จีนเปิดการซ้อมรบรอบๆ เกาะไต้หวันซึ่งมีขนาดใหญ่โตที่สุดเท่าที่เคยจัดมาเมื่อวันจันทร์ (29 ธ.ค.) เพื่อโอ่อวดความสามารถของปักกิ่งในการตัดขาดไต้หวันจากความสนับสนุนภายนอกหากเกิดการสู้รบขัดแย้งจริงๆ รวมทั้งเป็นการทดสอบความเด็ดเดี่ยวจริงจังของไทเปในการป้องกันตนเอง ตลอดจนอานุภาพของอาวุธเมดอินยูเอสเอในคลังแสงของไต้หวัน
กองบัญชาการยุทธบริเวณตะวันออก แห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน ซึ่งมีพื้นที่รับผิดชอบครอบคลุมเกาะไต้หวัน แถลงในวันจันทร์ (29) ว่า การซ้อมรบที่ใช้ชื่อรหัสว่า “ภารกิจยุติธรรมปี 2025” (Justice Mission 2025) ของตนคราวนี้ ระดมทั้งกองทหาร, เรือรบ, เครื่องบินขับไล่, และปืนใหญ่ออกมาฝึกการโอบล้อมเกาะแห่งนี้ ตลอดจนทำการยิงด้วยเครื่องกระสุนจริงและดำเนินการโจมตีจำลองใส่พวกเป้าหมายต่างๆ ทั้งทางภาคพื้นดินและในทะเล รวมทั้งการฝึกปิดล้อมท่าเรือแห่งหลักๆ ของไต้หวันด้วย
การซ้อมรบด้วยการยิงเครื่องกระสุนจริงยังจะดำเนินต่อไปอีกในวันอังคาร (30) ในพื้นที่ต่างๆ รวม 7 เขตที่กำหนดออกมาโดยสำนักงานบริหารความปลอดภัยทางทะเลของจีน ทำให้กลายเป็นการฝึกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่จีนเคยกระทำมา รวมทั้งยังกระทำในหลายพื้นที่ซึ่งประชิดติดไต้หวันยิ่งกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต ทั้งนี้ในตอนแรก ทางกองทัพจีนระบุว่าจะจำกัดการยิงพวกปืนใหญ่และอาวุธทำการไกลอื่นๆ เอาไว้ใน 5 เขตเท่านั้น
ด้านกระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า ยังมีเขตพิเศษอีก 1 เขตที่เผชิญการซ้อมรบของจีนเป็นเวลา 2 ชั่วโมงในตอนเช้าวันจันทร์ (29) โดยที่การเอ็กเซอร์ไซส์ของแดนมังกรยังเกิดขึ้นมาในน่านน้ำด้านตะวันออกของเกาะไต้หวัน ชนิดที่ฝ่ายจีนไม่มีการประกาศเตือนล่วงหน้า
สำหรับกระทรวงคมนาคมไต้หวันแจ้งว่า มีผู้โดยสารมากกว่า 100,000 คนในเที่ยวบินนานาชาติจำนวนมากที่จะได้รับความกระทบกระเทือนจากการซ้อมรบของจีนที่จะจัดขึ้นในวันอังคาร ขณะเดียวกันเที่ยวบินภายในอีกราว 80 เที่ยวก็น่าจะถูกยกเลิก
การฝึกครั้งนี้ถือเป็นการซ้อมรบครั้งใหญ่ครั้งที่ 6 ของจีนนับตั้งแต่ปี 2022 หลังจากที่ แนนซี เพโลซี ผู้เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯในเวลานี้ ได้แวะเยือนเกาะไต้หวัน อีกทั้งเกิดขึ้นในขณะที่จีนออกมาป่าวร้องอ้างสิทธิเหนือดินแดนไต้หวันเพิ่มมากขึ้น หลังจากนายกรัฐมนตรี ซานาเอะ ทาคาอิจิ ของญี่ปุ่นเสนอแนะว่า การโจมตีไต้หวันของจีนที่อาจเกิดขึ้นได้ อาจกระตุ้นให้โตเกียวต้องดำเนินการตอบโต้ทางทหาร
การซ้อมรบคราวนี้ยังเริ่มขึ้น 11 วันหลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศขายอาวุธมูลค่า 11,100 ล้านดอลลาร์ให้กับไต้หวัน ซึ่งเป็นแพกเกจการจัดส่งอาวุธที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับเกาะแห่งนี้ เหตุการณ์นี้ทำให้กระทรวงกลาโหมของจีนออกมาประท้วง และเตือนว่ากองทัพจะ "ใช้มาตรการที่รุนแรง" เพื่อตอบโต้
“พวกเขา (จีน) กำลังส่งข้อความแรงๆ ออกมาในเรื่องที่ภายนอกจะเข้ามาแทรกแซง” เป็นความเห็นของ เจี้ย จง นักวิจัยแห่งสถาบันเพื่อการป้องกันชาติและการวิจัยด้านความมั่นคงของไต้หวัน โดยชี้ให้เห็นถึงวิธีการที่จีนได้ “ตัดขาดอย่างสิ้นเชิง” การติดต่อเชื่อมโยงทั้งทางอากาศและทางทะเลระหว่างญี่ปุ่นกับไต้หวัน ในบริเวณ 3 เขตทางตอนเหนือของเกาะไต้หวัน
พวกนักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า การซ้อมรบของปักกิ่งเริ่มไม่ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเป็นเพียงการซ้อมรบทางทหารตามปกติหรืออาจนำไปสู่การเตรียมการโจมตี ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่มุ่งให้สหรัฐฯ และพันธมิตรมีเวลาเตือนภัยน้อยที่สุด
นอกจากนั้นกองทัพจีนยังได้เผยแพร่วิดีโอที่แสดงให้เห็นการใช้ทั้งหุ่นยนต์รูปร่างคล้ายมนุษย์ที่เคลื่อนไหวได้, โดรนขนาดเล็กมาก, และหุ่นยนต์สุนัขติดอาวุธ เข้าร่วมฝึกการเข้าโจมตีไต้หวันด้วย โดยที่จีนไม่ได้เคยโอ่อวดเทคโนโลยีแห่งอนาคตในลักษณะเช่นนี้มาก่อนเลย
ฝู เจิ้งหยวน นักวิจัยของบัณฑิตยสภาวิทยาการทหารของกองทัพจีน บอกกับพวกสื่อภาครัฐว่า การซ้อมรบครังนี้มีเหตุผลสมควรกระทำ เนื่องจากความกังวลว่าระบบการสู้รบของไต้หวันกับของสหรัฐฯกำลังมีความสามารถที่จะปฏิบัติการร่วมกันได้มากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการปะทะกันโดยตรงระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน
รัฐบาลไต้หวันประณามการซ้อมรบคราวนี้ ขณะที่กระทรวงกลาโหมไทเปได้โพสต์วิดีโอในเฟซบุ๊กแสดงให้เห็นอาวุธต่างๆ รวมถึงระบบจรวด HIMARS ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ซึ่งเป็นระบบจรวดหลายลำกล้องเคลื่อนที่เร็วที่มีระยะทำการประมาณ 300 กิโลเมตรจึงสามารถโจมตีเป้าหมายชายฝั่งในมณฑลฝูเจี้ยนทางตอนใต้ของจีนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามช่องแคบไต้หวัน ในกรณีที่เกิดความขัดแย้ง
ด้านหน่วยยามฝั่งไต้หวันประกาศว่า ได้ส่งเรือขนาดใหญ่หลายลำออกไปเพื่อตอบโต้กิจกรรมของหน่วยยามฝั่งจีนใกล้กับน่านน้ำของเกาะ และกำลังทำงานร่วมกับกองทัพเพื่อลดผลกระทบของการซ้อมรบต่อเส้นทางเดินเรือและพื้นที่ประมงให้เหลือน้อยที่สุด
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า เครื่องบินทหารของจีน 89 ลำ และเรือทหาร 14 ลำ และเรือหน่วยยามฝั่งอีก 14 ลำ ได้ปฏิบัติการอยู่รอบเกาะในวันจันทร์ ขณะเดียวกันยังพบเห็นเรือรบจีนอีก 4 ลำในบริเวณด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปซิฟิก
ทางกองทัพจีนยังได้เผยแพร่โปสเตอร์โฆษณาชวนเชื่อชุดหนึ่ง พร้อมด้วยภาพกราฟิกอีกภาพหนึ่งที่แสดงตำแหน่ง 4 แห่งทั่วเกาะพร้อมกับพวกเป้าหมายที่ล็อกไว้ หลังจากที่มีการประกาศซ้อมรบ
สถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลจีนรายงานว่า การฝึกซ้อมจะมุ่งเน้นไปที่การปิดล้อมท่าเรือน้ำลึกที่สำคัญของไต้หวัน คือท่าเรือจีหลง (Keelung) ทางตอนเหนือของเกาะ และท่าเรือเกาสงทางตอนใต้ซึ่งเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดของเกาะไต้หวัน
(ที่มา: รอยเตอร์)


