ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศแผนการที่จะให้กองทัพเรือสหรัฐฯต่อเรือรบขนาดใหญ่ชั้นใหม่ ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น “เรือประจัญบาน” รวมทั้งให้ตั้งชื่อชั้นตามชื่อของตัวเขาเองด้วย โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของวิสัยทัศน์อันใหญ่โตยิ่งขึ้นอีกในการสร้าง “กองเรือทองคำ” ขึ้นมา
ตามคำประกาศของ ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์ (22 ธ.ค.) ที่รีสอร์ตส่วนตัวมาร์-อา-ลาโกในรัฐฟลอริดานั้น เรือประจัญบานใหม่ชั้น “ทรัมป์” ลำแรก จะมีชื่อว่า ยูเอสเอส ดีไฟแอนต์ ซึ่งจะมีความยาวและขนาดใหญ่ยิ่งกว่าเรือประจัญบานชั้นไอโอวา ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 รวมทั้งจะติดตั้งอาวุธไฮเทคล้ำยุค อย่างขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ขีปนาวุธร่อนสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ ปืนกลราง และอาวุธเลเซอร์กำลังสูง โดยที่เทคโนโลยีเหล่านี้แทบทั้งหมดยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาของนาวีอเมริกัน
อย่างไรก็ดี การประกาศข่าวนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งเดือนหลังจากกองทัพเรือเพิ่งยกเลิกแผนการต่อเรือฟริเกตชั้นคอนสเตลเลชั่น ซึ่งเป็นเรือรบขนาดเล็กรุ่นใหม่โดยให้เหตุผลว่า มีความล่าช้ากว่าประมาณการไปมากและงบประมาณก็บานปลาย และตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้เรือตรวจการณ์หน่วยยามฝั่งซึ่งดัดแปลงมาจากรุ่นที่เพิ่งเลิกผลิตไปเมื่อเร็วๆ นี้แทน
นอกจากนั้นกองทัพเรือยังล้มเหลวในการต่อเรือรบรุ่นใหม่ประเภทอื่นๆ เช่น เรือบรรทุกเครื่องบินชั้นฟอร์ด และเรือดำน้ำชั้นโคลัมเบีย โดยไม่สามารถสร้างออกมาได้ทันตามกำหนดการ และอยู่ในงบประมาณที่ตั้งไว้ รวมทั้งยังประสบปัญหาในการนำเทคโนโลยีบางอย่างที่ทรัมป์ระบุว่า จะติดตั้งบนเรือประจัญบานรุ่นใหม่นี้ มาใช้งาน เช่น ปืนกลราง ทั้งที่ใช้งบประมาณไปจำนวนมากและใช้ระยะเวลาไปกว่า 15 ปี ก่อนที่จะถอดใจยุติความพยายามในปี 2021
ขณะเดียวกัน แม้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีเลเซอร์มีความคืบหน้ามากกว่า สำหรับการนำมาติดตั้งใช้งานบนเรือรบของกองทัพเรือ ทว่า ยังมีการใช้งานจำกัด และมีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพ เช่น ระบบหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อทำให้เซ็นเซอร์ของโดรนตรวจไม่พบหรือปิดการทำงานของโดรน ปรากฏว่าขณะนี้ติดตั้งบนเรือพิฆาตเพียง 8 ลำหลังจากใช้เวลาพัฒนามา 8 ปี
เวลาเดียวกันการพัฒนาแสนยานุภาพหรือติดตั้งขีปนาวุธร่อนนิวเคลียร์บนเรือรบ ยังอาจละเมิดสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ที่อเมริกาได้ลงนามร่วมกับรัสเซียตลอดจนประเทศอื่นๆ
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งแย้มว่า เรือประจัญบานใหม่กำลังอยู่ในขั้นตอนการออกแบบ ส่วนการผลิตกำหนดไว้ต้นศตวรรษ 2030
ทั้งทรัมป์และจอห์น ฟีแลน รัฐมนตรีทบวงทหารเรือ กล่าวว่า เรือรบชั้นทรัมป์เป็นการสานต่อทางจิตวิญญาณจากเรือประจัญบานในศตวรรษที่ 20 โดยที่ในประวัติศาสตร์เรือประจันบาน หรือ battleship หมายถึงเรือรบหุ้มเกราะขนาดใหญ่มากซึ่งติดตั้งปืนใหญ่จำนวนมาก และออกแบบมาเพื่อใช้โจมตีเรือรบอื่นๆ ตลอดจนพวกเป้าหมายบนฝั่ง
เรือประจัญบานแพร่หลายมากระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเรือประจัญบานใหญ่ที่สุดของอเมริกาคือชั้นไอโอวา มีระวางขับน้ำราว 60,000 ตัน แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 บทบาทของเรือประเภทนี้ในกองเรือสมัยใหม่ถูกแทนที่โดยเรือบรรทุกเครื่องบินและขีปนาวุธพิสัยไกล
ในทศวรรษ 1980 กองทัพเรือสหรัฐฯ ปรับปรุงเรือประจัญบานชั้นไอโอวา 4 ลำให้ทันสมัยยิ่งขึ้นด้วยการเพิ่มขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธต่อต้านเรือ รวมทั้งเรดาร์สมัยใหม่ แต่เรือทั้ง 4 ลำก็ยังคงถูกปลดประจำการในทศวรรษต่อมา
สำหรับวิสัยทัศน์ “กองเรือทองคำ” นั้น จากข้อมูลบนเว็บไซต์ “Golden Fleet” ที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ ระบุว่า เรือประจัญบานติดตั้งขีปนาวุธนำวิถีรุ่นใหม่ จะมีขนาดเท่ากับเรือประจัญบานชั้นไอโอวา แต่มีระวางขับน้ำน้อยกว่าคือเพียงแค่ 35,000 ตัน และมีลูกเรือน้อยกว่าคือ 650-850 นาย ส่วนอาวุธหลักจะเป็นขีปนาวุธ ไม่ใช่ปืนใหญ่
ทรัมป์เป็นผู้ที่มีความเห็นหนักแน่นมาโดยตลอดเกี่ยวกับบางแง่มุมของกองเรือ โดยบางครั้งเขากระทั่งต้องการให้คงเทคโนโลยีเดิมไว้แทนที่จะปรับปรุงให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เช่น ตอนที่รับตำแหน่งสมัยแรกนั้น เขาเรียกร้องให้เรือบรรทุกเครื่องบินกลับไปใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไอน้ำเพื่อปล่อยเครื่องบินขึ้นจากเรือ แทนระบบแม่เหล็กไฟฟ้าที่ทันสมัยกว่า ทว่าในเรื่องนี้เขาทำไม่สำเร็จ
ทรัมป์ยังบ่นกับฟีแลนเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของเรือพิฆาต และตำหนิว่า เรือหลายลำขึ้นสนิม
นอกจากนี้เมื่อปี 2020 ตอนไปฌญญ๋ฒอู่ต่อเรือที่กำลังต่อเรือฟริเกตชั้นคอนสเตลเลชันที่ตอนนี้ยกเลิกไปแล้วนั้น ทรัมป์ได้จัดการเปลี่ยนการออกแบบเรือลำดังกล่าวที่เขามองว่า รูปลักษณ์ไม่น่ามอง
ในวันจันทร์ ทรัมป์ประกาศว่า เขาจะมีบทบาทโดยตรงในการออกแบบเรือประจัญบานรุ่นใหม่ร่วมกับกองทัพเรือ โดยอวดอ้างว่า ตนเองเชี่ยวชาญเรื่องความสวยความงามมาก
ด้านฟีแลนรับลูกว่า เรือยูเอสเอส ดีไฟแอนต์ จะสะท้อนความน่าเกรงขามของธงชาติอเมริกันทุกครั้งที่เข้าจอดในท่าเรือของต่างชาติ
(ที่มา: เอพี)


