรรค์อะไรที่แปลกใหม่เพื่อความแตกต่างของตลาด
แนวคิดหนึ่งในการทำงานของนายปรินทร์ก็คือ เขาเชื่อว่าคนเราจะทำอะไรแล้วแต่ สมควรที่จะต้องมีแผนสองไว้รองรับเผื่อในการผิดพลาด หรือว่าแผนแรกที่กำหนดไว้ไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ ซึ่งจะทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
ตรงนี้เองคือ เหตุผลที่ทำให้เขาตั้งบริษัทที่ชื่อว่า แพลน บี มีเดีย ขึ้นมา ซึ่งหมายถึงแผนขั้นที่สอง ส่วนเหตุผลเล่นๆก็คือ ตัวเขาเองมีชื่อเล่นว่า บี เลยเอามาตั้งเป็นชื่อบริษัท นั่นเอง
ความคิดที่แปลกของเขามีไม่หยุด นอกจากมีเพียงสองบริษัทนี้แล้ว เขายังคิดต่อไปว่าจะมีการขยายธุรกิจและบริษัทใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีก ขอเพียงให้สองบริษัทนี้แข็งแกร่งและมั่นคงก่อน ส่วนสื่อรูปแบบใหม่ๆนั้นจะมีความแปลกใหม่เสมอ
สำหรับผลงานล่าสุดของนายปรินทร์นั้นก็คือ การคว้าสิทธิ์สัมปทานสื่อจาก บริษัท ก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด ให้เป็นผู้ดูแลเรื่องการตลาดโฆษณารถยูโร ทู จำนวน 1,220 คัน เพียงผู้เดียว เป็นเวลา 3 ปี เริ่ม เม.ย.2548 -พ.ค.2551 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 7 เม.ย.2548 ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 200 คัน มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท ถือว่าเป็นผลงานที่มาแรงไม่เบาเลยทีเดียว
เขาเล็งเห็นว่าสื่อโฆษณาในรถยูโรทูนั้น ถือว่าเป็นสื่อที่ถ้าหากดูว่าธรรมดามันก็จะธรรมดา แต่ถ้าดูว่าเป็นสื่อที่พิเศษมันจะพิเศษก็ได้ เพราะเป็นสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ คนสามารถเห็นกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง ในราคาที่ต่ำมาก เมื่อเทียบระหว่างการเข้าถึงผู้บริโภคกับเม็ดเงินที่เจ้าของสินค้าใช้จ่ายไป
"สื่อโฆษณานอกบ้าน จริงๆแล้วถ้าเราพิจารณาให้ดีมันยังมีอีกมาก มีอีกหลายรูปแบบที่สามารถนำมาประยุกต์เป็นสื่อโฆษณาได้ อยู่ที่ว่าเราจะทำหรือไม่ และจะทำอย่างไรเท่านั้นเอง"
เพราะว่าด้วยวัยเพียง 24 ปีเขาก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหารระดับสูงถึง 2 แห่งแล้วคือ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปรินทร์ โปรดักชั่น จำกัด ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ทำธุรกิจสื่อโฆษณาในสนามกอล์ฟ,ร้านอาหาร,ผับ และโรงภาพยนตร์ ฟิตเนส,ยิม,ห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นสื่อโฆษณาที่ไม่เหมือนใครนั่นคือ สื่อโฆษณาในห้องน้ำเป็นหลัก
และอีกบริษัทคือ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด ซึ่งมีทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท เป็นบริษัทที่ทำการตลาดธุรกิจสื่อโฆษณารถยูโร ทู จำนว 1,220 คัน ของขนส่งมวลชนกรุงเทพหรือขสมก.
ทั้งสองบริษัทนี้เกิดขึ้นภายใต้น้ำพักน้ำแรงของเขาเอง จากพื้นฐานที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาการตลาด จากชิคาโก สหรัฐอเมริกา ตัวของเขาเองเป็นคนที่สนใจทางด้านสื่อโฆษณาอย่างมาก ชอบคิดและสร้างสรรค์อะไรที่แปลกใหม่เพื่อความแตกต่างของตลาด
แนวคิดหนึ่งในการทำงานของนายปรินทร์ก็คือ เขาเชื่อว่าคนเราจะทำอะไรแล้วแต่ สมควรที่จะต้องมีแผนสองไว้รองรับเผื่อในการผิดพลาด หรือว่าแผนแรกที่กำหนดไว้ไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ ซึ่งจะทำให้เราสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที
ตรงนี้เองคือ เหตุผลที่ทำให้เขาตั้งบริษัทที่ชื่อว่า แพลน บี มีเดีย ขึ้นมา ซึ่งหมายถึงแผนขั้นที่สอง ส่วนเหตุผลเล่นๆก็คือ ตัวเขาเองมีชื่อเล่นว่า บี เลยเอามาตั้งเป็นชื่อบริษัท นั่นเอง
ความคิดที่แปลกของเขามีไม่หยุด นอกจากมีเพียงสองบริษัทนี้แล้ว เขายังคิดต่อไปว่าจะมีการขยายธุรกิจและบริษัทใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีก ขอเพียงให้สองบริษัทนี้แข็งแกร่งและมั่นคงก่อน ส่วนสื่อรูปแบบใหม่ๆนั้นจะมีความแปลกใหม่เสมอ
สำหรับผลงานล่าสุดของนายปรินทร์นั้นก็คือ การคว้าสิทธิ์สัมปทานสื่อจาก บริษัท ก่อเกียรติ กรุ๊ป จำกัด ให้เป็นผู้ดูแลเรื่องการตลาดโฆษณารถยูโร ทู จำนวน 1,220 คัน เพียงผู้เดียว เป็นเวลา 3 ปี เริ่ม เม.ย.2548 -พ.ค.2551 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อวันที่ 7 เม.ย.2548 ปัจจุบันมียอดจองแล้ว 200 คัน มูลค่าประมาณ 40 ล้านบาท ถือว่าเป็นผลงานที่มาแรงไม่เบาเลยทีเดียว
เขาเล็งเห็นว่าสื่อโฆษณาในรถยูโรทูนั้น ถือว่าเป็นสื่อที่ถ้าหากดูว่าธรรมดามันก็จะธรรมดา แต่ถ้าดูว่าเป็นสื่อที่พิเศษมันจะพิเศษก็ได้ เพราะเป็นสื่อโฆษณาเคลื่อนที่ คนสามารถเห็นกันได้ทั่วบ้านทั่วเมือง ในราคาที่ต่ำมาก เมื่อเทียบระหว่างการเข้าถึงผู้บริโภคกับเม็ดเงินที่เจ้าของสินค้าใช้จ่ายไป
"สื่อโฆษณานอกบ้าน จริงๆแล้วถ้าเราพิจารณาให้ดีมันยังมีอีกมาก มีอีกหลายรูปแบบที่สามารถนำมาประยุกต์เป็นสื่อโฆษณาได้ อยู่ที่ว่าเราจะทำหรือไม่ และจะทำอย่างไรเท่านั้นเอง"
