ญี่ปุ่นเรียกเอกอัครราชทูตจีนเข้าพบเพื่อประท้วง หลังจากโตเกียวกล่าวหาว่าเกิดเหตุการณ์เครื่องบินขับไล่จีนเล็งเรดาร์ล็อกเป้าเครื่องบินทหารของตน ขณะที่ปักกิ่งยังคงปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว พร้อมตอบโต้กลับว่าฝ่ายโตเกียวต่างหากกระทำสิ่งซึ่งเป็นอันตราย ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง สื่อแดนอาทิตย์อุทัยรายงานว่า กระบวนการของจีนในการอนุญาตการส่งออกแรร์เอิร์ธให้บริษัทญี่ปุ่นดูเหมือนใช้เวลานานกว่าปกติ
กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นแถลงตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ (6 ธ.ค.) ว่า เครื่องบินขับไล่เจ-15 ของจีนที่ทะยานขึ้นจากเรือบรรทุกเครื่องบิน “เหลียวหนิง” ซึ่งแล่นอยู่ในน่านน้ำสากลใกล้เกาะโอกินาวะของแดนอาทิตย์อุทัย ได้เล็งเรดาร์ล็อกเป้าเครื่องบินของกองทัพญี่ปุ่น 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงบ่ายและมีการล็อกเป้านาน 3 นาที ส่วนครั้งที่สองในช่วงค่ำนานประมาณ 30 นาที
ทั้งนี้ เครื่องบินขับไล่ใช้เรดาร์ควบคุมการยิงเพื่อระบุเป้าหมาย รวมถึงเพื่อการค้นหาและกู้ภัย
สำนักข่าวเกียวโดของแดนอาทิตย์อุทัย รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ทหารญี่ปุ่นว่า เครื่องบินขับไล่ของญี่ปุ่นได้บินตามเครื่องบินขับไล่จีนซึ่งกำลังฝึกซ้อมการทะยานขึ้นและลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน โดยอยู่ในระยะห่างที่ปลอดภัย และไม่ได้กระทำการใดๆ ที่อาจถูกตีความได้ว่า เป็นการยั่วยุ
ทั้งนี้ ในเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีการรุกล้ำน่านฟ้าญี่ปุ่น ตลอดทั้งไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเกิดความเสียหายใดๆ
ต่อมาในวันอาทิตย์ (7) ทาเคฮิโร ฟูนาโคชิ รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศญี่ปุ่น เรียกอู๋ เจียงฮ่าว เอกอัครราชทูตจีน เข้าพบเพื่อประท้วงการกระทำที่อันตรายดังกล่าว รวมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลจีนรับประกันว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีก
วันเดียวกันนั้น นายกรัฐมนตรีซานาเอะ ทาคาอิจิ แถลงว่า ญี่ปุ่นจะตอบโต้อย่างรอบคอบและเด็ดขาด และประกาศว่า จะดำเนินการอย่างดีที่สุดเพื่อตรวจตรารอบน่านน้ำและน่านฟ้า รวมถึงติดตามความเคลื่อนไหวของกองทัพจีนรอบๆ ญี่ปุ่น
ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศจีน ได้คัดค้านการประท้วงของญี่ปุ่น รวมทั้งได้ยื่นประท้วงตอบโต้การกระทำที่ไม่ถูกต้องของเครื่องบินญี่ปุ่นเช่นกัน
นอกจากนั้น พันเอก หวัง เสีว์ยเหมิน โฆษกกองทัพเรือจีนยังแถลงยืนยันว่า ปักกิ่งแจ้งล่วงหน้าแล้วว่า จะทำการฝึกซ้อมการบินใกล้ๆ เกาะมิยาโกะในวันเสาร์ และกล่าวหาว่า เครื่องบินญี่ปุ่นบินวนเวียนเข้าใกล้พื้นที่ฝึกซ้อมของกองทัพเรือจีนหลายครั้งและทำให้เกิดปัญหา ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อการฝึกซ้อมปกติของจีน อีกทั้งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อการบิน
คำแถลงของฝ่ายจีนสำทับว่า การกล่าวอ้างของโตเกียวไม่สอดคล้องกับความจริงโดยสิ้นเชิง พร้อมเรียกร้องให้ญี่ปุ่นยุติการใส่ร้ายทันที และย้ำว่า กองทัพเรือจะดำเนินมาตรการทั้งหมดที่จำเป็นตามกฎหมายเพื่อปกป้องความมั่นคงและสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีน
ในวันจันทร์ (8 ธ.ค.) มิโนรุ คิฮาระ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหัวหน้าโฆษกรัฐบาลโดยตำแหน่ง ออกมาแถลงตอบโต้อีกว่า คำกล่าวอ้างของจีนที่ว่า เครื่องบินของกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นขัดขวางการบินอย่างปลอดภัยของเครื่องบินจีนนั้นไม่ถูกต้อง และยืนยันว่า ญี่ปุ่นส่งเครื่องบินเอฟ-15 ขึ้นไปสกัดเนื่องจากกังวลว่า อาจมีการละเมิดน่านฟ้า รวมทั้งมีการรักษาระยะห่างอย่างปลอดภัย
วันเดียวกันนั้น กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นแถลงว่า มีเครื่องบินทะยานขึ้นและลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบินเหลียวหนิงของจีนราว 100 ครั้งในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่เรือลำนี้แล่นผ่านเกาะโอกินาวะเข้าสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่นอยู่ในอาการระหองระแหงรุนแรง ภายหลังจากที่นายกฯทาคาอิจิแสดงความเห็นในรัฐสภาญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 7 พ.ย. ว่า ญี่ปุ่นอาจแทรกแซงทางทหารหากจีนโจมตีไต้หวัน ซึ่งทำให้ปักกิ่งเกิดความเดือดดาล เนื่องจากถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน และทางการญี่ปุ่นก็ได้ยอมรับเรื่องนี้แล้วในตอนเปิดความสัมพันธ์ฉันปกติระหว่างกัน
ต่อจากนั้นมา จีนได้เตือนพลเมืองของตนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปญี่ปุ่น รวมทั้งรื้อฟื้นการห้ามอาหารทะเลญี่ปุ่นเข้าประเทศ
สัปดาห์ที่แล้ว เรือของญี่ปุ่นและจีนยังเกิดการเผชิญหน้ากันรอบหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกที่ญี่ปุ่นควบคุมแต่จีนก็อ้างกรรมสิทธิทับซ้อนอยู่ ซึ่งกลายเป็นจุดร้อนระหว่างสองประเทศมานาน
ในอีกด้านหนึ่ง หนังสือพิมพ์โยมิอุริชิมบุงของญี่ปุ่นรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า กระบวนการในการที่จีนพิจารณาอนุญาตการส่งออกแรร์เอิร์ธให้บริษัทญี่ปุ่นนั้น มีความล่าช้ายาวนานกว่าปกติ
อย่างไรก็ดี คิฮาระให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าว กระนั้นเขาชี้ว่า มาตรการควบคุมแรร์เอิร์ธของจีนในปัจจุบันส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
(ที่มา: เอเอฟพี/รอยเตอร์/เอพี)


